8 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ PRP ผม จากผู้เชี่ยวชาญ มีอะไรบ้าง

การทำ PRP ผม เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะผมร่วงบาง ศีรษะล้าน ด้วยนวัตกรรมการรักษาที่ปลอดภัย ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และยังช่วยบำรุงรากผมได้ผลจริงจึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการทำ PRP ผม และเจาะลึก 5 คำถามเกี่ยวกับการทำ PRP กันในบทความนี้ค่ะ

ทำความรู้จัก PRP ผม คืออะไร

PRP หรือ Platelet-Rich Plasma คือหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูรากผมและหนังศีรษะ ลดการเกิดผมร่วง บางศรีษะล้าน โดยการนำเลือดมาปั่นจนเกิดการแยกชั้นของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว และพลาสม่า (เกล็ดเลือดเข้มข้น) ซึ่งในเกล็ดเลือดนี้จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงเซลล์รวมถึง Growth Factor ที่เด่นในการฟื้นบำรุงซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง

โดยขั้นตอนการทำ PRP นั้น จะเริ่มจากการเจาะเพื่อตรวจความสมบูรณ์ของเลือด หากผ่านเกณฑ์แพทย์จะทำการเก็บเลือดจากบริเวณข้อพับแขน และนำเลือดที่ได้ไปเข้าเครื่องปั่นเพื่อให้สามารถแยกเฉพาะเกล็ดเลือดเข้มข้นออกมาจากนั้นก็นำเอาเกล็ดเลือดที่ได้ฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการฟื้นฟู

รวม 8 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ PRP

1. ฉีด PRP กี่ครั้งถึงเห็นผล

การฉีด PRP ผม ส่วนใหญ่จะเห็นผลหลังจากฉีดบำรุง 2-3 ครั้งขึ้นไป หลังฉีดจะสังเกตผลได้ไม่ชัดเจนในครั้งเดียว แต่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวตามระยะวงจรการเติบโตของเส้นผม

2. ฉีด PRP ได้ผลจริงไหม

การฉีด PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นเป็นการรักษาที่มีงานวิจัยรองรับและใช้ในวงการแพทย์ด้านการรักษาชะลอการเสื่อมสภาพและลดการบาดเจ็บของเซลล์ ซึ่งการรักษาผมร่วงบางด้วย PRP จะช่วยกระตุ้นการทำงานของรากผม และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ โดยส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลหลังจากฉีด 2-3 ครั้ง (สำหรับที่ All About Clinic ฉีดเดือนละ 1 ครั้ง)

3. การทำ PRP เหมาะกับใครบ้าง ?

คนที่มีภาวะผมบาง เส้นผมอ่อนแอหลุดร่วงง่าย ต้องการชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะที่อ่อนแอจากการทำเคมี หรือแห้งเสียจากการโดนความร้อน
เหมาะกับคนที่อยากได้ตัวช่วยในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

4. การฉีด PRP มีผลข้างเคียงไหม

PRP เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ เพราะเลือดที่นำไปฉีดนั้น เป็นเลือดของผู้เข้ารับบริการเอง ทั้งนี้ผลข้างเคียงที่อาจจะพบได้ก็เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้เข็มทำหัตถการ เช่น อาการฟกช้ำ หรือปวดเล็กน้อย แต่สามารถหายเองได้ ไม่อันตรายค่ะ

5. ถ้าหยุดฉีด PRP ผมจะร่วงไหม

ต้องดูที่สาเหตุต้นตอของการเกิดผมร่วง หากเกิดจากฮอร์โมน หรือกรรมพันธุ์ การฉีด PRP ก็จะเป็นการชะลอความเสื่อมวัยของรากผม และบำรุงให้ดีขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนได้ แนะนำว่าให้ทำ PRP ร่วมกับการรักษาด้วยการทานยา หรือการปรับพฤติกรรมดูแลผมร่วมด้วย

6. ทำ PRP เจ็บไหม ต้องดูแลหลังทำยังไงบ้าง

การทำ PRP จะเจ็บในขั้นตอนการเก็บเลือด และตอนที่ฉีดเกล็ดเลือดกลับเข้าบริเวณที่ต้องการบำรุง แต่เป็นความเจ็บเล็กน้อยที่สามารถทนได้ ซึ่งก่อนฉีด PRP ผู้ช่วยแพทย์จะทำการประคบน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บก่อนฉีดค่ะ

ส่วนการดูแลหลังทำ PRP ผม แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงไม่ให้ผมโดนน้ำ และงดออกกำลังกายหรือกิจกรรมหนัก ๆ ที่ทำให้เกิดเหงื่อบริเวณศีรษะ หลังฉีด 24 ชม.

