เชื่อว่าปัญหาไขมันส่วนเกินเป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่กังวลกับรูปลักษณ์ของตัวเอง ทำให้ขาดความมั่นใจจนกลายเป็นคนเสียบุคลิกได้ แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า เมโสแฟต การฉีดเมโสแฟตถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันโดยไม่อยากผ่าตัด โดยสามารถฉีดได้ตามจุดที่มีเซลลูไลท์เยอะเช่น ต้นแขน ต้นขา เหนียง แก้ม หน้าท้อง เป็นต้น
Meso Fat หรือ Meso Lipolysis เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Lacitin ที่ได้จากถั่วเหลืองมีการออกฤทธิ์ช่วยในการทำให้ไขมันแตกตัว เปลี่ยนไขมันสีขาว ให้กลายเป็นไขมันสีน้ำตาล (ไขมันดี) และขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายผ่านทางเหงื่อ ปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบบางชนิดที่ช่วยในการกระชับผิว ให้เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย และลดอาการบวมหลังฉีด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือไขมันน้อยลง ผิวดูกระชับมากยิ่งขึ้น
การฉีดแฟต จะนิยมฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดแก้ม ลดเหนียง ลดต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง เพื่อลดเซลลูไลท์และทำให้ผิวหนังกระชับไม่หย่อนคล้อย แต่ด้วยสารประกอบที่สกัดจากธรรมชาติทำให้ตัวยาสลายได้เร็ว ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดอย่างสม่ำเสมอ หรือออกกำลังกาย และคุมอาหารควบคู่กันไป เพื่อผลลัพธ์หน้าเรียว หุ่นกระชับแบบปังๆ
ดังนั้นการฉีดแฟตที่ดี คือ ฉีดเพื่อสลายไขมันแบบเร่งด่วนก่อนออกงาน หรือฉีดเพื่อลดไขมันในจุดที่ลดได้ยากอย่างเหนียง ต้นแขน หรือหน้าท้อง หากฉีดอย่างเดียว แต่ไม่มีการเบิร์นไขมันด้วยวิธีอื่น หรือคุมอาหาร เมื่อตัวยาหมดฤทธิ์ก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ
ถ้าถามว่าฉีดแฟตดีไหม คำตอบคงออกมาหลากหลาย เพราะหัตถการเมโสแฟตไม่ได้เหมาะกับทุกคน หากมีกล้ามเนื้อมาก กรามใหญ่ การฉีดโบท็อกก็จะเห็นผลมากกว่า เพราะตัวเมโสแฟตจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมีไขมันสะสมเช่น มีไขมันตรงแก้ม ไขมันใต้คาง หรือเหนียง หลังฉีดจะให้ผลลัพธ์คือไขมันลดลง กรอบหน้าชัดขึ้น จึงเป็นคำตอบว่าทำไมบางคนได้ผล บางคนไม่เห็นผล นั่นเองค่ะ ซึ่งคนที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟตก็มีดังนี้
นอกจากนี้ก่อนฉีดแนะนำว่าให้แพทย์ประเมินให้ ว่าควรฉีดเมโสแฟตไหม หรือต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่จึงเห็นผล เพื่อให้คาดการณ์ระยะเวลาที่ได้ผลลัพธ์หลังฉีดแบบเต็มที่ได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าการฉีดเมโสแฟตจะเป็นหัตถการที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีข้อควรปฏิบัติและการเตรียมตัวก่อนฉีดดังนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผลลัพธ์ของเมโสแฟตโดยปกติแล้วจะสามารถอยู่ได้นาน 2-3 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลังจากนั้นด้วย ถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทานอาหารที่มีไขมันมากเช่นของมันของทอด ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : เมโสแฟตอยู่ได้นานแค่ไหน ? เลือกฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023
