อยาก หน้าใส เรียบเนียน ไร้สิว ต้องทำหัตถการอะไรบ้าง อัปเดต 2023​
Home » อยากหน้าใส เรียบเนียน ไร้สิว ต้องทำหัตถการอะไรบ้าง อัปเดต 2023

อยาก หน้าใส เรียบเนียน ไร้สิว ต้องทำหัตถการอะไรบ้าง อัปเดต 2023

          ปัจจุบันใคร ๆ ก็ต่างหันมาดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ก็เพราะอยากมีผิวสวย หน้าใส เนียนนุ่ม ไร้สิว ดูน่าสัมผัสกันมากขึ้น หลายคนจึงต้องมองหาตัวช่วยและวิธีต่าง ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยและต้องการบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนและผิวดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น เพราะการมีผิวหมองคล้ำ หรือมีริ้วรอย ทั้งริ้วรอยจากอายุที่มากขึ้น หรือการมีรอยดำรอยแดงจากสิว ก็คงจะทำให้หมดความมั่นใจในผิวหน้าไปไม่น้อย วันนี้เรา All About Clinic เลยอยากจะมาแนะนำ 5 หัตถการความงามที่จะช่วยทำให้หน้าใส ผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และมีความปลอดภัยสูงมาฝากทุกคนกัน ซึ่งแต่ละหัตถการนั้นจะเหมาะกับใคร มีข้อดีอย่างไรบ้าง ตามไปดูพร้อมกันได้เลยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

รวม 5 หัตถการยอดฮิต ช่วยให้ผิวหน้าใสอย่างเป็นธรรมชาติ

1. เมโสหน้าใส (Mesotherapy)

เริ่มกันที่หัตถการแรกที่จะช่วยปรับผิวของคุณให้กระจ่างใสและดูสุขภาพดียิ่งขึ้น โดยการฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดสารสกัดเข้มข้นจากวิตามินสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะทำการฉีดเข้าไปในผิวชั้นกลางของผิวหน้าโดยตรง ทำให้วิตามินเข้าไปบำรุงอย่างลึกถึงชั้นผิวภายใน และช่วยในการเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ผลัดเซลล์ผิวเก่า และเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้จุดด่างดำดูจางลง รูขุมขนกระชับขึ้น โดยวิธีนี้จะทำให้ผิวหน้าค่อย ๆ ฟื้นฟูและหน้าใสขึ้นภายใน 3-5 วัน 

รีวิว All in Derm
หลังฉีด All in Derm ครั้งที่ 2
รีวิว Hayyan
หลังฉีด P-cell | Hayyan ครั้งที่ 2
รีวิว Rejuran
หลังฉีด Rejuran ครั้งที่ 1

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ และผิวหมองคล้ำ
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น
  • ผู้ต้องการเห็นผลหน้าขาวใสอย่างเร่งด่วน
  • ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง นอนน้อย และทำงานหนัก
  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ

ข้อดี

  • ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน
  • เป็นสารอาหารให้ผิวอย่างล้ำลึก
  • ตัวยาจะออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลไว
  • ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ
  • ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดี
  • ลดการเกิดริ้วรอยและสิวใหม่ได้ดี

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • อาจเกิดอาการแพ้ และมีการอักเสบกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  • การฉีดเมโสปลอม หรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้มีอาการแพ้ เป็นผื่น และติดเชื้อจากรอยเข็มได้

2. มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen)

อยากมีผิวหน้าใสรักษาด้วย มาเด้ คอลลาเจน อีกหนึ่งหัตถการหน้าใสที่ตัวยาจะมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้งวิตามินรวม คอลลาเจน แร่ธาตุ และเอนไซม์ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติของมนุษย์ โดยจะทำการฉีด 16 จุดทั่วใบหน้า ซึ่งจะทำให้มีเกิดกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น ทำให้ผิวขาว ผิวดูสดใส หน้าฉ่ำวาว และมีจุดเด่นที่จะช่วยขับสารพิษตกค้างอยู่ในผิว ช่วยลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว และชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน โดยหลังฉีดจะเริ่มเห็นผลผิวหน้าดีขึ้นประมาณ 3 วัน

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและผลัดเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเสียจากแสงแดด ไม่ชุ่มชื้น และหยาบกร้าน
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ผิวขาดการบำรุง
  • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวโทรมดูอ่อนล้า
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน

ข้อดี

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง และกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง
  • ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
  • ช่วยดูแลผิวให้กลับมาแข็งแรงได้จากภายใน
  • เห็นผลได้เร็วกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป
  • ปรับสมดุลให้ผิวมีภูมิคุ้มกันที่ดี
  • รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฉีดในหญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • อาจเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เอง 3-4 ชั่วโมง
  • ระวังเจอมาเด้ปลอม หรือไม่มาตรฐาน จะทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง มีผื่นแพ้ และติดเชื้อได้

3. เติมวิตามินผิว

ฉีดผิวขาว หรือการเติมวิตามินผิว จะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวขาวใสขึ้นได้ทั้งตัว โดยเป็นหัตถการการฉีดวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ผิวผ่านทางเส้นเลือดดำเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินได้มากถึง 90% มากกว่าการรับประทานวิตามินที่ร่างกายจะดูดซึมได้เพียง 50% เท่านั้น และจะทำให้วิตามินหรืออาหารผิวลงไปถึงผิวหนังชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวกระจ่างใสดูสุขภาพดีขึ้น และช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ รวมทั้งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมผิวให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว

หน้าใส

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหมองคล้ำ และมีจุดด่างดำต่าง ๆ
  • ผู้ที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและร่างกายในเวลารวดเร็ว
  • ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย

