Home » SERVICE » Hayyan

Hayyan ลดเลือนฝ้า กระ รอยดำรอยแดง คืนความกระจ่างใสให้ใบหน้า

Hayyan เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมความงามที่มีความโดดเด่นเรื่องการปรับให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยดำรอยแดงจากสิว ช่วยให้ความหมองคล้ำลดเลือนลง เพิ่มออร่า ให้ผิวดูสว่างใส เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจและลดความมั่นใจให้กับใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ การมีนวัตกรรมนี้จึงจะช่วยรักษาและแก้ปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ ทำให้ผิวเนียนนุ่ม และที่สำคัญเห็นผลเร็ว ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยแน่นอน

Hayyan คืออะไร ?

Hayyan (ฮายยัน) คือ ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นนวัตกรรมรวมอาหารผิวที่จะช่วยปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดงรอยดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสีผิวให้สว่างและดูสม่ำเสมอมากขึ้น โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ Glutathione, PDRN, Vitamin B3, Vitamin C, Hyaluronic Acid (HA) และมีวิตามินบำรุงผิวและแร่ธาตุมากถึง 57 ชนิด ที่จะทำหน้าที่ในการต้านสารอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดเลือนฝ้ากระได้ดีมาก ๆ รวมถึงช่วยเรื่องรอยสิวและจุดด่างดำต่าง ๆ ที่หมองคล้ำให้จางลง

คุณสมบัติของส่วนประกอบใน Hayyan มีอะไรบ้าง

โดยส่วนประกอบหลัก ๆ ที่สำคัญในตัวยาของฮายยันจะมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ ดังนี้

1. Glutathione

กลูต้าไธโอน เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยยับยั้งการผลิต Melasma ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ รวมถึงช่วยป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม

2. Vitamin B3

ช่วยลดการอักเสบและรอยแดงรอยดำ ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเป็นเกราะป้องกันความชุ่มชื้นของผิว อีกทั้งยังช่วยในการสร้างคอลลาเจนธรรมชาติและส่งเสริมอีลาสติน ซึ่งจะช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ พร้อมเสริมสร้างให้เซลล์ผิวหนังแข็งแรงขึ้น

3. PDRN

เป็น DNA จากปลาแซลมอน ที่จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวระดับ DNA ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวชุ่มชื้น ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับรูขุมขน ผิวเต่งตึงดูเด็กมากขึ้น และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

4. Hyaluronic acid (HA)

กรดไฮยาลูรอนิค จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวตามธรรมชาติ และช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ให้เรียบเนียนและกระชับ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว

นอกจากนี้ Hayyan ยังมีวิตามินอื่น ๆ รวมกว่า 57 ชนิด ที่จะช่วยส่งเสริมการทำงานของตัวยา ทำให้เห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น วิตามิน E ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวพรรณ และช่วยปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายของแสงแดด เป็นต้น

ข้อดีของ hayyan หน้าใส ช่วยอะไรบ้าง

สำหรับข้อดีของฮายยันจะช่วยในเรื่องของหน้าใส และ hayyan ใต้ตา ได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีประโยชน์ในการบำรุงผิวพรรณในด้านอื่น ๆ ด้วย ได้แก่

ช่วยปรับสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟื้นฟูความยืดหยุ่นให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
ฟื้นฟูผิวจากรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
เสริมสร้างความเต่งตึงให้ผิวพรรณ รูขุมขนดูกระชับขึ้น
ลดเลือนริ้วรอยและลดความหมองคล้ำ
ช่วยลดความแห้งกร้าน เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใสอมชมพู ดูเปล่งปลั่งมีออร่า
ช่วยทำให้ผิวบริเวณใต้ตาสว่างกระจ่างใสขึ้น และช่วยให้ร่องใต้ตาฟูขึ้น
สามารถยืดอายุความอ่อนเยาว์ของใบหน้า
ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ
เสริมสร้างเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรง และปรับสมดุลให้ผิวมีภูมิคุ้มกันที่ดี
ผิวดูฉ่ำวาวแบบสไตล์สาวเกาหลี
ช่วยป้องกันและฟื้นฟูผิวจากมลพิษต่าง ๆ

ฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดจากสาเหตุอะไร ?

