เสริมจมูก
เสริมจมูก

ก่อนเสริมจมูก มีอะไรต้องรู้บ้าง ? อยากเสริมให้เข้ากับหน้าเช็คทรงยังไง

จะศัลยกรรมทั้งทีถ้าอยากให้หน้าเปลี่ยนแบบปัง ๆ แน่นอนว่าการเสริมจมูกก็ต้องติดลิสต์รายการเบอร์ต้น ๆ แน่นอน เพราะเป็นหัตถการที่เป็นการผ่าตัดเล็ก และปลอดภัย (เมื่อทำจมูกกับแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน) โดยการเสริมจมูกนั้น เมื่อเลือกทรงให้เข้ากับใบหน้าก็จะทำให้ภาพรวมดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้น แต่ถ้าอยากเปลี่ยนลุคใบหน้าให้สวยหวาน หรือสวยหน้าคม โฉบเฉี่ยวขึ้นก็สามารถเลือกทรงได้เช่นกัน

เสริมจมูก

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

การทำศัลยกรรมเสริมจมูก คืออะไร ?

หลาย ๆ คนคงรู้จักว่าการเสริมจมูก (Rhinoplasty) นั้นคือการที่ผ่าตัดจมูกแล้วใส่ซิลิโคนเสริมเข้าไปเพื่อให้จมูกโด่งขึ้น แต่ถ้าลองศึกษาเพิ่มเติม ก็จะรู้ว่าการเสริมจมูกนั้นไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยซิลิโคนอย่างเดียว ปัจจุบันมีทั้งเสริมด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง หรือเสริมซิลิโคนร่วมกับใช้กระดูกอ่อนก้นกบ , กระดูกอ่อนหลังหู หรืออาจจะใช้เนื้อเยื่อเทียมที่คล้ายกับผิวเนื้อเยื่อมนุษย์ในการเสริมรองปลายจมูก เพื่อป้องกันการเกิดซิลิโคนทะลุได้ในภายหลัง 

นอกจากนี้การเสริมจมูกยังมีเทคนิคการผ่าตัด 2 แบบด้วยกัน คือ ผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด (Close) และผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด (Open)  ซึ่งเราจะพาไปเจาะลึกกัน ว่าแต่ละเทคนิคนั้นมีข้อดีข้อเสียยังไง และแต่ละเทคนิคเหมาะกับรูปทรงจมูกแบบไหนบ้าง

เทคนิคเสริมจมูกแบบปิด ( Close)

การทำจมูกด้วยเทคนิคนี้จะเป็นการเปิดแผลภายในบริเวณจมูกเพียงฝั่งเดียว โดยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณด้านในปีกจมูกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ก่อนจะนำซิลิโคนหรือเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ เสริมเข้าไปตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูก การศัลยกรรมจมูกแบบปิดเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกไม่บางจนเกินไป ผู้ที่มีฐานจมูกสวยสมดุลอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการเพิ่มความโด่งของสันจมูกที่มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักนิยมใช้ซิลิโคนในการทำจมูก แต่ก็มีบางกรณีที่อาจจะต้องใช้เนื้อเยื่อบางส่วนเข้ามาเสริมเพื่อรองปลายจมูกด้วย  เช่น กระดูกหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือ เนื้อเยื่อเทียม เป็นต้น

ศัลยกรรม เสริมจมูก ทำจมูกผู้ชาย

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด

  • พักฟื้นน้อย ไม่เห็นแผลเป็นจากการผ่าตัด
  • เกิดการบวมช้ำน้อย เช็คทรงได้ง่ายหลังทำทันที
  • ใช้เวลาไม่นาน หากแพทย์มีความชำนาญ
  • โอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนน้อย 
  • ราคาถูกเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ

ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบปิด

  • หากโครงสร้างจมูกมีปัญหาที่ค่อนข้างมากการเสริมแบบปิดจะทำให้แก้ไขปัญหาได้โครงสร้างได้ไม่ตรงจุด
  • หากซิลิโคนที่ใส่ไม่พอดีกับเนื้อเยื่อจมูกก็มีโอกาสเกิดการทะลุ หรืออักเสบได้ ต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และต้องเลือกทรงจมูกที่ไม่ฝืนเนื้อเกินไป

