เมโสหน้าใส อีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อความงาม กระจ่างใสของผิวหน้า ตอบโจทย์คนที่อยากมีผิวเนียนใสดูออร่าแบบสาวเกาหลี Mesotheraphy คือทรีทเม้นท์ผิวหน้าที่ช่วยในการปรับสภาพสีผิวให้ขาวใสอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผ่านขั้นตอนการใช้เข็มสะกิดตัวยาและวิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ให้ผิวได้รับการดูดซึมวิตามินอย่างล้ำลึก ประสิทธิภาพเหนือกว่าการบำรุงด้วยเซรั่มหรือครีมบำรุงผิวทั่วไป เห็นผลไว ไม่เจ็บตัว ผลลัพธ์เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
เมโสหน้าใส หรือ Mesotheraphy คือนวัตกรรมการปรับสภาพผิวหน้า ให้มีความขาวกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอกัน โดยการฉีดสารสกัดเข้มข้นที่มีส่วนประกอบของวิตามินต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ เช่น วิตามินเอ, วิตามินอี, วิตามินซี, คอลลาเจน, คิวเท็น, โคเอนไซม์, และกลูต้าไธโอน ซึ่งจะทำการฉีดเข้าสู่ผิวชั้นกลาง (Dermis) ที่เป็นชั้นผิวที่สำคัญที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้บำรุงได้อย่างล้ำลึกถึงชั้นผิวภายใน นอกจากนี้การฉีดเมโสหน้าใสยังสามารถทำได้ทั้งวิธีการสะกิดเข็มทั่วใบหน้า หรือฉีดตัวยาเข้าใบหน้า 16 จุด เพื่อช่วยให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น ช่วยควบคุมให้เม็ดสีทำงานลดลง และช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ เช่น รอยแดงจากสิว รอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ หลังจากฉีดเมโสหน้าใสแล้วจะเห็นได้ว่าผิวหน้ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นผิวเต่งตึง เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอกันมากขึ้น และเป็นหัตถการที่เห็นผลได้ไวกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไปที่อาจจะบำรุงเพียงผิวชั้นนอกเท่านั้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : เมโสหน้าใส คืออะไร แนะนำข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำเมโสหน้าใส
การทำเมโสหน้าใส เป็นกระบวนการนำสารอาหารและวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมหรือเซรั่มบำรุงทั่วไป เพราะตัวยาจะแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง ซึ่งมีคุณประโยชน์มากมายดังนี้
ปัจจุบัน Mesotheraphy มีด้วยกันหลากหลายยี่ห้อหลากหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรก็จะช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งควรเลือกเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมก่อนการฉีดทุกครั้ง โดยยี่ห้อของเมโสที่นิยมในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 4 ยี่ห้อหลัก ๆ ดังนี้
Exosome Skin Booster คือ สารสกัดที่แยกออกมาจาก Stem cell ทำหน้าที่ในการลำเลียงสารประกอบชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด ที่จำเป็นต่อการซ่อมแซม ฟื้นฟูผิว พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวแข็งแรง รูขุมขนกระชับ ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงมากยิ่้งขึ้น
การฉีด Exosome นิยมฉีดแบบทั่วใบหน้า ทำให้หน้าฉ่ำวาว ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดี นอกจากนี้ยังนิยมฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อบำรุงและยืดอายุเซลล์ผม ทำให้ลดภาวะการเกิดผมร่วงและหนังศีรษะสุขภาพดีแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
จุดเด่น : ช่วยในเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว กระตุ้นคอลลาเจน กระชุบรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสเพิ่มขึ้น
เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาผิวโทรม ผิวอ่อนแอ แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น
นวัตกรรมรวมอาหารผิวที่มีส่วนประกอบของวิตามินบำรุงผิวและแร่ธาตุมากถึง 57 ชนิด ซึ่งจะมีความโดดเด่นเรื่องการช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว และริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอกัน รอยดำและความหมองคล้ำจางลง
จุดเด่น : ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว ฝ้า/กระ จุดด่างดำ
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
อ่านบทความ : Hayyan คืออะไร ? มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
