Home » สิวไม่มีหัว นูนๆ รักษายังไง ? ให้ผิวเรียบเนียน หน้ากลับมาใสอีกครั้ง
สิวไม่มีหัว นูนๆ รักษายังไง
last update :

สิวไม่มีหัว นูนๆ รักษายังไง ? ให้ผิวเรียบเนียน หน้ากลับมาใสอีกครั้ง

สิวไม่มีหัว นูนๆ รักษายังไง ? หลาย ๆ คนที่เคยเป็นสิวไต หรือสิวอักเสบที่ไม่มีหัว ก็คงจะทราบกันดีว่า สิวประเภทนี้ รักษายาก และกลับมาเป็นซ้ำบ่อย กดออกแบบสิวหัวดำ สิวหัวขาวไม่ได้ ซึ่งในบทความนี้ All About Clinic จะพาไปรู้จักกับ สิวไต แบบเจาะลึก และวิธีการรักษาให้หาย รวมไปถึงเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้กลับมาเรียบเนียน มีผิวกระจ่างใสสุขภาพดีอีกครั้ง

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

สิวไต (Nodular Acne)

สิวไต (Nodular Acne) เป็นสิวที่ถูกจัดอยู่ในประเภทของ สิวอักเสบ เกิดการอักเสบของรูขุมขนอยู่ที่ใต้ชั้นผิวหนัง สิวไม่มีหัว มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีแดง หรือเป็นไตแข็ง ๆ มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวช้าง ในช่วงแรกของการเป็นสิวชนิดนี้จะยังไม่มีอาการเจ็บ หากปล่อยทิ้งไว้สักระยะจะเกิดอาการบวมแดง และรู้สึกเจ็บได้ สิวไต มักจะพบได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า หน้าผาก คาง หน้าอก และที่บริเวณหลัง ถ้าหากรักษาไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้นได้ หลังจากที่สิวหายยังมีโอกาสที่จะทิ้งรอยแผลไว้ได้อีกด้วย

สาเหตุของการเกิด สิวไต

เพราะ สิวไต เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่ง ดังนั้นสาเหตุของการเกิดสิว จึงมีความคล้ายคลึงกับการเกิดสิวอักเสบชนิดอื่น ๆ แต่มีความรุนแรงมากกว่า โดยทั่วไปแล้วสาเหตุการเกิดสิวอักเสบ จะมีอยู่สองปัจจัยหลัก ๆ คือ ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายใน

  • เซลล์ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า ที่สะสมอยู่รวมตัวกับเคราติน ไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน
  • ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ทำให้มีการผลิต Sebum หรือน้ำมันออกมามาก ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิว ทั้งนี้ฮอร์โมนเพศที่มีระดับเพิ่มขึ้น หรือลดลงไปจากปกติก็ทำให้เกิดสิวได้ เช่น สิวในช่วงที่มีประจำเดือน หรือสิวช่วงวัยทองเป็นต้น
  • ปริมาณของเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes ที่เพิ่มมากขึ้น จะกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่รูขุมขน จึงทำให้เกิดสิวอักเสบอย่างสิวไตได้
  • พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติว่าเป็นสิวอักเสบสีผิวมัน รูขุมขนกว้าง จากการศึกษาพบว่า กว่า 62.9-78 % ลักษณะนี้จะถ่ายทอดไปยังรุ่นถัดไป โดยเฉพาะเพศชาย ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นสิวระดับรุนแรง
  • ความเครียด ภาวะนี้กระตุ้นทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน คอร์ติโซล (Cortisol) แอนโดรเจน (Androgens) ฮอร์โมนนูโรเปปไทด์ (Neuropeptides) ฮอร์โมนเอนโดรฟีน (Endorphins) และ อินซูลิน (Insulin) และ ฮอร์โมนไซโตคินส์ (Cytokines) ออกมามากขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ต้นเหตุทำให้เกิดสิวขึ้นได้

ปัจจัยภายนอก

  • อาการแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอาง หรือสารเคมี รวมไปถึงการรักษาความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้า ที่ไม่ดีพอ ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อโรค ส่งผลทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการอุดตัน และเกิดการอักเสบได้
  • มลภาวะทั้งฝุ่น ควัน ที่สามารถเข้าไปทำร้ายผิวได้ถึงชั้นผิวหนัง เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกในรูขุมขน จนเกิดการอุดตัน และเป็นสิวได้
  • อาหารที่ไขมัน และมีน้ำตาลสูง จะทำให้เกิดการอัดตันในรูขุมขน น้ำตาลยังกลายสภาพเป็นกรด ทำให้เซลล์ในร่างกายเกิดการอักเสบอีกด้วย การรับประทานของหวาน อาหารที่มีไขมัน จึงเป็นการทำร้ายผิวในระยะยาว
  • การทำความสะอาดใบหน้า ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง มีการขัดหน้าที่รุนแรง หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม จะกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เกิดการอักเสบได้
  • การที่มีเหงื่อออกมาก ทำให้เกิดความอับชื้น เกิดการหมักหมม รูขุมขนจึงอุดตัน จะทำให้เกิดสิวอักเสบแบบไม่มีหัวได้ง่าย

สิวไม่มีหัว นูนๆ รักษายังไง ?

สิวที่ไม่มีหัว หรือสิวไต สามารถรักษาให้หายได้ โดยไม่ทิ้วรอยแผลหลังจากที่สิวหายแล้ว แต่ต้องรักษาอย่างถูกวิธี กับแพทย์ที่มีความชำนาญ แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างเหมาะสม และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ในปัจจุบันจะมีวิธีการรักษาสิวไต ดังนี้

การฉีดสิว

จะเป็นการฉีดสารสเตียรอยด์ หรือ ฉีดคอร์ติโซน(Cortisone Injections) เข้าไปที่สิวโดยตรง เพื่อช่วยลดขนาดสิว ลดการอักเสบ หลังฉีดตุ่มสิวแข็ง ๆ จะยุบตัวลง วิธีนี้จะไม่ทิ้งรอยแผลของสิวเอาไว้ วิธีนี้จะเห็นผลลัพธืภายใน 2-3 วัน

อนุพันธ์วิตามินเอ

หรือยาในกลุ่ม เรตินอยด์ (Retinoids) ที่ช่วยลดการอุดตัน ช่วยต้านการอักเสบ การใช้ยาในกลุ่มนี้ต้องดูภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

ยาทาสิว

เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ยาทาภายนอกที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยจำนวนแบคทีเรียลง มีความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5 – 10% สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวได้

ยาปฏิชีวนะ

กลุ่มยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ยาทาที่นำมาใช้เฉพาะที่ ช่วยควบคุมการอักเสบของสิวได้ดี บางทีก็มีการใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เพื่อลดโอกาสในการดื้อยา

การลอกหนังกำพร้า

เป็นการใช้กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.5 – 2% ทาลงที่ผิว เพื่อให้หนังกำพร้าที่อยู่ชั้นบนสุดหลุดลอกออกไป ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน

จะเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้เกิด สิว จะมีด้วยกันอยู่หลายปัจจัย ดังนั้นการดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดสิว จึงเป็นการรักษาที่ดีที่สุด ทั้ฃการทำความสะอาดผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า การปกป้องผิวจากมลภาวะ การทาครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงการบีบ การแกะสิว เพราะอาจจะทำให้เกิดแผล และเกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้น