จมูกที่เหมาะกับการเสริมด้วยเทคนิค Close

  • จมูกมีเนื้อช่วงสันดั้งเยอะ 
  • คนที่ทำจมูกครั้งแรก
  • มีปัญหาโครงสร้างน้อย

เทคนิคเสริมจมูกแบบเปิด (Open)

การทำจมูกแบบเปิดหรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่าทำจมูกโอเพ่น เป็นการผ่าตัดที่แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างข้างในจมูกได้ทั้งหมดเพราะจะทำการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก และเลาะเนื้อเยื่อขึ้นมาถึงบริเวณเหนือกระดูกอ่อนปลายจมูก ก่อนจะแยกเนื้อจมูกจากตรงกลางออกจากกัน ทำให้แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างภายในของจมูกได้ชัดเจน ไม่ว่าจะจมูกเบี้ยว ฮัมพ์สูง หรือพังผืดหนา ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าเทคนิคอื่น ๆ

-ทำจมูกผู้ชาย

ข้อดีของการเสริมจมูกโอเพ่น

  • สามารถมองเห็นโครงสร้างที่มีปัญหาได้ชัดเจน แก้ได้ตรงจุดมากขึ้น
  • เหมาะกับเคสแก้จมูกมากกว่า 1 ครั้ง 
  • ลดโอกาสการเกิดจมูกทะลุ หรือจมูกเบี้ยวเอียงหลังเสริม 
  • สามารถเลือกเสริมรูปทรงจมูกยาก ๆ ได้มากกว่าเทคนิคเสริมแบบปิด

ข้อเสียของการเสริมจมูกโอเพ่น

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน
  • ค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องผ่าตัดโดยการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญสูง
  • มีแผลผ่าตัดบริเวณฐานจมูก แต่สามารถจางหายได้
  • หากต้องการแก้จมูกที่เคยเสริมแบบโอเพ่นมา การแก้ครั้งต่อไปจำเป็นต้องเปิดแผลแบบโอเพ่น เพื่อให้เห็นโครงสร้างจมูกที่เคยผ่านการแก้ไขมาก่อน

จมูกที่เหมาะกับการเสริมด้วยเทคนิค Open

  • จมูกมีเนื้อจมูกน้อย
  • คนที่ต้องการแก้จมูก
  • มีปัญหาโครงสร้างทางจมูกที่แก้ไขได้ยาก

เทคนิคเสริมจมูกแบบเซมิโอเพ่น (Semi Open)

เทคนิคนี้จะเรียกว่าเป็นเทคนิค Close ก็ไม่ผิด เพราะมีการเปิดแผลด้านในรูจมูก แต่ต่างกันที่เทคนิค Close จะเปิดแผลเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง แต่เทคนิคเซมิโอเพ่นจะเปิดแผลด้านในจมูกทั้งซ้ายขวา ข้อดีคือมองเห็นโครงสร้างด้านในได้มากขึ้น (แต่ก็ไม่เท่าเทคนิคโอเพ่น) และทำให้ขั้นตอนการเสริมและจัดวางซิลิโคนจมูกนั้นเช็คสมดุลซ้ายขวาได้ง่ายกว่าเทคนิค Close ลดโอกาสจมูกเบี้ยวหลังเสริมได้ดี

ศัลยกรรม เสริมจมูก

ข้อดีของการเสริมจมูกเซมิโอเพ่น

  • ลดโอกาสการเกิดจมูกเบี้ยวเอียง
  • ไม่มีแผลเป็นภายนอก
  • สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกได้ดีในระดับนึง
  • เหมาะกับการเสริมร่วมกับเทคนิคเย็บอินเตอร์โดม

ข้อเสียของการเสริมจมูกเซมิโอเพ่น

  • ไม่เหมาะกับเคสที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกซับซ้อน
  • ไม่เหมาะกับเคสแก้หนัก ๆ เช่นการขูดสารเหลว หรือการยืดผนังจมูก

จมูกที่เหมาะกับการเสริมแบบ Semi Open

  • จมูกปลายแบน ต้องการยกปลายจมูก
  • คนที่ต้องการแก้จมูก หรือเสริมจมูกครั้งแรก
  • มีปัญหาโครงสร้างทางจมูกที่เทคนิค Close แก้ไขได้ยาก

