Home » เชื้อราบนหนังศีรษะ รักษา อย่างไรให้หายขาด ?
รักษา เชื้อราบนหนังศีรษะ
last update :

เชื้อราบนหนังศีรษะ รักษา อย่างไรให้หายขาด ?

อาการคัน ผมหลุดร่วง และอาการ ผมร่วงเป็นหย่อม อาจมีสาเหตุมาจาก เชื้อราบนหนังศีรษะ หากปล่อยทิ้งไว้ อาจจะทำให้เกิดภาวะที่รุนแรงขึ้นอย่าง การกลุดร่วงของเส้นผมอย่างถาวร ทำให้หัวล้าน ดังนั้นการไปพบแพทย์เพื่อ ตรวจหาสาเหตุว่า เชื้อราบนหนังศีรษะ รักษา อย่างไร ? สาเหตุเกิดจากอะไร ? จะทำให้สามารถดูแลเส้นผม และหนังศีรษะ ได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา รวมไปถึงการฟื้นฟูเส้นผม ในบริเวณที่เกิดเชื้อรา

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

เชื้อราบนหนังศีรษะ

เชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis) เป็นการติดเชื้อราในกลุ่ม เดอร์มาโทไฟต์ (Dermatophyte) เชื้อชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดี ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เชื้อราชนิดนี้จะเข้าไปทำลายโครงสร้างสำคัญของเส้นผมและหนังศีรษะ นั่นก็คือ เคราติน (Keratin) เชื้อรายังทำให้เกิดการอักเสบของรูขุมขน เส้นผมจึ
อ่อนแอ แตกหัก และหลุดร่วงได้ง่าย ซึ่งเชื้อราบนหนังศีรษะในกลุ่ม เดอร์มาโทไฟต์ ที่ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม จะมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ

  • Trichophyton tonsurans : เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกลาก ที่บนหนังศีรษะ อาการคือ จะมีผื่นแดงเป็นวงกลม และมีสะเก็ด เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม และพบมากในเด็ก
  • Microsporum canis : เชื้อราที่ติดต่อได้จากสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น สุนัข หรือแมว อาการที่พบคือ จะเกิดผื่นแดง มีสะเก็ดหนา และทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ได้
เชื้อราบนหนังศีรษะ

สาเหตุที่ทำให้เกิด เชื้อราบนหนังศีรษะ

สาเหตุที่ทำให้เกิด เชื้อราที่หนังศีรษะ เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจาก สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตระจำวัน

ความชื้น

สภาพอากาศที่ร้อนชื้น โดยเฉพาะอากาศในประเทศไทย มีส่วนทำให้หนังศีรษะ ผิวหนังอับชื้น ซึ่งถ้าหากทำความสะอาดหนังศีรษะ ไม่เหมาะสม หรือการปล่อยให้ผมเปียกชื้น หลังจากสระผมเป็นเวลานาน ยิ่งมีโอกาสที่จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี และเชื้อรายิ่งแพร่กระจาย หากมีการใช้หวี หรืออุปกรณ์จัดแต่งทรงผมร่วมกันกับผู้อื่น

การติดเชื้อ

การสัมผัสกับสิ่งของที่มีเชื้อราปนเปื้อนอยู่ ทั้งบนปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว หมวก หวี รวมไปถึงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงที่มีเชื้อรา ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดภายในบ้าน ทำความสะอาดของใช้ และหากมีสัตว์เลี้ยง ก็ต้องดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยงด้วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา

ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อราที่หนังศีรษะได้มากกว่าคนอื่น เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะความเครียดสูง นั่นเป็นเพราะร่างกายไม่สามารถต่อต้าน การเจริญเติบโตของเชื้อรา ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การแพร่กระจายของเชื้อรา

เชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นโรคติดต่อ ที่เชื้อสามารถแพร่กระจาย ทำให้ติดได้ทั้งจาก คน สัตว์ และสิ่งของ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบว่า เชื้อราบนหนังศีรษะมักจะเกิดจากการติดจากการแพร่กระจายของเชื้อจากสภาพแวดล้อม ดังนี้