ข้อดี

  • ตัวยาออกฤทธิ์ไว ทำให้ฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  • ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาว
  • ช่วยบำรุงจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
  • ลดอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น
  • กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฉีดกับหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • อาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดให้มากที่สุด
  • ไม่ควรฉีดกับผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ และผู้ที่มีภาวะเหล็กเกิน
  • อาจเกิดอาการแพ้สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาบางชนิด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด

4. ฉีดรีจูรัน (Rejuran)

อีกหนึ่งหัตถการบำรุงผิวสวยยอดฮิตที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งการฉีดรีจูรัน จะเป็นการฟื้นฟูผิวที่มีส่วนประกอบหลักจาก โพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide)ที่สกัดจากชิ้นส่วน DNA จากปลาแซลมอน โดยจะมีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ถึง 98 % เมื่อนำมาฉีดจะช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสสุขภาพดีจากภายใน ผิวแข็งแรงขึ้น แก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ลดเลือดริ้วรอยได้ดี ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ช่วยปรับผิวให้ฉ่ำวาว ผิวกระจก และผิวมีออร่าได้แบบเร่งด่วน หลังฉีดจะรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ผิวที่ดูดีขึ้นใน 3-5 วัน

ข้อควรรู้ก่อนฉีด rejuran หน้าใส

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการให้ผิวสว่างกระจ่างใส ผิวดูสุขภาพดี ฉ่ำวาวแบบผิวกระจก
  • ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่ต้องการผิวหน้าเต่งตึง กระชับ และดูสดชื่น
  • ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูจางลง
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน

ข้อดี

  • ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น
  • ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว อิ่มฟู แต่งหน้าติดง่ายขึ้น
  • ช่วยป้องกันผิวหย่อยคล้อย และลดการเกิดสิว
  • กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยฟื้นฟูและผลัดเซลล์ใหม่

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฉีดในหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่แพ้ปลาแซลมอน หรืออาหารทะเลไม่ควรทำ
  • อาจมีอาการบวมแดง และรอยเข็มขึ้นหลังฉีด แนะนำให้พักหน้าหลังฉีดอย่างน้อย 1-2 วัน
  • ไม่ควรฉีดในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง และโรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ

5. ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive

ปิดท้ายกันด้วยหัตถการ หน้าใส ตัวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก นั่นก็คือ ฟิลเลอร์ Belotero Revive หรือ ฟิลเลอร์กล่องเขียว ซึ่งเป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลกที่มีส่วนประกอบของ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) และ กลีเซอรอล (Glycerol) มาผสมเข้าด้วยกัน โดยมีจุดเด่นที่จะช่วยทำให้ผิวดูดีขึ้นได้ 4 มิติ เช่น ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู เด้งกระชับ และชุ่มชื้นฉ่ำวาว โดยจะทำการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าจากภายในสู่ภายนอก ลดการเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดียิ่งขึ้น หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ผิวดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น และกระชับขึ้นภายใน 14 วัน

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ผิวดูไม่สดใส
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และรอยหลุมสิวตื้น ๆ
  • ผู้ที่ต้องการมีผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ และผิวกระจกแบบสาวเกาหลี
  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับ ไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด
Belotero Revive ดียังไง

ข้อดี

  • ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยอุ้มน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวฉ่ำวาว เปล่งปลั่ง มีออร่า
  • เพิ่มความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของชั้นผิว
  • ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ หลุมสิวตื้นขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฉีดในหญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • อาจพบรอยตุ่มนูนของตัวยาหลังฉีด ซึ่งจะหายได้เองภายใน 6-8 ชั่วโมง
  • ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือมีอาการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
  • ไม่แนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเกิด hypertrophic scars หรือ keloids

เทคนิคการดูแลตัวเองให้หน้าใสด้วยวิธีธรรมชาติมีอะไรบ้าง

นอกจากวิธีการรักษาผิวให้กระจ่างใสด้วยการทำหัตถการด้านความงามแล้ว ยังมีอีกวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบธรรมชาติ โดยมีดังนี้

  1. การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกาย ประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน 
  2. ล้างหน้าให้สะอาด เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารก่อการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ เป็นต้น
  3. เลือกรับประทานอาหาร ผัก และผลไม้ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
  5. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
  6. เลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารไวเทนนิ่ง
  7. พักการแต่งหน้าบ้าง
  8. ลดความเครียด
  9. ออกกำลังกายให้หัวใจสูบฉีด ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
  10. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดบุหรี่
ผิวใส

สรุป เลือกหัตถการไหนดีให้ผิวหน้ากระจ่างใส

          หัตถการดูแลหน้าใสที่เรารวบรวมมาแนะนำให้กับทุกท่านในวันนี้ ทุกหัตถการเป็นนวัตกรรมที่ปลอดภัย เห็นผลได้จริง ซึ่งก็จะมีข้อดีและข้อควรระวังต่าง ๆ ด้วย โดยคุณสามารถเลือกตามความเหมาะสมของตัวเองได้ หรือหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกทำวิธีไหนดี เราขอแนะนำให้คุณเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิก All About Clinic ของเราจะดีที่สุดค่ะ เพื่อให้คุณหมอได้ประเมินความเหมาะสมในการเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดที่จะเหมาะสมกับสภาพผิวของคนไข้แต่ละบุคคล 

นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของคนไข้ และการดูแลตัวเองหลังทำด้วย หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรรับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทุกคนก็จะมีผิวสวย หน้าใส ดูสุขภาพดีได้อย่างแน่นอนค่ะ

สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจอยากฉีดผิวขาวใส ปรับรูปหน้า และดูแลผิวพรรณสามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอพอลหรือทักปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ที่ : Line @AACCENTER ได้เลยนะคะ

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)