เลือกอ่านหัวข้อในบทความ
เคล็ดลับการกินวิตามินบำรุงศีรษะ ให้ได้ผล ลดผมร่วง บอกลาผมเสีย
สำหรับท่านที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง ที่กวนใจอยู่นั้น อีกทางเลือกหนึ่งในการบำรุงหนังศีรษะ ฟื้นฟูผมเสีย ลดอัตราการเกิดผมร่วงนั้น หลาย ๆ ท่านคงจะนึกถึงการทานวิตามินบำรุงศีรษะ ที่จะช่วยบำรุงหนังศีรษะจากภายใน ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการทานวิตามินให้ได้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพอย่างชัดเจน โดยเคล็ดลับที่ว่าจะเป็นวิธีที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานของวิตามินให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการดูแลปัจจัยกระตุ้นภายนอก เพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหาหนังศีรษะอ่อนแอ จะมีอะไรบ้างนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลย
วิตามินบำรุงหนังศีรษะ มีชนิดไหนบ้างที่ได้รับความนิยม
1. วิตามินเอช (Vitamin H) หรือ ไบโอติน (Biotin)
วิตามิน H หรือไบโอติน เป็นวิตามินชนิดเดียวกันกับวิตามินบี 7 โดยการทำงานของไบโอตินที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงเส้นผมนั้น จะเข้าไปช่วยในเรื่องของการเสริมการเจริญเติบโตและการผลัดเซลล์ ช่วยบำรุงทั้งผิวหนัง เล็บ ผม กล้ามเนื้อ รวมไปถึงระบบประสาท ทั้งนี้เราสามารถเสริมไบโอตินเพิ่มเติมได้จากการทานอาหารที่หาได้ทั่วไปอย่าง ไข่แดง เครื่องในสัตว์ เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว ข้าวกล้อง ข้าวโพด และในผัก ผลไม้บางชนิด เช่น ดอกกระหล่ำ กระหล่ำปลี เห็ด และ แครอท เป็นต้น
2. วิตามินเอ (Vitamin A)
อีกหนึ่งวิตามินที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย แต่อีกหนึ่งคุณประโยชน์ของวิตามิน A ที่ช่วยในด้านการบำรุงหนังศีรษะคือ วิตามิน A มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย และส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งผิวพรรณ เส้นผม ฟัน และเหงือก โดยวิตามิน A พบมากใน เนื้อสัตว์ ตับ ผักใบเขียว และผักที่มีสีเหลือง เช่น พริกหวาน ฟักทอง แคนตาลูป
3. ซิงค์ หรือสังกะสี (Zinc)
ซิงค์หรือธาตุสังกะสี อีกหนึ่งตัวช่วยในการเสริมการทำงานของระบบร่างกายให้มีประสิทธิภาพ ช่วยบำรุงเอนไซม์และเซลล์ต่าง ๆ พัฒนาการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย และคุณสมบัติของซิงค์ยังมีส่วนช่วยในการควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ทำให้ลดผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย ธาตุสังกะสีสามารถหาทานได้จากอาหารทะเล เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ หรือ ในเนื้อหมู เนื้อวัว ตับ สัตว์ปีก
4. แมกนีเซียม
อีกหนึ่งแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ที่มีส่วนช่วยควบคุมสมดุลของแคลเซียมในกระดูกและเลือด อีกทั้งยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน หากร่างกายได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ จะส่งผลให้เกิดภาวะอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว หรืออาการปวดศีรษะได้ง่ายกว่าปกติ ส่วนในด้านการบำรุงหนังศีรษะ แมกนีเซียมจะช่วยในการลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและเส้นเลือด ส่งผลให้เลือดไปบำรุงหนังศีรษะได้ดีขึ้น ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะแข็งแรงมากขึ้น โดยอาหารที่พบแร่ธาตุแมกนีเซียมสูง ได้แก่ กล้วยหอม, ถั่ว, อะโวคาโด, อัลมอนด์ และธัญพืชต่าง ๆ
5. ธาตุเหล็ก (Iron)
