prp ผม

ทำ PRP ผม คืออะไร ? หยุดผมร่วงได้จริงไหมเปิด 7 ข้อควรรู้ก่อนทำ PRP

ภาวะผมขาดหลุดร่วง ปัญหากวนใจชาวผมบางทั้งชายและหญิงที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจมากกว่าที่คิด เพราะเส้นผมที่ดูหนา เงางาม ดูสุขภาพดีนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะปัจจุบันการแก้ไขผมบาง ผมเสีย และฟื้นฟูสุขภาพหนังศีรษะนั้น ได้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผมกลับมาหนาได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การ ปลูกผม การทำ Anti Hair Loss Program หรือการทำ PRP ผม ที่เป็นนวัตกรรมฟื้นบำรุงหนังศีรษะที่เห็นผลชัด และปลอดภัย หากท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า PRP คือ อะไร ? สามารถหยุดผมร่วงได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาท่านไปหาคำตอบ พร้อมแนะนำข้อควรรู้ก่อนทำ PRP กันในบทความนี้ด้วยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

การทำ PRP (Platelet Rich Plasma) คืออะไร ?

PRP คือ

PRP คือ การนำพลาสม่าจากเลือดของเราเองมาสกัดและปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงมวลสารจนได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าปกติและฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย โดยข้อดีของเกล็ดเลือกที่มีความเข้มข้นสูงคือจะได้สารสกัด Growth Factor  ที่ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้มีการซ่อมแซมตัวเองและแบ่งตัวได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารอาหารเข้มข้นอย่างวิตามิน เกลือแร่ ฮอร์โมน  ทำให้ในวงการการแพทย์นิยมทำ PRP เพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม เนื้อเยื่ออักเสบ รวมไปถึงนำมาใช้ในด้านความงามโดยการฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส นอกจากนี้ยังนิยมนำมาฉีดเพื่อบำรุงหนังศีรษะ ลดอาการผมร่วง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม เป็นต้น

PRP ลดผมร่วงได้ถาวรหรือไม่ ?

สำหรับการทำ PRP ผม สามารถช่วยในการลดผมหลุดร่วงได้ทั้งนี้ต้องมีการฉีดบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืดอายุเซลล์รากผม ซ่อมแซมรากผมที่เสียหาย และกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ โดยที่ All About Clinic จะเน้นการรักษาแบบ PRP ควบคู่ไปกับโปรแกรม Anti Hair Loss เมื่อเจอเคสที่พบ สาเหตุผมร่วง ค่อนข้างหนัก หรือในกรณีที่ต้องการให้การรักษาเห็นผลเร็ว และได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยภายหลังจากการรักษาแล้วหากท่านมีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลทำให้หนังศีรษะอ่อนแอ การทำ PRP ลดผมร่วงก็จะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยาวนานมากขึ้นค่ะ

7 ข้อควรรู้ก่อนผม PRP ผม

PRP คือ

1. ขั้นตอนการทำ PRP

ในขั้นตอนการทำ PRP นั้น หลังจากปรึกษาแพทย์แล้ว ผู้บริการจะต้องมีการเตรียมความพร้อมของร่างกาย ก่อนที่จะทำการเจาะเลือด เมื่อมีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว แพทย์ก็จะเริ่มขั้นตอนการทำ PRP ดังนี้

  • แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากบริเวณข้อพับแขนประมาณ 15 – 20 CC และนำไปใส่ในหลอดเลือดที่มี Anti-Coagulant หรือสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  • ต่อไปจะนำเลือดที่ได้ไปทำการปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงมวลสาร เพื่อให้เกิดการแยกชั้นระหว่างเม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือดแบบเข้มข้น
  • หลังจากนั้นก็ทำการแยกเกล็ดเลือดที่เข้มข้นและสมบูรณ์แยกออกมา
  • จากนั้นจะนำ PRP ที่ได้ ฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการบำรุง เช่น บริเวณศีรษะ หรือ ผิวหน้า