สาเหตุของการเกิดฝ้า

ฝ้า หรือ Melasma มีสาเหตุมาจากเซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ ซึ่งเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด รวมถึงมีสาเหตุจากพันธุกรรม และการได้รับฮอร์โมนบางชนิดโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิง เช่น ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด หรือภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งลักษณะของฝ้าจะเป็นสีดำอมน้ำตาล หรือเข้มกว่าสีผิว เกิดขึ้นเป็นแถบหรือปื้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะโหนกแก้มและบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า เช่น หน้าผาก จมูก บริเวณเหนือคิ้ว บริเวณเหนือริมฝีปาก ทั้งนี้ ฝ้าที่ขึ้นบนใบหน้าจะสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดหลัก ๆ คือ

ฝ้าแบบตื้น เป็นฝ้าที่อยู่ในชั้นผิวด้านนอกหรือชั้นหนังกำพร้า ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลเข้ม และเห็นขอบเขตชัดของฝ้า
ฝ้าแบบลึก เป็นฝ้าที่เกิดอยู่ในชั้นผิวที่ลึกลงไปกว่าชั้นหนังกำพร้า ซึ่งจะสังเกตเห็นสีและขอบเขตของฝ้าที่จางกว่า มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง และถึงแม้ว่าฝ้าลึกจะเห็นสีไม่ชัดเท่าฝ้าตื้น แต่จะใช้ระยะเวลารักษาที่นานและยากกว่า
ฝ้าแบบผสม คือ จะมีทั้งฝ้าแบบตื้นและแบบลึกอยู่ด้วยกัน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลปนเทาอมม่วง สีจะไม่สม่ำเสมอ และเป็นชนิดที่สามารถพบได้มากที่สุดกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า

สาเหตุของการเกิดกระ

กระ หรือ Freckles จะมีสาเหตุที่เกิดจากแสงแดดหรือการเผชิญกับรังสียูวี ทำให้เมลานินทำงานผิดปกติ จึงเกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น รวมถึงจากแสงหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จากพันธุกรรม และจากการที่มีอายุมากขึ้นด้วย โดยลักษณะของกระจะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่กระจายตัวอยู่ตามผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของรางกาย ซึ่งกระก็จะแบ่งออกได้หลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันออกไป คือ

กระตื้น เป็นกระที่เกิดอยู่ในชั้นผิวหนังด้านนอก ซึ่งจะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้ม มีขนาดจุดเล็กจุดใหญ่รวมกลุ่มกัน และมักเกิดขึ้นในบริเวณผิวที่ถูกแสงแดด โดยจะพบได้มากในคนผิวขาว
กระลึก เป็นกระที่เกิดอยู่ในชั้นผิวหนังด้านใน มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลเทา ซึ่งจะมีขนาดเล็กที่บริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง จะเห็นสีได้ไม่ชัดเท่ากระตื้น โดยมักพบในคนเอเชีย
กระเนื้อ เป็นกระที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนหรือติ่งเล็ก ๆ สีน้ำตาล ดำ โดยติ่งเนื้อจะเริ่มจากขนาดเล็กและในระยะยาวอาจโตขึ้นได้ มักจะพบในคนสูงวัยและผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
กระแดด จะเป็นกระที่มีลักษณะเป็นจุดวงสีน้ำตาล เห็นขอบชัด ซึ่งเกิดจากแสงแดด หรือการได้รับรังสียูวีเป็นระยะเวลานาน มีขนาด 0.3-2 เซนติเมตร มักพบได้ในวัยกลางคนถึงคนสูงอายุ

สาเหตุของการเกิดจุดด่างดำ

จุดด่างดำ หรือ Dark Spots เป็นรอยดำที่เกิดบนผิวที่ไม่ใช่ฝ้าหรือกระ ซึ่งมีสาเหตุหลักมากจากการอักเสบของผิวหนังแล้วมีการทิ้งรอยด่างดำไว้ เช่น รอยดำจากสิวอักเสบ โดยจะมีลักษณะเป็นจุด เป็นเสี้ยว อีกทั้งรอยดำนี้อาจจะมีสีเข้มขึ้นได้ หากมีปัจจัยภายนอกอย่างรังสียูวีมากระตุ้นการผลิตเม็ดสีภายใต้ผิวหนังมากขึ้น

วิธีการป้องกันและการรักษาฝ้า กระ รอยดำ

เมื่อได้รู้จักสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวหนังเกิดปัญหารอยดำรอยแดงเหล่านี้แล้ว การป้องกันและหาแนวทางการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้หน้ากลับมาสวยกระจ่างใสและมีความมั่นใจมากขึ้น โดยมีวิธีดังนี้

หลีกเลี่ยงแสงแดด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการผลิตเม็ดสี และเป็นแหล่งของรังสียูวี
ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเลือกที่มีค่า SPF มากกว่า 30+ ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากแสงยูวีไม่ให้ทำร้ายผิวจนเกิดเป็นฝ้ากระ และช่วยชะลอการแก่ตัวของผิวหนัง
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่
รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตรต่อวัน
รักษาด้วยยา ซึ่งจะเป็นการใช้ยารักษาฝ้ากระในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น ยากรดวิตามินเอ ยากลุ่มทรานิซามิก ครีมไวท์เทนนิ่งอื่น ๆ แต่อาจจะใช้ระยะเวลารักษาค่อนข้างนาน และควรระมัดระวังกับผู้ที่มีผิวบอบบาง เพราะอาจทำเกิดการระคายเคืองผิวได้
ฉีด Hayyan หรือการเติมเต็มวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว ซึ่งนวัตกรรมนี้จะช่วยปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดงรอยดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวพรรณได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ ทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส ผิวสม่ำเสมอกันมากขึ้น อีกทั้งยังเห็นผลไวตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