สำหรับสาว ๆ ที่ประสบปัญหาภาวะผมร่วง อีกหนึ่งสาเหตุนั้นอาจจะมาจากการขาดธาตุเหล็กในร่างกาย จากการมีประจำเดือนหรือหลังคลอด โดยอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายขาดธาตุเหล็กจะสังเกตได้ง่าย ๆ คือ อ่อนเพลียง่าย, ตัวซีด เปลือกตาด้านในซีด, หน้ามืด วิงเวียนบ่อย, มือเท้า เย็น ซึ่งนอกเหนือจากการสังเกตอาการดังกล่าว ท่านสามารถเข้ารับการตรวจวัดระดับธาตุเหล็กในร่างกายได้ ส่วนการเสริมธาตุเหล็กนั้น เริ่มได้จากการทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อสีแดง) , เลือด, ตับ เครื่องในสัตว์ และธัญพืชต่าง ๆ ทั้งนี้การเสริมธาตุเหล็ก หากทานควบคู่ไปกับอาหารที่มีวิตามินสูงจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีมากขึ้น
เคล็ดลับง่าย ๆ ช่วยเสริมการทานวิตามินบำรุงหนังศีรษะ
การทานวิตามินเพื่อบำรุงหนังศีรษะ นอกจากวิตามินที่สามารถหาทานได้จากพืช ผัก ผลไม้แล้ว ยังมีวิตามินเสริมโดยเฉพาะที่สามารถหาทานได้จากร้านขายยาทั่วไป ซึ่งการทานวิตามินสำเร็จรูปแบบนี้จะหาทานได้ง่าย และค่อนข้างสะดวก แต่ทั้งนี้ หากท่านต้องการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินให้ได้ผลดีมากขึ้น ก็ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ให้สอดคล้องกับการบำรุงร่างกาย และเลือกทานอาหารที่เหมาะกับการทำงานของวิตามิน ดังนี้
1. ลดการทานไข่ขาวดิบ เมื่อทานไบโอติน
หากท่านทานไบโอติน เป็นวิตามินบำรุงหนังศีรษะควรลดการทานไข่ขาวดิบ เนื่องจากไข่ขาวดิบจะไปขัดขวางการดูดซึมไบโอตินของร่างกายเมื่อทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
2. ศึกษาปริมาณวิตามินแต่ละชนิด ที่เราควรได้รับในแต่ละวัน
ร่างกายของเราจะมีปริมาณวิตามินที่เหมาะสมต่อร่างกาย ที่สามารถดูดซึมได้ในแต่ละวัน การทานวิตามินในปริมาณที่เกินขนาดอาจส่งผลให้ตับทำงานหนักขึ้น แต่วิตามินบางชนิดร่างกายก็สามารถขับออกได้เองเมื่อได้รับในปริมาณที่มากเกินไป
3. ช่วงเวลาในการทานก็ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินของร่างกาย
การทานวิตามินที่ได้ผลดีที่สุด คือ ทานพร้อมมื้ออาหารเพื่อให้ลำไส้สามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหากท่านทานวิตามิน A เพื่อบำรุงหนังศีรษะ หากทานพร้อมมื้ออาหารที่มีไขมัน ร่างกายจะดูดซึมได้ดี เพราะวิตามิน A เป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน ส่วนซิงค์จะเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีในขณะท้องว่าง
4. ทานวิตามินที่เสริมการทำงานควบคู่กัน
วิตามินบางชนิด จะช่วยส่งเสริมการทำงานของวิตามินชนิดที่ต่างกัน เช่น การทานซิงค์ จะได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อทานควบคู่ไปกับวิตามิน A และแคลเซียม
5. ปรับพฤติกรรม หยุดปัญหาการเกิดผมร่วง
แน่นอนว่าการทานวิตามินนั้น สามารถเสริมแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายขาดได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับในการลดผมขาดหลุดร่วงให้ได้ผลอย่างยาวนานนั้น นอกจากหวังพึ่งวิตามิน การปรับพฤติกรรมก็สำคัญ เช่น การหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะทำให้เกิดผมร่วง และเสริมด้วยปัจจัยภายในโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และงดการเกิดภาวะความเครียด
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับการทานวิตามินบำรุงศีรษะให้ได้ผล บำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี แต่นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการลดผมขาดหลุดร่วง ผมบางเท่านั้น ซึ่งนอกจากการทานวิตามินการดูแลตัวเอง การหาสาเหตุผมร่วงและหยุดพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบก็จะช่วยส่งเสริมให้เส้นผมนั้นได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ แต่สำหรับกรณีที่มีพบภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือจากฮอร์โมน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ All About Clinic เพื่อประเมินการรักษาพร้อมแนะนำโปรแกรมบำรุงหนังศีรษะที่เหมาะกับสาเหตุผมร่วงของแต่ละท่าน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม PRP เส้นผม , Anti Hair Loss หรือการปลูกผมถาวร ทั้งนี้ในการรักษาคุณหมอจะเป็นผู้ประเมิน โดยเลือกโปรแกรมที่คนไข้สนใจเป็นหลักค่ะ