2. การทำ PRP เหมาะกับใครบ้าง

PRP นอกจากจะช่วยในเรื่องของความงามอย่างการทำ PRP ผิวหน้า เพื่อให้หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น หรือทำ PRP ผม เพื่อลดอาการผมร่วง ผมอ่อนแอ ยังช่วยในด้านการรักษากล้ามเนื้อ เอ็นอักเสบเรื้อรัง หรือรักษาอาการข้อเข่าเสื่อม สะโพกเสื่อม โดยนิยมใช้ในวงการวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อช่วยกระตุ้นการรักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬา

3. PRP เจ็บไหม

ในขั้นตอนการทำ PRP นั้น ในขั้นตอนการเจาะเลือดจะเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนขั้นตอนการฉีด PRP กลับเข้าร่างกายนั้น ไม่เจ็บอย่างที่คิด โดยหลังจากฉีดบางท่านอาจจะพบอาการฟกช้ำเล็กน้อย และหลังฉีดโอกาสเกิดอาการแพ้มีน้อยมาก เนื่องจาก PRP นั้นสกัดมาจากร่างกายตัวเอง จึงมีความปลอดภัยสูง

4. ข้อเสียของการทำ PRP

PRP จัดอยู่ในประเภทหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง และนิยมใช้ในการรักษาซ่อมแซมร่างกาย หรือเพื่อความงาม แต่ทั้งนี้การทำ PRP จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ PRP จะต้องสะอาด ได้มาตรฐาน หากท่านเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานจึงเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ส่วนในกรณีที่ฉีด PRP ผิวหน้า บางท่านอาจจะพบอาการบวมหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ แต่อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นค่ะ

5. นอกจากลดผมร่วง PRP ช่วยอะไรได้บ้าง

ข้อดีของการทำ PRP นั้น นอกจากจะลดผมร่วงแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นอักเสบ โดยกระตุ้นการซ่อมแซมตรงบริเวณที่ได้รับความเสียหาย ทำให้สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็วกว่าปกติ

6. หลังจากทำ PRP จะเห็นผลตอนไหน

หากท่านทำการฉีด PRP ผิวหน้า จะเริ่มเห็นผลหลังจากฉีด 2 – 4 สัปดาห์ และหากอยากได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ฉีดซ้ำ 2 – 3 ครั้ง (ระยะห่าง 4 – 6 สัปดาห์) ส่วนการทำ PRP ผม จะเริ่มเห็นผลหลังจากฉีดครั้งแรก 3 – 6 เดือน ทั้งนี้หากมีการทำ PRP อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือผมจะเริ่มงอกและหนาขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 3-6 เดือนค่ะ

7. ทำ PRP ราคาค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ในการทำ PRP ที่ All About Clinic ราคาจะแตกต่างกันโดยการทำ PRP ผม ราคาต่อครั้งจะอยู่ที่ 3,999 ส่วนราคาการทำ PRP ผิวหน้าจะเริ่มต้น 3,500 บาท และสำหรับการทำ Premium PRP Plus ราคาจะอยู่ที่ครั้งละ 5,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ท่านสามารถเข้ารับบริการ PRP แบบเป็นคอร์สได้ ซึ่งที่ AAC เราจะมีราคาโปรโมชั่นพิเศษกันทุกเดือน ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นล่าสุดได้ที่นี่ : โปรโมชั่น All About Clinic หรือสามารถแอดไลน์เพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นสุด Exclusive ได้ที่นี่เลย Line @AACTHAILAND

สำหรับท่านที่สนใจทำ PRP นั้น หลังจากที่ได้ศึกษาข้อจำกัดต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า PRP นั้นเป็นการทำหัตถการที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง เพราะสารสกัดที่นำมาบำรุงนั้นก็คือเกล็ดเลือดของเราที่ผ่านการแยกชั้นออกมา และนำมาฉีดเพื่อให้ตัวเกล็ดเลือดได้บำรุง และซ่อมแซมเฉพาะส่วนที่เราต้องการเน้นโดยเฉพาะ ซึ่งก็ต้องมีการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ และปล่อยให้ตัว PRP ที่สกัดออกมาได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เรียกได้ว่าถ้าเน้นการรักษาที่ปลอดภัย PRP ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