อัปเดตคำถาม ปลูกผม Pantip ตอบคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม

การปลูกผม สำหรับหลาย ๆ คนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบ ด้วยราคาที่สูง ทรัพยากรในการปลูกที่จำกัด รวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังปลูก ดังนั้นการหาข้อมูลที่รอบคอบก่อนตัดสินใจจึงจำเป็นมาก ไม่เว้นการหารีวิวหรือข้อมูลจากเว็บบอร์ดเมืองไทยอย่าง Pantip ที่แทบจะรวมทุกอย่างทั้งรีวิว ข้อมูลมากมาย การแชร์ประสบการณ์ ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวมคำถามสำหรับการปลูกผมที่ชาว Pantip สงสัยมาอธิบายกันในบทความนี้ค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

รวม 8 คำถามเกี่ยวกับการปลูกผม จาก Pantip

1. ปลูกผมที่ไหนดี ?

การเลือกคลินิกปลูกผมนั้น แนะนำเลือกจากการเดินทางง่ายเป็นหลัก จากนั้นก็ดูรีวิวและตรวจสอบคลินิกว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะหลังปลูกผมไปแล้วจะต้องนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ประสบการณ์ของแพทย์เองก็สำคัญ ดังนั้นจึงต้องเลือกคลินิกที่หมอเชี่ยวชาญและมีรีวิวเยอะ

2. ปลูกผม ราคาเท่าไหร่

ราคาปลูกผมในปี 2567-2568 ราคาจะไม่ต่างกันมากนัก โดยคิดราคาเป็นกราฟต์ผม ราคาเริ่มต้นตั้งแต่กราฟต์ละ 60-80 บาท (ในการปลูกแต่ละครั้งจะใช้จำนวนกราฟต์ผมประมาณ 1,000 – 2,500 กราฟต์ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก) ส่วนราคาในแต่ละคลินิกจะอยู่ระหว่างที่ 80,000 – 120,000 บาท

ทั้งนี้สามารถติดตามราคาและโปรโมชั้นของ All About Clini ได้ที่  : โปรโมชั่น All About Clinic

3. หลังปลูกผมไปแล้ว ผมจะขึ้นชัวร์ไหม

การปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องดูผลลัพธ์ระยะยาว คือหลังปลูก 18 เดือนเส้มผมใหม่จะเติบโตสมบูรณ์เต็มที่ ซึ่งหลายคนจะกังวลว่าผมจะไม่ขึ้นในช่วง 1 – 3 เดือนแรก เพราะเป็นระยะที่เกิดภาวะ Shockloss หลังปลูกผมทำให้ผมที่ปลูกใหม่ร่วงบาง แต่หลังจากเส้นผมงอกใหม่ก็จะเส้นหนาดกดำค่ะ

ส่วนกรณีปลูกผมไม่ขึ้นนั้นสามารถเกิดได้ สาเหตุจากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญมีประสบการณ์น้อย หรือคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก่อนปลูกก็แนะนำให้เลือกหมอและคลินิกจนมั่นใจก่อนปลูกค่ะ

ผลลัพธ์หลังปลูกผม

4. จำเป็นต้องปลูกกับแพทย์อเมริกันบอร์ด (ABHRS) ไหม ?

แพทย์อเมริกันบอร์ด เป็นแพทย์ที่ได้รับการรับรองด้านความชำนาญในการปลูกถ่ายเส้นผม ถ้าถามว่าจำเป็นต้องปลูกกับแพทย์ ABHRS เท่านั้นไหม ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนไข้เป็นหลัก เพราะแพทย์ที่มีการรับรองอเมริกันบอร์ดราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้แนะนำให้ดูจากประสบการณ์แพทย์ และรีวิวเป็นหลัก

5. เทคนิค FUE กับ DHI ปลูกเทคนิคไหนดีกว่ากัน

ทั้งสองเทคนิคคือการปลูกแบบย้ายรากผมเหมือนกัน แต่ต่างกันที่เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกคือเทคนิค FUE จะใช้คีม Forceps ในการปลูกส่วน DHI จะใช้ปากกาปลูกผม Implanter ผลลัพธ์ที่ได้หลังปลูกก็จะต่างกันเล็กน้อย คือ เทคนิค DHI จะปลูกได้ชิดกว่า ปลูกง่ายคุมทิศทางผมได้ดีและใช้เวลาน้อย ทำให้ราคาสูงตามไปด้วย

ถ้าถามว่าปลูกเทคนิคไหนดีกว่ากัน ก็แนะนำว่าถ้างบถึงการปลูกแบบ DHI ก็คุ้มค่ากว่า เพราะจะได้ใช้กราฟต์ผมได้คุ้มค่าที่สุด