7. ทำ PRP ราคาเท่าไหร่

ราคา PRP แต่ละคลินิกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและโปรแกรม โดยส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ PRP 1 ครั้ง 3,500 – 4,500 บาท หรือราคาเป็นคอร์สเหมาจำนวนครั้ง ก็จะเริ่มที่ 20,000 บาท แนะนำว่าให้สอบถามราคากับคลินิกที่สนใจ หรือสามารถติดตาม โปรโมชั่นจาก All About Clinic ได้ที่ด้านล่างนี้เลย

8. การทำ PRP ดีไหม เมื่อเทียบกับผลลัพธ์

การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นหรือ PRP นั้นเป็นหัตถการที่ปลอดภัย และช่วยเร่งการฟื้นฟูสภาพรากผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรง โดยการรักษาจะเห็นผลลัพธ์ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป แต่ในบางคนอาจจะเห็นผลช้าหรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความเสียหายของรากผมเดิม

ถ้าถามว่าการทำ PRP ดีไหมนั้น ผลลัพธ์ก็อาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับการปลูกผม จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วงบางไม่ร้ายแรงมาก และมีเวลาในการรักษาดูแลระยะยาว 3-6 เดือนขึ้นไปค่ะ

นอกจาก PRP มีหัตถการอะไรที่ช่วยลดผมร่วงได้บ้าง ?

เลเซอร์ลดผมร่วง LLLT

เลเซอร์ลดผมร่วง Healite Laser เป็นเลเซอร์ชนิดคลื่นแสงความถี่ต่ำ LLLT (Low Level Laser Therapy) ที่มีความยาวคลื่นในช่วง 625 – 740 นาโนเมตร ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ศีรษะสร้างอนุมูลอิสระ และช่วยในการไหลเวียนโลหิต ทำให้รากผมสามารถแลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนได้ดีขึ้น

เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์ ผมร่วงหลังคลอด หรือผมร่วงเป็นหย่อม นอกจากนี้หากรับการฉายแสงเลเซอร์หลังปลูกผมก็จะช่วยในการลดการอักเสบบวมช้ำ บำรุงรากผมเพื่อลดโอกาสการเกิด Shock loss หลังปลูกผมได้อีกด้วย

การทานยา หรือวิตามินบำรุงผม

การทานยาหรือวิตามินเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วงไม่หนักมาก หรือเหมาะกับเคสที่ผมร่วงจากฮอร์โมน การรักษาด้วยการทานยาปรับฮอร์โมนก็จะช่วยลดไม่ให้เกิดภาวะผมร่วง ทั้งนี้การรักษาต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษา รวมถึงให้แพทย์ช่วยจ่ายยาเพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากการทานยาได้

บทความแนะนำ : 7 วิตามินบำรุงเส้นผม ยี่ห้อไหนดี ลดผมร่วง บำรุงผมให้สุขภาพดี 2023

การปลูกผม

สำหรับการปลูกผม เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วงบาง ศีรษะล้านได้แบบถาวร แต่ก็จะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับการทำ PRP เพราะการปลูกผมนั้นจะเป็นการผ่าตัดแบบย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยไปยังจุดที่ต้องการปลูกใหม่ ซึ่งเป็นหัตถการที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความชำนาญสูง

โดยเทคนิคที่ใช้หลัก ๆ จะมี 3 เทคนิคด้วยกันคือ

ปลูกผม FUE : การปลูกผมแบบย้ายรากที่ขั้นตอนการปลูกใหม่จะใช้วิธีเจาะรูแล้วใช้คีมปลูกผมในการคีบกราฟต์ผมลงไปปลูกใหม่
ปลูกผม DHI : เทคนิคปลูกผมที่ในข้ันตอนปลูกจะใช้ปากกาปลูกผมที่สามารถเจาะพร้อมกับปลูกผมได้ในครั้งเดียว
ปลูกผม Lean : เทคนิคปลูกผมพิเศษ เฉพาะที่ AAC ที่เพิ่มการตัดแต่งเนื้อเยื่อส่วนเกินของกราฟต์ผมออกให้ Lean ที่สุด เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการปลูกผมให้ได้จำนวนเส้นผมเพิ่มขึ้น และปลูกได้แน่นมากขึ้น

นอกจาก 3 เทคนิคด้านบนแล้ว การปลูกผมยังสามารถปลูกแบบ Long Hair ที่ไม่ต้องโกนศีรษะด้านหลังเพื่อเก็บกราฟต์และได้ผมที่ปลูกใหม่แบบเส้นยาวทันที ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการปลูกแบบ Long Hair หรือ Non-shaven จะปลูกด้วยเทคนิค DHI หรือเทคนิค Lean ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สรุปก่อนทำ PRP ผม ต้องเช็คลิสต์อะไรบ้าง ?

ก่อนทำ PRP ผม สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลิสต์เป็นรายการ มีดังนี้

ตรวจเช็คว่าไม่มีโรคต้องห้าม และเลือดมีความสมบูรณ์ดี
เตรียมความพร้อมในเรื่องของค่าใช้จ่าย เพราะ PRP จะให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์คือหลังทำ 2-3 ครั้งขึ้นไป ดังนั้นจึงต้องเตรียมงบประมาณให้พร้อม
ประเมินความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ หากมีปัญหาศีรษะล้านหนักมาก การทำ PRP จะได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถหวังผลเทียบเท่ากับการปลูกผมได้

หากเช็คลิสต์รายการเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว อยากสอบถามโปรโมชั่นจาก All About Clinic หรือรับส่วนลดทุกบริการ 60% ก็สามารถสอบถามได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