เป็นนวัตกรรมการเติมวิตามินบำรุงผิวกว่า 67 ชนิด ซึ่งจะโดดเด่นในเรื่องของการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง ผิวฉ่ำวาว จุดด่างดำจางลง ช่วยเรื่องหลุมสิว เติมร่องลึกให้ตื้นขึ้น และช่วยรักษาสิว ผดผื่น ลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างได้
จุดเด่น : ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวเรียบเนียน และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน หรือผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ หน้าโทรมดูไม่สดใส
รีจูรัน สารสกัดเข้มข้นจาก DNA ของปลาแซลมอน โดดเด่นในเรื่องของการช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวแข็งแรงดูสุขภาพดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดรอยสิว กระชับรูขุมขน และช่วยทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวดูสดใสฉ่ำวาว มีออร่าแบบสาวเกาหลี
จุดเด่น : ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ ปรับสภาพผิวให้ดูสดใส ฉ่ำวาว ผิวกระจกผิว กระชับรูขุมขน และลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงแบบเร่งด่วน และผู้ที่ต้องการปรับผิวให้กระจ่างใส ผิวดูฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
อีกหนึ่งนวัตกรรมสารสกัดจากอสุจิปลาแซลมอนที่มีคุณภาพ โดดเด่นในเรื่องของการช่วยรักษาหลุมสิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวขาดน้ำ ทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดสิวอักเสบ แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง และฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงยิ่งขึ้น
จุดเด่น : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว รักษาหลุมสิว ลดเลือนริ้วรอย
เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ และผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ
การทำทรีทเม้นท์ใบหน้าด้วยเมโสเทอราปี หลัก ๆ แล้วแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิดคือการใช้เข็มสะกิดตัวยาลงบนผิวหน้าแบบ ให้ยาซึมลงไปในผิวหนังชั้นตื้นและเพื่อให้วิตามินซึมลงสู่ผิว โดยจะเป็นการสะกิดเข็มแบบกระจายทั่วทั้งใบหน้า เพื่อให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว
ข้อดีคือจะไม่ทำให้เจ็บมาก เพราะเป็นเพียงการสะกิดเข็มเบา ๆ เท่านั้น แต่มีข้อควรระวังคือหากในระหว่างทำเครื่องมือไม่สะอาดพอ อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่สะอาดได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
ฉีดเมโสหน้าใส เทคนิคนี้ เป็นการฉีดตัวยาตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะช่วยบำรุงสภาพผิวให้มีความกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับแบบสะกิด มีข้อดีคือจะบวมช้ำน้อยกว่า ยาออกฤทธิ์ได้นานกว่า ลดโอกาสเกิดการแพ้หรือติดเชื้อได้ดี
แต่มีข้อเสียคือเนื่องจากเป็นการฉีดตัวยาลงบนผิวหน้าซึ่งต้องปักเข็มลงไปลึกกว่าแบบสะกิด จึงอาจจะทำให้เกิดความเจ็บมากกว่าเล็กน้อย
เมโสหน้าใส คือการบำรุงผิวหน้าเพื่อผลลัพธ์ดูขาวกระจ่างใสที่เห็นผลได้รวดเร็วกว่าการบำรุงด้วยครีมทั่วไป เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
การบำรุงผิวหน้าด้วยการฉีดเมโสหน้าใสมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง โดยมีดังนี้
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นตัวยาที่ผ่านการตรวจสอบรับรองจาก อย. ระดับโลก และเป็นการฉีดสารสกัดจากธรรมชาติ ตามหลัก Homeopathy เป็นวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุง และเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวแข็งแรง นอกจากนี้ตัวยายังสามารถสลายไปได้หมดไม่ตกค้างในผิว หลังฉีดไม่ทำให้ผิวบางลง และไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง
แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ การฉีดเมโสปลอม หรือเมโสที่ฉีดตามบ้าน หรือสั่งซื้อมาเองตามออนไลน์ ซึ่งจะเป็นตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย. หากใช้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น อาจจะมีอาการแพ้ เป็นผื่นแดง และเกิดการอักเสบต่อผิวหนังได้ ดังนั้น ควรฉีดด้วยตัวยาแท้ที่ได้มาตรฐานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง และเป็นคลินิกที่ดูน่าเชื่อถือเท่านั้น จะปลอดภัย 100% ค่ะ
