ฉีดโบท็อก

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล หลังฉีดมีข้อห้ามกินอะไรบ้าง

การฉีด โบท็อก เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดศัลยกรรม หรือไม่ต้องเจ็บตัวนั่นเอง รวมถึงยังเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเห็นผลไวด้วย แต่ก็อาจจะมีคำถามจากหลายๆ คนที่สงสัยกันว่า ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล หลังฉีดมาแล้วควรปฏิบัติตัวอย่างไร หรือมีข้อห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อให้ Botox สลายช้า และอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ดังนั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาตอบข้อสงสัยเหล่านี้ให้กับทุกคน เพื่อที่จะช่วยให้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธีและคงผลลัพธ์ไว้ให้นานมากที่สุด

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ?

ระยะเวลา ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล สำหรับผลลัพธ์หลังฉีดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ฉีด หากฉีดในบริเวณกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น ใต้ตา ริ้วรอยตีนกา หน้าผาก รอยขวดคิ้ว เป็นต้น ก็จะทำให้โบท็อกทำงานได้เร็วมากกว่าการฉีดในบริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กราม น่อง เป็นต้น และจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ด้วย เนื่องจากฐานการผลิตของแต่ละยี่ห้อและความบริสุทธิ์ของตัวยาจะมีความแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงเทคนิคและความชำนาญของแพทย์ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งระยะเวลาการเห็นผลหลังฉีด Botox ในตำแหน่งต่างๆ ได้แก่

  • Botox ตำแหน่งหน้าผาก ตีนกา ใต้ตา เห็นผลประมาณ 3-7 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ 2-4 สัปดาห์
  • Botox ลดกราม ปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลประมาณ 14 วัน และเห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน
  • Botox ลิฟกรอบหน้า เหนียง ลำคอ เห็นผลประมาณ 7-14 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์
  • Botox เพื่อลดเหงื่อ จะเห็นผลประมาณ 1-3 วัน และเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์

โบท็อกอยู่ได้นานแค่ไหน และควรฉีดซ้ำทุกกี่เดือน ?

โดยปกติแล้วหลังการฉีด Botox ลดริ้วรอยจะเห็นผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ส่วนโบท็อกลดกรามจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นานมากน้อยแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลหลังฉีดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อโบท็อกสลายไปหมดตามธรรมชาติก็จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และไม่มีสารตกค้าง

สำหรับการฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ให้นานขึ้น ไม่ควรฉีดติดต่อกันถี่เกินไป ควรเว้นจากครั้งล่าสุดที่ฉีดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่ควรเว้นระยะห่างที่นานเกินไป ประมาณ 5-6 เดือน เนื่องจากหากเว้นระยะนานจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ ถ้าต้องการกลับมาฉีดอีกครั้งอาจจะต้องใช้ยูนิตโบท็อกเยอะมากขึ้น

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Botox ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?

การดูแลตัวเองหลังฉีด Botox เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้โบท็อกออกฤทธ์ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ โดยมีวิธีดูแลตัวเองที่ถูกต้อง คือ

  • หลีกเลี่ยงการกด นวด ถู แกะ เกาบริเวณที่ฉีด เพราะอาจจะส่งผลต่อตัวยาที่กระจายตัวไปในกล้ามเนื้ออื่นที่ไม่ต้องการได้
  • ช่วง 3 ชั่วโมงแรกหลังทำ ให้งดนอนราบ หรืองดการก้มหน้าลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น แล้วจะส่งผลให้โบท็อกกระจายไปบริเวณที่ไม่ต้องการมากขึ้นด้วย
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและการทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า การออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด และเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด
  • ควรรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc
  • หลังฉีดควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง ประมาณ 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปมากที่สุด
การฉีด Botox

หลังการ ฉีดโบท็อก จะเห็นผลในกี่วันนั้น ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย อย่างไรก็ตามหากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกทำกับคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญสูง ซึ่งคุณสามารถปรึกษากับคุณหมอพอล ที่ All About Clinic ของเราได้ โดยคุณหมอจะช่วยประเมินความเหมาะสมก่อนที่จะทำการฉีด และการันตีถึงความปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

หลังฉีดโบท็อกห้ามกินอะไรบ้าง ?

ในช่วงหลังจากฉีด Botox มาประมาณ 14 วันหลัง มีอาหารที่ควรงดทาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงและเพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ยาวนาน มีดังนี้

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดการสูบบุหรี่
  • งดรับประทานอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาหรือต้องโดนไอความร้อน เช่น ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่าง
  • งดอาหารหมักดอง เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า ผักดอง และผลไม้ดองต่างๆ
  • งดอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และอาหารทะเล
  • งดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด หรืออาหารที่ทำให้แสบร้อนจนหน้าแดง
ฉีดโบท็อก

หากคุณต้องการฉีด Botox หรือสนใจศัลยกรรมความด้านอื่นๆ เช่น เสริมจมูก เสริมคาง ปากกระจับ ตาสองชั้น และการดูแลผิวพรรณ สามารถปรึกษาคุณหมอโดยตรงและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line @AACCENTER ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