การเสริมคาง คือ ศัลยกรรมปรับรูปหน้ารูปแบบหนึ่ง โดยการนำซิลิโคนหรือวัสดุทางการแพทย์มาเสริมบริเวณคาง จะช่วยทำให้คางดูยาวรับกับใบหน้า ให้ใบหน้าดูเรียวสมส่วน แก้ปัญหาสำหรับคนที่คางสั้น คางตัด หรือคางถอย ทั้งจากพันธุกรรมและจากการเกิดอุบัติเหตุ
คางถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญต่อใบหน้า การทำศัลยกรรมเสริมคางจึงได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนเอเชียส่วนใหญ่ที่มีโครงสร้างใบหน้าแบบรูปคางสั้น ทำให้หน้าสั้นตามไปด้วย การเสริมคางจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ มีเสน่ห์ และช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
การปรับแต่งรูปคางให้ดูเรียวยาวขึ้นนั้นสามารถทำได้ทั้งการฉีดฟิลเลอร์และผ่าตัดศัลยกรรม โดยการผ่าตัดจะมีอยู่ 2 เทคนิคด้วยกัน ได้แก่
สำหรับการเสริมคาง ซิลิโคนนั้นสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตค่ะ โดยซิลิโคนที่ใช้จะเป็นเกรดการแพทย์ ดังนั้นหากไม่พบปัญหาหลังเสริม เช่น คางย้อย มีรูปทรงที่ผิดแปลก หรือเกิดการอักเสบจากอุบัติเหตุ หรือการอักเสบการจากผ่าตัดที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ไม่จำเป็นต้องเสริมคางใหม่ แต่ทั้งนี้หลังเสริมก็ควรดูแลตัวเอง และระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือการเท้าคาง เพื่อให้ซิลิโคนเข้าที่หลังเสริมประมาณ 6 เดือน – 1 ปี จากนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะ
หลังการเสริมคาง ปัญหาที่พบบ่อยส่วนใหญ่จะมาจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงหลังเสริม หรือเกิดจากการผ่าตัดเสริมคางที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้รูปทรงคางหลังเสริมดูไม่สวยเท่าที่ควร โดยปัญหาที่พบบ่อยมีดังนี้
เกิดจากการใช้ซิลิโคนผิดประเภท เช่น ใช้ซิลิโคนขาสั้น ซึ่งไม่เหมาะกับรูปทรงคางเดิมที่มีลักษณะคางสั้น หรือคางถอยมาก ทำให้รอยต่อระหว่างช่วงกรามกับคางไม่ต่อกัน และเกิดปัญหาคางย้อยได้
พบได้บ่อยในกรณีที่หลังเสริมคางนั้นเกิดอุบัติเหตุกระทบกระเทือนคางอย่างรุนแรง ทำให้รูปทรงคางหลังเสริมเกิดเบี้ยว เอียง ไม่สมมาตร กรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะพบปัญหาตามมาอย่างการอักเสบได้ค่ะ
สามารถเกิดได้ในกรณีการผ่าตัดไม่ได้มาตรฐาน หรือภายหลังเสริมขาดการดูแลอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารแสลง หรือ การไม่ระมัดระวังจนเกิดการกระทบกระเทือน พบได้ในการเสริมคางแบบแผลในมากกว่าแผลนอก
เป็นปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรง สามารถพบได้แต่ไม่บ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่ และการเสริมที่ฝืนเนื้อมากเกินไป ดังนั้น หากพบอาการบวมแดงผิดปกติ จึงควรรีบพบแพทย์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่หนักจนถึงขั้นทะลุค่ะ
ทั้งนี้หากท่านพบปัญหาหลังเสริมคาง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษา โดยปัญหาด้านบนนั้นจะพบได้ไม่บ่อยนัก หากท่านเลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการผ่าตัดเสริมคาง และเลือกเทคนิคในการทำคางที่เหมาะกับรูปทรงคางเดิม รวมถึงหากได้รับการดูแลหลังเสริมอย่างเคร่งครัดก็แทบที่จะไม่พบปัญหาหลังเสริมเลยค่ะ
การเสริมคางเป็นการปรับรูปหน้าสำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางเหลี่ยม จนทำให้ใบหน้าสั้นไม่เรียวสวย เมื่อเสริมคางด้วยซิลิโคนเข้าไปแล้วจะช่วยทำให้คางดูยาวขึ้น ปรับให้ใบหน้าโดยรวมดูสมส่วน หน้าเรียวสวยมีมิติมากขึ้น หลังเสริมรูปหน้าจะดูเปลี่ยนจากเดิมที่ช่วงคางสั้น ก็จะมีความสมดุล และใบหน้าดูหวานมากขึ้น ทั้งหน้าตรงและมุมข้าง หลังเสริมจะได้สัดส่วนของใบหน้าที่ดูสมดุลมากขึ้น ซึ่งโดยปกติคุณหมอจะออกแบบทรงคางตามสัดส่วนใบหน้าที่สมบูรณ์ โดยวัดจากการแบ่งใบหน้าออกเป็นส่วนเท่า ๆ กัน จากหน้าผากถึงหว่างคิ้ว เป็น 1 ส่วน จากหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก เป็น 1 ส่วน และจากปลายจมูกจนถึงคาง เป็น 1 ส่วน โดยสัดส่วนทั้งหมดนี้จะมีระยะห่างที่เท่ากัน จะถือว่าเป็นใบหน้าที่สมดุลทั้งความยาวและความสูง จึงทำให้รูปทรงใบหน้าดูเปลี่ยนไปในทิศทางที่มีเสน่ห์มากขึ้นนั่นเองค่ะ