ราคาเมโสแฟตส่วนใหญ่จะขายแบบเหมาขวด เนื่องจากแฟตจะใช้ปริมาณการฉีดจำนวนหลาย cc ต่อการฉีด 1 จุด โดยราคาของ All About Clinic จะเริ่มที่ 3,000 บาท / 1 ขวด ปริมาณการจุจะอยู่ที่ 10 cc / ขวด (บางยี่ห้อมีความจุอยู่ที่ 11 cc) ซึ่งราคานี้เป็นราคาแบบที่ยังไม่ได้จัดโปรโมชั่น แนะนำว่าติดตามโปรทาง Line Official @aacthailand หรือในหน้าเว็บไซต์ โปรโมชั่น All About Clinic เพื่อไม่ให้พลาดโปรโมชั่นค่ะ
ข้อดี
ข้อเสีย
การดูดไขมัน และฉีดแฟต เป็นหนึ่งในหัตถการกำจัดไขมันยอดนิยม โดยทั้งสองวิธีสามารถกำจัดไขมันได้เหมือนกัน แต่วิธีการและผลลัพธ์หลังทำจะให้ผลที่ไม่เหมือนกัน คือเมโสแฟตจะเน้นไปที่การสลายไขมันด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ แต่การดูดไขมันเป็นหัตถการที่ใช้วิธีสอดท่อดูดไขมันขนาดเล็ก ทำการสลายและดูดไขมันที่ไม่จำเป็นออกมา หลังทำเห็นผลได้ทันที และเห็นปริมาณไขมันที่ถูกนำออกมาจากร่างกายได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีข้อแตกต่างอีกดังนี้
ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี คงเป็นอีกคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย แต่ส่วนใหญ่ตัวยาและผลลัพธ์แต่ละยี่ห้อ จะไม่ได้ต่างกันมากแบบเห็นได้ชัด เพราะการทำงานของเมโสแฟตคือการฉีดเพื่อสลายไขมัน และการเห็นผลหลังฉีดได้ชัดเจนแบบว้าวเลยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ คือ
ทั้งนี้ ยี่ห้อเมโสแฟตแต่ละตัวอาจจะมีจุดเด่นหรือข้อจำกัดเล็กน้อยที่ต่างกันออกไปบ้าง โดยเราจะพาไปดูว่ายี่ห้อไหนที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และมีจุดเด่นอย่างไร
สำหรับแฟต Miracle B Plus เป็นแฟตสัญชาติเกาหลี ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติถึง 6 ชนิด ที่มีฤทธิ์ช่วยในการเผาผลาญ และขจัดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง สามารถฉีดได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หรือตัว ข้อดีของแฟตยี่ห้อนี้คือสามารถฉีดได้บ่อย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติล้วน ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี
อีกทั้งยังมีส่วนผสมจากใบบัวบกที่ช่วยในการยกกระชับหลังสลายไขมันอีกด้วย
WHEAT GERM
LECITHIN
CENTELLA ASIATICA
Chamomilla Recutita Extract
Methylsilanol Mannuronate
Scutellaria Baicalensis Root Extract
เมโสแฟตจากเกาหลียี่ห้อ BABI Neo One เป็นแฟตที่หลาย ๆ คลินิกได้นำเข้ามาให้บริการ ด้วยตัวยาที่มีการผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ที่ช่วยในการย่อยสลายไขมัน ยกกระชับผิว และต้านการเกิดริ้วรอย
Bromelain
WHEAT GERM
Chamomilla Recutita Extract
Salvia Miltiorrhiza Root Extract
Acetyl Hexapeptide-8
Multi Peptide
นวัตกรรมเมโสแฟต ที่มีการผสมผสานชีวโมเลกุลจากกรดอะมิโนจำเป็น 17 ชนิด และมีคาร์นิทีนที่มีงานวิจัยว่าช่วยในการสลายไขมันไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของอาร์จิลีนที่ช่วยให้ผิวมีความกระชับ พร้อมกับสารสกัดอีกมากมาย ที่ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดนั้น ผิวดูกระชับขึ้น ลดการสะสมของไขมัน
Amino Acid 17 ชนิด
Carnitine
Argireline
Betula Alba Leaf Extract
Aesculus Hippocastanum
Junlans Regia
Ophiopogon Japonicus Foot Extract