6. ปลูกผมเจ็บไหม

การปลูกผมเป็นหัตถการที่ทำร่วมกับการฉีดยาชา จึงเจ็บในขั้นตอนที่ฉีดยาชาหลังจากนั้นก็ปลูกผมได้แบบชิลล์ ๆ ไม่เจ็บ ส่วนหลังจากยาชาหมดฤทธิ์นั้นอาจจะรู้สึกปวด หรือระบมศีรษะด้านหลังหรือบริเวณที่ปลูกผมใหม่อยู่บ้าง แต่สามารถทานยาแก้ปวดได้ และอาการปวดจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-4 วันค่ะ

7. หลังปลูกผมต้องกินยาไหม

ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าเส้นผมนั้นมีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน โดยการทานยาหลังปลูกคุณหมอจะประเมินหลังจากตรวจเส้นผม และทำการวางแผนการรักษา ซึ่งการทานยาจะเป็นยาบำรุงรากผม กระตุ้นให้รากผมมีความแข็งแรงมากขึ้น หลังจากที่เส้นผมสมบูรณ์เต็มที่ก็จะมีการปรับลดยาหรือหยุดทานยาได้ค่ะ

8. ปลูกผมแบบ Long Hair ดีไหม

การปลูกผมแบบ Long Hair หลังปลูกผมด้านหน้าจะยาวทันที เหมือนแนวผมเดิมข้อดีคือดูเนียนทันทีเหมือนไม่ได้ผ่านการปลูกผมมา ผมดูหนาขึ้น แต่หลังจากที่ผ่านระยะพักฟื้น 1-3 เดือน เส้นผมก็จะเข้าสู่ภาวะ Shockloss และเริ่มหลุดร่วงก่อนงอกใหม่ เหมือนกับการปลูกด้วยวิธีอื่น ๆ ข้อเสียคือจะใช้เวลาปลูกนาน และมีค่าใช้จ่ายสูง

หลังคุณอินดี้ปลูกผมทันที
หลังคุณอินดี้ปลูกผมทันที

สิ่งที่ควรรู้ก่อนปลูกผม

ก่อนปลูกผม จะมีการตัดผมด้านหลังก่อน

เพราะการปลูกผมนั้น จะต้องมีการเก็บกราฟต์ผมบริเวณด้านหลังช่วงท้ายทอย ดังนั้นก่อนปลูกผู้ช่วยจะทำการโกนผมด้านหลังให้สั้น เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บกราฟต์ผม ทั้งนี้หากไม่ต้องการให้โกนศีรษะด้านหลังก็อาจจะเลือกปลูกด้วยเทคนิค Non-Shaven ได้ แต่จะใช้เวลาค่อนข้างเยอะในการปลูกค่ะ

หากศีรษะอักเสบเป็นเชื้อรา ต้องรักษาก่อน

ภาวะศีรษะอักเสบ หรือเป็นเชื้อราที่หนังศีรษะในบางคนอาจจะสังเกตได้ยาก ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจสภาพหนังศีรษะก่อน หรือบางท่านในวันนัดปลูกหลังจากโกนผมไปแล้ว พึ่งสังเกตเห็นเชื้อราและการอักเสบบนหนังศีรษะก็จะต้องทำการรักษาด้วยยาไปก่อน จนกว่าหนังศีรษะจะแข็งแรง เพื่อให้ผลลัพธ์หลังปลูกนั้นเส้นผมแข็งแรงมากที่สุด ดังนั้นก่อนแพลนปลูกผมจึงแนะนำให้ดูแลหนังศีรษะไม่ให้อับชื้นหรือเกิดรังแคจนอักเสบจะดีที่สุดค่ะ

ก่อนปลูกผมต้องตรวจเลือดก่อน

ก่อนปลูกผมจะต้องทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจการติดเชื้อและสกรีนโรคติดต่อทางเลือดก่อน เช่น HIV , ซิฟิลิส หรือโรคในกลุ่มไวรัสตับอักเสบชนิด B หรือ  C เพื่อจะได้วางแผนการรักษาให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยจากการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังปลูก รวมถึงการป้องกันการติดเชื้อ

หัวข้อในบทความ

อ่านบทความล่าสุด

Q-Smart Laser คืออะไร ทำไมจึงเหมาะกับผู้ที่ผมร่วง ผมบาง

Q-Smart Laser คืออะไร ทำไมจึงเหมาะกับผู้ที่ผมร่วง ผมบาง

Sculptra คืออะไร เหมือนหรือแตกต่างจาก ฟิลเลอร์

Sculptra คืออะไร เหมือนหรือแตกต่างจาก ฟิลเลอร์

PRP ผม

8 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ PRP ผม จากผู้เชี่ยวชาญ มีอะไรบ้าง

รับสิทธิ์ส่วนลด 60% ทุกบริการ