เสริมคาง เป็นการศัลยกรรมผ่าตัดขนาดเล็ก โดยใช้ยาชาร่วมด้วย การเสริมไม่ว่าด้วยเทคนิคแผลนอกหรือแผลในจะเจ็บเพียงขั้นตอนการฉีดยาชาเท่านั้น หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์ถึงจะเริ่มทำการผ่าตัดค่ะ
หลังจากการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ จะรู้สึกปวดระบมบริเวณคางและแผลผ่าตัด โดยหากมีอาการปวดมากสามารถทานยาลดอาการปวดร่วมกับการประคบเย็นเพื่อลดปวดบวมได้ โดยอาการปวดจะเริ่มหายไปหลังเสริม 2-3 วันค่ะ
เป็นคำถามที่คนอยากเสริมคางหลายคนสงสัย ว่าเสริมคางไปแล้วต้องพักฟื้นกี่วัน เสริมคาง กี่วันหายบวม ซึ่งโดยปกติแล้วหลังทำคางแทบจะไม่ต้องพักฟื้นเลยค่ะ เพราะหลังทำจะพบอาการปวด และเจ็บบริเวณแผลที่ผ่า แต่สามารถทานยาแก้ปวดได้ หลังเสริมแนะนำให้พัก 1 วัน จากนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ต้องดูแลรักษาตามข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่นเรื่องการงดรับประทานอาหารบางประเภท หรืองดการออกกำลังกาย เป็นต้น
ส่วนอาการบวมหลังเสริมคางจะค่อย ๆ ยุบลงใน 3-7 วัน และคางจะเริ่มเข้าที่หลังเสริมประมาณ 1-3 เดือนค่ะ
เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ ว่าเสริมคางไปแล้วจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้หรือไม่ ต้องบอกว่าแผลเป็นหลังการผ่าตัดนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวหนังของตัวคนไข้เอง ฝีมือของแพทย์ หรือเทคนิคการผ่าตัด
โดยหากท่านเลือกผ่าตัดแบบแผลใน การเปิดแผลจะเปิกจากภายในปาก จึงไม่มีแผลผ่าตัด เทคนิคนี้จะเหมาะสำหรับท่านที่มีประวัติการเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย แต่สำหรับการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก จะมีการเปิดแผลด้านใต้ รอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นจะเล็กมาก ๆ จนมองไม่เห็นเลยถ้าไม่สังเกต และสามารถจางลงได้ภายใน 1-3 เดือน โดยคนไข้ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด และหมั่นทายาลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ
โดยรวมแล้วในการผ่าตัดเสริมคาง จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะมีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
เนื่องจากการผ่าตัดเสริมคาง จะทำให้มีแผลผ่าตัดบริเวณคางและปาก ทำให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ดังนี้
อีกหนึ่งคำถามสุดฮิตที่หลายคนสงสัย ว่าอยากทำคาง จะทำคางที่ไหนดี การเสริมคางถือเป็นการทำศัลยกรรมที่คนให้ความสำคัญ การเรื่องคลินิกเสริมคางจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย แพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีรีวิวที่เชื่อถือได้ หากคุณยังไม่เจอตัวเลือกที่ใช่ ให้ All About Clinic เป็นคำตอบของคุณ
ที่ All About Clinic ราคาในการเสริมคางเริ่มต้นที่ 15,900 โดยราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าท่านได้เลือกเสริมด้วยเทคนิคใด นอกจากนี้แพทย์จะทำการประเมินรูปแบบของซิลิโคนที่เหมาะกับแต่ละเคส โดยในบางเคสหากพบปัญหาคางไม่มาก ก็อาจจะแนะนำให้เสริมโดยใช้ซิลิโคนขาสั้น แต่หากปัญหาโครงสร้างคางค่อนข้างมาก หรือต้องมีการตะไบกระดูกคางร่วมด้วย ราคาในการเสริมก็จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยค่ะ ทั้งนี้ท่านสามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ทำการประเมินราคาก่อนเสริมได้
นอกจากนี้ที่ AAC เรายังมีโปรโมชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือน ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นได้โดยตรงที่ลิงค์ : โปรโมชั่น All About Clinic
