ในวงการเสริมความงามชื่อของ “โบท็อกซ์” (Botulinum Toxin) กลายเป็นหนึ่งในทรีตเมนต์ยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อยับยั้งริ้วรอย ปรับรูปหน้า และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหนึ่งในแบรนด์ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในขณะนี้คือ Aestox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่กำลังเป็นที่จับตามองในคลินิกความงามทั่วเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย
เอสท็อกซ์ โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่มาแรงแห่งยุค ที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทเวชสำอางชั้นนำที่ได้รับการรับรองจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงมาตรฐาน GMP และการรับรองจาก KFDA (Korean Food and Drug Administration) ซึ่งเทียบเท่ากับ FDA ของสหรัฐอเมริกา
ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในด้านความงามและเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยมีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Acetylcholine ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อที่ฉีดคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดลง และสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
เอสท็อกซ์ เป็นหนึ่งในโบท็อกซ์เกาหลีที่มีความบริสุทธิ์ของสารสูงถึง 99.4% ซึ่งถือว่ามีความใกล้เคียงกับโบท็อกซ์แบรนด์ระดับโลกอย่าง Allergan (อเมริกา) และ Nabota (เกาหลี) ความบริสุทธิ์สูงนี้ช่วยลดโอกาสในการดื้อโบท็อกซ์และทำให้เห็นผลชัดเจน
หนึ่งในจุดเด่นที่หลายคนพูดถึงคือ “ลักษณะผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ” ไม่แข็งตึงจนเกินไป กล้ามเนื้อสามารถเคลื่อนไหวได้ในระดับที่เหมาะสม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลุคสวยแบบดูไม่โป๊ะ
เมื่อเทียบกับโบท็อกซ์จากฝั่งอเมริกา เอสท็อกซ์ มีราคาย่อมเยากว่า ทำให้คลินิกสามารถให้บริการในราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปเอื้อมถึงได้ ขณะที่ยังคงคุณภาพที่ไว้วางใจได้
เอสท็อกซ์ ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้เกิดโอกาสในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันน้อยลง และลดความเสี่ยงในการดื้อยาเมื่อใช้ต่อเนื่องระยะยาว
เอสท็อกซ์ สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาผิว เช่น ฉีดโบท็อกซ์ลบริ้วรอย,โบท็อกตีนกา หรือฉีดโบท็อกซ์เพื่อการปรับรูปหน้า เช่น ฉีดโบยกกระชับ โบท็อกลดกราม ไปจนถึงการฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาโรคอื่นๆ เช่น ออฟฟิศซินโดรม, ภาวะเหงื่อออกมาก เป็นต้น โดยทั่วไปโบท็อกซ์ เอสท็อกซ์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
ปริมาณที่เหมาะสมในการ ฉีดโบท็อกซ์ ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข และการวินิจฉัยของแพทย์ว่าปัญหาหนักหรือไม่ ถ้าหากมีการฉีดโบท็อกซ์ในจำนวนยูนิตที่น้อยเกินไปอาจไม่เห็นผล หรือหากฉีดมากเกินไปก็ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ มีผลต่อการขยับบริเวณที่ฉีดได้
จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 3–7 วันหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะคงอยู่ได้นาน ประมาณ 3–6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังจากที่ทำหัตถการ ซึ่งการฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และลดโอกาสที่จะดิ้อโบได้ด้วย
โบท็อกซ์ | ความบริสุทธิ์ | ระยะเวลาในการเห็นผล | การกระจายตัว | อาการข้างเคียง |
Aestox Botox | 99.5% | 48-72 ชั่วโมง | กระจายตัวได้ปานกลาง นิยมฉีดลดริ้วรอย | ปวดศีรษะ ตาแห้ง ปากแห้ง |
Nabota Botox | 98.7% | 24 ชั่วโมง | กระจายตัวได้ดีกว่า ใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้า | ปวดศีรษะ ตาแห้ง ปากแห้ง |
เอสท็อกซ์ ถือเป็นโบท็อกซ์เกาหลีระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยโบท็อกซ์ หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์แล้วแต่อยากลองแบรนด์ใหม่ที่มีผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและไม่เสี่ยงต่อการดื้อยาในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือฟื้นฟูบุคลิกภาพให้มั่นใจขึ้น เอสท็อกซ์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก