ภาวะผมขาดหลุดร่วง ปัญหากวนใจชาวผมบางทั้งชายและหญิงที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจมากกว่าที่คิด เพราะเส้นผมที่ดูหนา เงางาม ดูสุขภาพดีนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะปัจจุบันการแก้ไขผมบาง ผมเสีย และฟื้นฟูสุขภาพหนังศีรษะนั้น ได้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผมกลับมาหนาได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การ ปลูกผม การทำ Anti Hair Loss Program หรือการทำ PRP ผม ที่เป็นนวัตกรรมฟื้นบำรุงหนังศีรษะที่เห็นผลชัด และปลอดภัย หากท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า PRP คือ อะไร ? สามารถหยุดผมร่วงได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาท่านไปหาคำตอบ พร้อมแนะนำข้อควรรู้ก่อนทำ PRP กันในบทความนี้ด้วยค่ะ
PRP คือ การนำพลาสม่าจากเลือดของเราเองมาสกัดและปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงมวลสารจนได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าปกติและฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย โดยข้อดีของเกล็ดเลือกที่มีความเข้มข้นสูงคือจะได้สารสกัด Growth Factor ที่ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้มีการซ่อมแซมตัวเองและแบ่งตัวได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารอาหารเข้มข้นอย่างวิตามิน เกลือแร่ ฮอร์โมน ทำให้ในวงการการแพทย์นิยมทำ PRP เพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บต่าง ๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม เนื้อเยื่ออักเสบ รวมไปถึงนำมาใช้ในด้านความงามโดยการฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส นอกจากนี้ยังนิยมนำมาฉีดเพื่อบำรุงหนังศีรษะ ลดอาการผมร่วง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม เป็นต้น
สำหรับการทำ PRP ผม สามารถช่วยในการลดผมหลุดร่วงได้ทั้งนี้ต้องมีการฉีดบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืดอายุเซลล์รากผม ซ่อมแซมรากผมที่เสียหาย และกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ โดยที่ All About Clinic จะเน้นการรักษาแบบ PRP ควบคู่ไปกับโปรแกรม Anti Hair Loss เมื่อเจอเคสที่พบ สาเหตุผมร่วง ค่อนข้างหนัก หรือในกรณีที่ต้องการให้การรักษาเห็นผลเร็ว และได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยภายหลังจากการรักษาแล้วหากท่านมีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลทำให้หนังศีรษะอ่อนแอ การทำ PRP ลดผมร่วงก็จะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยาวนานมากขึ้นค่ะ
ในขั้นตอนการทำ PRP นั้น หลังจากปรึกษาแพทย์แล้ว ผู้บริการจะต้องมีการเตรียมความพร้อมของร่างกาย ก่อนที่จะทำการเจาะเลือด เมื่อมีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว แพทย์ก็จะเริ่มขั้นตอนการทำ PRP ดังนี้
PRP นอกจากจะช่วยในเรื่องของความงามอย่างการทำ PRP ผิวหน้า เพื่อให้หน้ากระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น หรือทำ PRP ผม เพื่อลดอาการผมร่วง ผมอ่อนแอ ยังช่วยในด้านการรักษากล้ามเนื้อ เอ็นอักเสบเรื้อรัง หรือรักษาอาการข้อเข่าเสื่อม สะโพกเสื่อม โดยนิยมใช้ในวงการวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อช่วยกระตุ้นการรักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬา
ในขั้นตอนการทำ PRP นั้น ในขั้นตอนการเจาะเลือดจะเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนขั้นตอนการฉีด PRP กลับเข้าร่างกายนั้น ไม่เจ็บอย่างที่คิด โดยหลังจากฉีดบางท่านอาจจะพบอาการฟกช้ำเล็กน้อย และหลังฉีดโอกาสเกิดอาการแพ้มีน้อยมาก เนื่องจาก PRP นั้นสกัดมาจากร่างกายตัวเอง จึงมีความปลอดภัยสูง
PRP จัดอยู่ในประเภทหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง และนิยมใช้ในการรักษาซ่อมแซมร่างกาย หรือเพื่อความงาม แต่ทั้งนี้การทำ PRP จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ PRP จะต้องสะอาด ได้มาตรฐาน หากท่านเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานจึงเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ ส่วนในกรณีที่ฉีด PRP ผิวหน้า บางท่านอาจจะพบอาการบวมหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ แต่อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นค่ะ
ข้อดีของการทำ PRP นั้น นอกจากจะลดผมร่วงแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นอักเสบ โดยกระตุ้นการซ่อมแซมตรงบริเวณที่ได้รับความเสียหาย ทำให้สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็วกว่าปกติ
หากท่านทำการฉีด PRP ผิวหน้า จะเริ่มเห็นผลหลังจากฉีด 2 – 4 สัปดาห์ และหากอยากได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำให้ฉีดซ้ำ 2 – 3 ครั้ง (ระยะห่าง 4 – 6 สัปดาห์) ส่วนการทำ PRP ผม จะเริ่มเห็นผลหลังจากฉีดครั้งแรก 3 – 6 เดือน ทั้งนี้หากมีการทำ PRP อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือผมจะเริ่มงอกและหนาขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 3-6 เดือนค่ะ
ในการทำ PRP ที่ All About Clinic ราคาจะแตกต่างกันโดยการทำ PRP ผม ราคาต่อครั้งจะอยู่ที่ 3,999 ส่วนราคาการทำ PRP ผิวหน้าจะเริ่มต้น 3,500 บาท และสำหรับการทำ Premium PRP Plus ราคาจะอยู่ที่ครั้งละ 5,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ท่านสามารถเข้ารับบริการ PRP แบบเป็นคอร์สได้ ซึ่งที่ AAC เราจะมีราคาโปรโมชั่นพิเศษกันทุกเดือน ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นล่าสุดได้ที่นี่ : โปรโมชั่น All About Clinic หรือสามารถแอดไลน์เพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นสุด Exclusive ได้ที่นี่เลย Line @AACTHAILAND
สำหรับท่านที่สนใจทำ PRP นั้น หลังจากที่ได้ศึกษาข้อจำกัดต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า PRP นั้นเป็นการทำหัตถการที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง เพราะสารสกัดที่นำมาบำรุงนั้นก็คือเกล็ดเลือดของเราที่ผ่านการแยกชั้นออกมา และนำมาฉีดเพื่อให้ตัวเกล็ดเลือดได้บำรุง และซ่อมแซมเฉพาะส่วนที่เราต้องการเน้นโดยเฉพาะ ซึ่งก็ต้องมีการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ และปล่อยให้ตัว PRP ที่สกัดออกมาได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เรียกได้ว่าถ้าเน้นการรักษาที่ปลอดภัย PRP ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