นอกจากการผ่าตัดเพื่อใส่ซิลิโคนแล้ว การเสริมคางยังสามารถทำได้ด้วยการฉีดคางด้วย ฟิลเลอร์ หลายคนอาจมีคำถามว่าระหว่างการเสริมคางด้วยวิธีการผ่าตัดใส่ซิลิโคนกับการฉีดฟิลเลอร์แบบไหนดีกว่ากัน วันนี้เรามีข้อสรุปมาให้ดูกัน
สำหรับการเสริมคางด้วยซิลิโคนข้อดีคือสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร ในเคสที่พบปัญหาคางคางสั้น คางตัด ที่ค่อนข้างมาก การผ่าตัดโดยเสริมซิลิโคนจะเข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยแพทย์จะประเมินโครงสร้างกระดูกและเนื้อคาง จากนั้นจะเลือกซิลิโคนที่รับกับใบหน้า ทำให้ผลลัพธ์หลังเสริมดูสวย มีมิติ และกำหนดความยื่น หรือความยาวของช่วงคางได้ดีกว่าการฉีดซิลิโคน
แต่ทั้งนี้การเสริมคางด้วยซิลิโคนก็จะมีข้อจำกัดอยู่คือหลังเสริมจะใช้เวลาในการพักฟื้นที่นานกว่า และหลังเสริมจะต้องมีข้อปฏิบัติดูแลหลังเสริมอย่างเคร่งครัด
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์นั้นข้อดีคือเห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย และสามารถฉีดสลายได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแก้ทรงคาง เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการฉีดเสริมคางเพื่อปรับสัดส่วนรูปหน้าให้ดูสมส่วน ไม่ได้พบปัญหาช่วงคางสั้น คางตัด ที่หนักจนเกินไป หรืออยากลองฉีดเพื่อดูรูปหน้าก่อนผ่าตัดเสริมด้วยซิลิโคน
และสำหรับข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง คือ ฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 8 – 12 เดือน จากนั้นก็จะสลายไปตามกาลเวลา ในการปรับรูปทรงคาง หากพบปัญหาคางที่มากเกินไป ผลลัพธ์หลังฉีดอาจจะไม่สวยเทียบเท่าการเสริมด้วยซิลิโคน
ที่ All About Clinic เราใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน ไม่มีวันหมดอายุ สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต แต่จะสามารถถอดออกได้ถ้าหากท่านต้องการเปลี่ยน หรือเกิดอุบัติเหตุ จนจำเป็นต้องถอดซิลิโคนออก
จัดฟันสามารถเสริมคางได้ค่ะ ซึ่งจากการจัดฟันเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างฟันและเหงือกเท่านั้น ส่วนการเสริมคางจะเกี่ยวข้องกับกระดูกโครงหน้าหรือกระดูกคาง โดยจะเป็นคนละส่วนกัน แต่หากท่านมีฟันที่ยื่นมาก ๆ อาจจะต้องดึงฟันเยอะ ขอแนะนำว่าให้ท่านปรึกษากับคุณหมอดูก่อน ว่าควรที่จะไปเสริมฟันเลย หรือรอให้ฟันเริ่มเข้าที่สักพักแล้วค่อยวางแผนทำคางค่ะ
การเสริมคางจะช่วยปรับรูปหน้าให้มีมิติและได้สัดส่วนมากขึ้น โดยจะทำให้ใบหน้าดูยาวและดูเรียวขึ้นนั่นเอง
หากเสริมคางไปแล้วในช่วงแรก ๆ ไม่ควรนั่งเท้าคาง หรือสัมผัสบริเวณคางบ่อย ๆ เพราะอาจจะทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวได้ เนื่องจากแผลยังไม่หายสนิทนั่นเองค่ะ แต่เมื่อแผลเริ่มดีขึ้นหรือหายเป็นปกติแล้วก็สามารถที่จะนั่งเท้าคางได้ โดยควรรอให้คางเข้าที่อย่างน้อย 1 เดือน
หลังเสริมคางประมาณ 3-7 วัน จะมีอาการบวม แต่ระหว่างนั้นท่านยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แล้วคางจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งจะเข้าที่เร็วหรือช้าจะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดของแต่ละบุคคล
หลังผ่าตัดเสริมคางไม่แนะนำให้กดสิวนะคะ ควรใช้ยาชนิดทารักษาสิวแทน เพราะจะทำให้คางเกิดการอักเสบและหายช้าได้
หลังทำคางมาแล้ว ให้งดการนวดหน้าอย่างน้อย 1 เดือน และไม่ควรสัมผัสบริเวณคางโดยไม่จำเป็น เพื่อให้ซิลิโคนยึดตัวและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะโดยสมบูรณ์ก่อน
ปัญหาคางยื่นคือการที่ฟันล่างยื่นออกมามากเกินไปจนคร่อมฟันบน ทำให้ใบหน้าส่วนล่างมีลักษณะยื่นและยาวจนดูไม่สมส่วน คนที่คางยื่นไม่ควรจะเสริมคาง เพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูยาวมากเกินไป ควรจะปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อแก้ไขเรื่องของการดึงขากรรไกรกลับ