โดยปกติการฉีดเมโสหน้าใส จะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่การฉีดครั้งแรก โดยจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดไปประมาณ 3 วัน และจะเห็นผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นใน 7-14 วัน ซึ่งจะเริ่มรู้สึกว่าหน้าดูฟูขึ้น ผิวนุ่มชุ่มชื้นและดูสุขภาพดีมากขึ้น สำหรับความถี่ในการฉีด แพทย์จะแนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้งในเดือนแรก แล้วในเดือนต่อไปให้ฉีดทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อคงสภาพผิวที่ดูดีไว้ เนื่องจากเมโสหน้าใสจะไม่อยู่ถาวร จะสามารถสลายหายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง และในส่วนของผลลัพธ์หลังฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน (บางยี่ห้ออาจจะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน)
หลังจากฉีดไปแล้ว ไม่ต้องมีการพักฟื้น ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำ เพื่อประสิทธิภาพของตัวยาที่จะทำงานได้อย่างดีที่สุด
คนที่สนใจฉีดหน้าใสคงต้องตั้งคำถามว่า เมโสหน้าใส ราคาเท่าไหร่ การทำเมโสหน้าใสเป็นหัตถการที่ราคาไม่แพงมาก เริ่มต้นหลักพันเท่านั้นเอง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามโปรโมชั่นกับทางคลินิกได้โดยตรง ราคาอาจมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อของตัวยาที่ใช้ฉีด และจำนวนครั้งที่ฉีดก็มีผลด้วยเช่นกัน
โดยในเดือนแรก แพทย์แนะนำให้ฉีดเมโสหน้าใสสัปดาห์ละครั้ง และค่อยปรับเปลี่ยนเป็นสองสัปดาห์หนึ่งครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่จะคงอยู่อย่างยาวนาน
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก ฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี สิ่งแรกที่ควรคำนึงเป็นอย่างแรกคือความปลอดภัย และควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการและคลินิกที่จะเข้ารับการรักษาก่อน โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้
ดังนั้น คนไข้ควรเลือกฉีดเมโสหน้าใสกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง สถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และดูน่าเชื่อถือ ซึ่งที่ All About Clinic ของเรา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าของคนไข้และเลือกสูตรหรือยี่ห้อเมโสที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งสามารถเข้ารับการปรึกษากับคุณหมอที่ All About Clinic ได้ทุกสาขา หรือติดต่อกับหมอโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ : Line @AACTHAILAND
การฉีดเมโสหน้าใสจะเริ่มเห็นผลวันที่ 3 หลังการฉีด และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในวันที่ 7-14 ซึ่งหากอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีในเดือนแรกควรฉีดสัปดาห์ละครั้ง และในเดือนต่อไปจะฉีดทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยเมโสหน้าใสอยู่ได้นาน 1-2 เดือน หากฉีดอย่างสม่ำเสมอค่ะ แล้วจะสลายหายไปเองตามธรรมชาติ
สำหรับการฉีดเมโสหน้าใสจะมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย คือ การมีรอยเข็มตามใบหน้าที่เกิดขึ้นจากตอนฉีดตัวยา แต่รอยเข็มเหล่านี้จะหายไปเองใน 1-3 วัน หรืออาจจะมีตุ่มนูนๆ ตรงบริเวณที่ฉีด แต่เมื่อตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหมดแล้วก็จะยุบลงไปเอง ซึ่งคนไข้ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะการฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมากค่ะ
การฉีดเมโสหน้าใสสามารถฉีดได้ตั้งแต่เด็กวัยรุ่นเป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มฉีดที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดสิวอักเสบ สิวจากอาการแพ้ หรือสิวอุดตัน ที่มักพบได้บ่อยในกลุ่มเด็กวัยรุ่นค่ะ
การฉีดเมโสหน้าใสเป็นการทำหัตถการผ่านการฉีดเข็มลงใต้ผิวหนังชั้นกลาง โดยจะไม่มีการแปะยาชา ซึ่งท่านจะรู้สึกตอนที่แพทย์ทำการฉีดแต่ความเจ็บจะอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ค่ะ เนื่องจากปริมาณตัวยาไม่มากและใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้การประคบน้ำแข็งก่อนฉีดจะสามารถช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ค่ะ
หลังฉีดเมโสหน้าใส ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากแอลกอฮอล์และสารนิโคตินในบุหรี่จะส่งผลทำให้เมโสเสื่อมสภาพได้ไวขึ้น และผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน
หลังฉีดเมโสหน้าใส สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ควรรอให้แผลจากรอยเข็มปิดสนิท เพื่อลดอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยรอประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากฉีดไปแล้วค่ะ