การเตรียมตัวก่อนฉีด Hayyan

ก่อนทำหัตถการควรเข้าไปพบแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อน เนื่องจากแต่ละคนมีสุขภาพร่างกายที่ไม่เหมือนกัน
หากมีโรคประจำตัว หรือมียาและอาหารเสริมที่กำลังรับประทานอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งประวัติการแพ้ยา สารเคมี หรือสารวิตามินต่าง ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษาทุกครั้ง เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการฉีดผิวได้ ดังนั้นควรแจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2-3 วัน
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
ควรดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตร เพื่อให้ผิวพร้อมเปิดรับการบำรุงและดีท็อกซ์ได้ดียิ่งขึ้น

การดูแลหลังฉีด

ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่น กระจ่างใสขึ้นมาก
ไม่ควรนวดผิวหน้าบริเวณที่ฉีดหลังทำทันที
ไม่ควรเกา ถู หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดทันที
งดออกแดดแรง ๆ เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังรับบริการ และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งหากจำเป็นต้องออกไปสัมผัสแสงแดด
– ห้ามล้างหน้าประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังรับบริการ เพื่อให้ผิวดูดซับตัวยาได้ดี
งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน วันต่อไปสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
ควรใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสมเพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีฤทธิ์ดูดซับความชื้นส่งผลให้ผิวแห้งกร้านได้
หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจจะพบรอยแดงหรือตุ่มบริเวณรอยเข็ม แต่จะหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมง
พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด Hayyan ด้วย และหากท่านพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้หากท่านใดอยากแก้ปัญหากวนใจเกี่ยวกับเรื่องผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ รอยดำรอยแดง ต้องการลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำ ปรับผิวให้กระจ่างใส มีออร่า ผิวเนียนนุ่ม สามารถปรึกษากับคุณหมอพอล ที่ All About Clinic ของเราได้นะคะ

คำถามที่พบบ่อย

ใครเหมาะจะฉีด Hayyan บ้าง ?

เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
เหมาะกับผู้ที่มีผิวไม่แข็งแรง ผิวแห้ง ลอกขุย ผิวไม่ชุ่มชื้น
เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
เหมาะกับผู้ที่ต้องการความขาวกระจ่างใสแบบเร่งด่วน เช่น คอร์สเจ้าสาว คอร์สพริตตี้ เป็นต้น
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ หน้าดูโทรม และริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา
เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวเรียบเนียนและกระชับเต่งตึงยิ่งขึ้น

Hayyan สามารถฉีดจุดไหนบนใบหน้าได้บ้าง ?

การฉีด Hayyan จะใช้หลักการฉีด 16 จุดบนใบหน้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผสมผสานกับการฝังเข็มบนใบหน้าตามศาสตร์การแพทย์ของจีน โดยจุดฝั่งเข็มจะเป็นการเปิดระบบพลังงานทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น และจะช่วยให้สารธรรมชาติและวิตามินต่าง ๆ กระจายได้ทั่วใบหน้า รวมถึงสามารถฉีดเฉพาะจุดที่มีปัญหามาก ๆ อย่าง ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือบริเวณใต้ตา เพื่อลดความหมองคล้ำ และเติมความอิ่มฟูให้กับใต้ตาได้ ทั้งนี้การฉีดจะใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที และอาจจะมีตุ่มยาบริเวณที่ฉีด แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน ภายใน 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น

ฉีด Hayyan ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่ ?

หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หน้ากระจ่างใสและอิ่มฟูขึ้น ใน 1-2 วัน และจะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นใน 1 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 45-60 วันต่อการฉีด 1 ครั้ง ทั้งนี้สามารถทำซ้ำได้ทุก 1-2 สัปดาห์ ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคลและตามความเหมาะสมที่แพทย์แนะนำ

ข้อควรระวังสำหรับการฉีด hayyan มีเรื่องอะไรบ้าง ?

ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
ไม่ควรฉีดกับสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ไม่ควรฉีดกับผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์
ไม่ควรฉีดกับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ไม่ควรฉีดกับผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด หรือยาโรคหัวใจ
ผู้ที่เป็นโรคลมชัก
ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี

หลังฉีดฮายยันมีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

ฮายยันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ผ่าน อย.ไทย ซึ่งจะไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน โดยอาจจะเกิดอาการบวม แดง หรือตุ่มแดง ในบริเวณที่ฉีดหลังทำการรักษาเท่านั้น ซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเองในระยะเวลาไม่นาน