การเลือกฉีดเมโสแฟตให้ปลอดภัยนอกจากการเลือกฉีดด้วยยาแท้ ที่ผ่าน อย. แล้ว ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด และแพทย์มีความชำนาญ จึงจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในเรื่องของเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะตัวยาแฟต ถ้าเป็นยาแท้ที่ผ่านนำเข้ามาอย่างถูกต้องก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เนื่องจากในส่วนประกอบจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก
ยกเว้นในผู้ที่มีประวัติแพ้ถั่ว , ข้าวสาลี หรือไม่ว่าแพ้อะไรก็ตาม แนะนำว่าให้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือแพทย์ที่ทำหัตถการก่อนทุกครั้ง เพราะบางยี่ห้อจะมีสารสกัดจากพืชตระกูลถั่ว,ข้าวสาลี และสารสกัดอีกหลายชนิด ดังนั้นแนะนำว่าในการซักประวัติหากมีประวัติแพ้อะไรให้ระบุให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยก่อนทำหัตถการค่ะ
ฉีดแฟต หรือ โบท็อก ดีกว่ากัน ? คงเป็นคำถามที่หลาย ๆ ท่านสงสัย เพราะหัตถการทั้งสองต่างก็มีส่วนช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้นเหมือนกัน และราคาก็ไม่ได้ต่างกันมาก ซึ่งเราก็จะมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันง่ายขึ้น ตามตารางด้านล่างนี้ค่ะ
สามารถฉีดได้ต่อเนื่อง ทุก 1 สัปดาห์ จนกว่าเปอร์เซ็นต์ไขมันจะน้อยลงตามความพอใจ
เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือต้องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่น
เริ่มเห็นผลหลังฉีด 3-4 วัน
กล้ามเนื้อที่ฉีดจะเริ่มตึง เนื่องจากตัวยาทำให้ขยับกล้ามเนื้อได้น้อยลง หลังฉีด 1 อาทิตย์หน้าจะดูเรียวลงชัดเจน
ทุก 4-6 เดือน
หนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนหน้าบาน หน้าใหญ่ อยากให้ใบหน้าเล็ก กรอบหน้าชัด เราจะพาไปดูกันว่าหัตถการใดบ้างที่ช่วยให้ใบหน้าดูเล็ก เรียวขึ้นได้แบบชัดเจน และเห็นผลนาน โดยหัตถการที่ควรทำมีดังนี้
เห็นผลชัดกันสุดๆ สำหรับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า หรือแก้ม เพราะตัวยาแฟตจะช่วยในการสลายไขมันส่วนเกินไม่จำเป็นออกไป ทำให้ไขมันหาย หน้าเล็กลงอีกระดับ
โบท็อกกราม เป็นหัตถการที่ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามคลายตัวและหยุดการทำงาน กล้ามเนื้อจึงเล็กลง กรามหาย หน้าดูเรียวขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถฉีดโบท็อกบริเวณกรอบหน้า เพื่อทำให้กรอบหน้าชัดขึ้นได้อีกด้วย โดยโบท็อกนิยมทำคู่กับฉีดเมโสแฟตค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกกราม ราคาเท่าไหร่ ต้องใช้กี่ยูนิต จึงช่วยให้หน้าเรียวขึ้น
การร้อยไหม เป็นหัตถการที่ช่วยได้ทั้งในเรื่องของหน้าเล็ก และการลดอายุให้ดูหน้าเด็ก เนื่องจากพออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวจะลดลง ทำให้ผิวหย่อยคล้อย หน้าแก้มห้อย ดูมีอายุ และหน้าใหญ่ขึ้น การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อยคล้อยดูเต่งตึง ทำให้ใบหน้าเล็กลง