เชื้อราบนหนังศีรษะ
  • การแพร่กระจายจากคนสู่คน : การติดเชื้อจากคนสู่คน จะพบในกรณีที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ร่างกายอ่อนแอ เช่น เชื้อราบนหนังศีรษะที่เกิดขึ้นกับเด็กในวัยเรียน เพราะติดเชื้อมาจากที่โรงเรียน และกรณีที่ติดเชื้อมาจาก การใช้สิ่งของร่วมกัน ของผู้ที่พักอาศัยร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน
  • การแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน : เชื้อราบนหนังศีรษะ สามารถติดได้จากสัตว์เลี้ยง ทั้งสุนัขและแมว สามารถพบได้บ่อยในกรณีที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้าน ผู้ที่คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงบ่อย ๆ หรือนอนเตียงเดียวกันกับสัตว์เลี้ยง
  • การติดเชื้อจากสิ่งของ : การติดเชื้อราจากของใช้ สาเหตุเพราะใช้สิ่งของ เช่น หวี กรรไกรตัดผม หมวก หรืออุปกณณ์จัดแต่งทรงผม รวมกันกับผู้ที่เป็นพาหะเชื้อรา หรือการเข้าร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ดังนั้นจึงควรป้องกันโดยการเลือกเข้าร้านทำผมที่สะอาด และเมื่อเกิดแผลที่หนังศีรษะ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้อื่น

อาการเชื้อราบนหนังศีรษะ

อาการของการติดเชื้อบนหนังศีรษะ จะแสดงอาการใน 2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับเชื้อมา และสามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้

  • ผมร่วงเป็นหย่อม อาจจะสังเกตุเห็นจุดวงกลม ที่หนังศีรษะ
  • ผื่นบนหนังศีรษะที่มีลักษณะเป็นวงกลม
  • หนังศีรษะแห้ง ลอกเป็นขุย มีลักษณะคล้ายกับรังแค
  • มีอาการคันอย่างรุนแรงที่หนังศีรษะ
  • ผมอ่อนแอ ขาด หลุดร่วง ได้ง่ายขึ้น
  • อาจจะพบอาการต่อมน้ำเหลืองโตที่ คอ หรือหู ในเคสที่เป็นเด็ก
  • หนังศีรษะบริเวณที่ติดเชื้อรา จะมีสีแดง
  • อาจจะพบตุ่มหนองเล็ก ๆ หรือฝี ในเคสที่มีการอักเสบแบบรุนแรง
  • มีหนองเป็นก้อน หรือ ชันตุ (Kerion)
  • อาจมีไข้ต่ำ ๆ และมีอาการเจ็บตรงบริเวณที่ติดเชื้อ

วิธีรักษา เชื้อราบนหนังศีรษะ

1. ยาสระผม

หากเกิดการติดเชื้อราที่หนังศีรษะในช่วงแรก และอาการไม่รุนแรง ไม่มีการอักเสบของผิวหนังร่วม แพทยือาจจะแนะนำให้รักษาด้วยการ ใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา หรือใช้ยาสระผมที่ส่วนผสมของ คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) โดยสระผม 3 ครั้งต่อสัปดาห์

2. ยาต้านเชื้อราเฉพาะที่

ยาต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ที่ผสมอยู่ในแชมพู หรือ ซีลีเนียม ซัลไฟด์ (Selenium Sulfide) สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ เชื้อราที่หนังสีรษะได้ โดยใช้ทาเฉพาะบริเวณที่เกิดเชื้อรา แต่อาจจะไม่สามารถรักษาเชื้อราที่ลุกลามลึกเข้าไปยังรูขุมขนได้

3. ยาต้านเชื้อราแบบรับประทาน

ยาต้านเชื้อราแบบรับประทาน จะเป็นตัวยาเทอร์บินาฟีน (Terbinafine) หรือ ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) จะใช้สำหรับกรณีที่มีการติดเชื้อราในระดับที่รุนแรง ซึ่งตัวยาทั้งสองชนิดนี้สามารถกำจัดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การรักษาด้วยเลเซอร์

การรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ ด้วยการทำเลเซอร์ นอกจากจะช่วยทำลายเชื้อราแล้ว เลเซอร์ยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่หนังศีรษะ ทำให้รูขุมขนกระชับ เส้นผมแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดโอกาสการติดเชื้อราซ้ำได้เป็นอย่างดี

เชื้อราบนหนังศีรษะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่สามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยที่ดีและการรักษาที่เหมาะสม การรู้จักสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีอาการผิดปกติที่หนังศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าพยายามรักษาด้วยตนเอง เพราะมีโอกาสที่เป็นเชื้อราเรื้องรัง และมีอาการรุนแรงขึ้น