การทำหัตถการกลุ่มยกกระชับไม่ว่าจะเป็น Hifu / Ultraformer ||| / Ulthera จะเห็นผลได้ในเรื่องของผิวกระชับ และมีการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยตัวเครื่องจะทำความร้อนใต้ผิว หลังทำประมาณ 1 เดือนผิวหน้าจะเริ่มกระชับขึ้น เห็นผลเต็มที่ 6-12 เดือน แนะนำว่าเป็นหัตถการที่ควรทำซ้ำทุก 2-3 ครั้ง / ปี เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ขึ้น แต่จริง ๆ แล้วการฉีดกับหมอที่มีฝีมือจะทำให้ใบหน้าดูเล็กลงได้ เพราะตัวฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มใบหน้าให้ได้รูป เช่น ฉีดฟิลเลอร์คาง จะทำให้หน้าที่ดูสั้น บานออกด้านข้างละมุนมากยิ่งขึ้น หรือการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า จะทำให้ผิวที่หย่อยคล้อยยกตัวขึ้น ทำให้หน้าเด็กลง
อ่านเพิ่มเติม : ทำความรู้จักกับ ฟิลเลอร์ สารเติมเต็มร่องลึก ยี่ห้อไหนเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง
สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มป่อง แก้มเยอะ ลดน้ำหนักหรือฉีดแฟตแล้ว แก้มยังไม่ลง การตัดไขมันกระพุ้งแก้มจะช่วยให้หน้าเรียวขึ้นได้ เพราะไขมันบริเวณกระพุ้งแก้มเป็นไขมันในชั้นลึก ที่อยู่ใกล้กับกระพุ้งแก้มทำให้ลดได้ยาก ดังนั้นการผ่าตัดเพื่อนำไขมันกระพุ้งแก้มออกจะตอบโจทย์มากกว่า
โดยทั่วไปการฉีดเมโสแฟตในช่วงแรกไขมันจะเริ่มสลายไปประมาณ 10–15 % และจะค่อยๆ สลายตัวไปเรื่อยๆ โดยจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนในระยะเวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด แต่สัดส่วนบริเวณที่ฉีดจะลดมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคลและแต่ละจุดด้วยค่ะ
โดยปกติแล้วการฉีดเมโสแฟตครั้งแรกนั้น จะต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกครั้งภายใน 1-2 อาทิตย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ด้วยว่าในแต่ละเคสควรฉีดเมโสแฟตปริมาณเท่าไหร่จึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน และแพทย์จะเป็นผู้แบ่งจำนวนครั้งที่ต้องมาฉีดว่าครั้งหนึ่งจะต้องฉีดกี่เข็ม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีดเมโสแฟตเพื่อสลายไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกสลายโดยการแตกตัว จะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบน้ำเหลือง และขับออกมาทางปัสสาวะ ซึ่งหลังจากที่ฉีดแฟตไปแล้ว ขอแนะนำให้ดื่มน้ำตามปริมาณมากๆ ประมาณวันละ 1-2 ลิตรค่ะ
ฉีดเมโสแฟตและร้อยไหม สามารถทำพร้อมกันได้ แต่อาจจะบางกรณีที่คนไข้มีแก้มเยอะ แพทย์อาจจะพิจารณาให้ฉีดเมโสแฟตให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาร้อยไหมเพื่อยกกระชับหน้าอีกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
เมื่อฉีดแฟตไปแล้ว ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจจะทำให้อาการบวมหายช้า และควรทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร่างกายขจัดหรือสลายไขมันได้ดี Meso Fat ก็จะมีประสิทธิภาพและได้ผลดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ
เมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังเพื่อช่วยสลายไขมัน ทำให้บริเวณที่ถูกฉีดดูเล็กลง ส่วนโบท็อกเป็นการฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อหดตัวและมีขนาดเล็กลง ทั้งสองอย่างเป็นหัตถการที่ช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวและช่วยให้ส่วนอื่น ๆ ดูเล็กลงได้เช่นกัน
หลังจากฉีดเมโสแฟต จะมีอาการบวมจากปริมาณยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งยาจะค่อยๆ ซึม และยุบใน 3-4 ชั่วโมง โดยอาจมีจะบางรายที่อาการบวมประมาณ 1-3 วันได้เช่นกันค่ะ