ขั้นตอนการเสริมจมูก

การเตรียมพร้อมก่อนเสริม

เตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
  • สระผมมาก่อนให้เรียบร้อย เพราะหลังทำจมูกไปแล้วจะต้องระวังมาก ๆ ไม่ให้แผลโดนน้ำ 
  • สวมเสื้อมีกระดุมในวันผ่าตัด เพราะจะได้ง่ายต่อการถอด และไม่ทำให้แผลผ่าตัดได้รับการกระทบกระเทือน
  • งดสูบบุหรี่ก่อนการมาทำศัลยกรรมอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลหายช้า
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัวช้า
  • งดทานอาหารเสริม วิตามินต่าง ๆ ก่อนการทำศัลยกรรม
  • งดแต่งหน้า เนื่องจากเครื่องสำอางอาจจะตกค้างตามใบหน้าและจมูก ทำให้แผลเกิดการอักเสบได้
  • เตรียมเรฟทรงจมูกเพื่อปรึกษาทรงกับหมอก่อนผ่าตัด
  • หากผ่าตัดแบบใช้ยาสลบ งดน้ำและอาหารก่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • งดสวมใส่คอนแทคเลนส์ก่อนผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด

  • เมื่อพร้อมเสริมจมูก ผู้ช่วยแพทย์จะเช็ดทำความสะอาดใบหน้าด้วยยาฆ่าเชื้อ
  • จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณจมูกและโดยรอบ (สำหรับคนที่ผ่าโดยใช้ยาสลบ วิสัญญีแพทย์จะให้ยาสลบ)
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ แพทย์จะทำการเปิดแผลภายในรูจมูกเพื่อผ่าตัดตกแต่งโครงสร้างและวางวัสดุเสริมตรงบริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูก
  • หลังจากนั้นทำการเย็บปิดแผลผ่าตัด และใส่เฝือกดามจมูกไว้อย่างน้อย 7 วัน

การดูแลช่วงพักฟื้น

  • ห้ามนอนตะแคง เพราะจมูกอาจได้รับการกระทบกระเทือน ควรนอนด้วยการนำหมอนสูงมาหนุนศีรษะไว้ 2-3 ใบ
  • การล้างหน้า ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดบริเวณใบหน้าแทนการใช้น้ำล้างหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบ
  • งดแต่งหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะสารเคมีจากเครื่องสำอางอาจทำให้แผลเกิดการระคายเคืองได้
  • งดกิจกรรมที่เกิดแรงสั่นสะเทือนบนใบหน้า กิจกรรมที่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ เป็นเวลานาน และงดออกกำลังกาย
  • ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 7-14 วัน เพราะจะทำให้แผลหลังผ่าตัดหายช้า
  • ใน 3-5 วันแรก ให้ประคบเย็นไว้เพื่อลดอาการบวม และหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ให้เปลี่ยนมาประคบอุ่นแทน
  • งดทานอาหารรสจัด หรืออาหารแสลง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

ซิลิโคน

ซิลิโคนเสริมจมูก

ซิลิโคนจมูกมี 2 ชนิดหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในการเสริมจมูก คือ ซิลิโคนสำเร็จรูป และซิลิโคนแบบแท่ง โดยแบบสำเร็จจะมีการเหลาขึ้นรูปมาเรียบร้อยแล้ว อย่างที่เคยได้ยินชื่อกันว่า ซิลิโคนทรงแมนทิส , ซิลิโคนทรงบาร์บี้ หรืออื่น ๆ 

ส่วนซิลิโคนแบบแท่ง ลักษณะจะเป็นซิลิโคนก้อนรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ต้องนำมาเหลาขึ้นทรงเอง ซึ่งการเสริมด้วยซิลิโคนแท่งแบบเหลาใหม่ ข้อดีคือสามารถขึ้นรูปทรงใหม่ที่เข้ากับโครงสร้างจมูกได้ดี แต่แพทย์ก็ต้องชำนาญและมีประสบการณ์ เพื่อเหลาซิลิโคนออกมาได้สวยตรงตามเรฟที่ต้องการค่ะ

ส่วนวัสดุซิลิโคนนั้น จะเป็นเกรดทางการแพทย์ แต่การผลิตหรือนำเข้านั้นจะนิยมจากเกาหลี หรืออเมริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่เนื้อสัมผัสหรือความยืดหยุ่นแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบหรืองบประมาณที่กำหนดค่ะ

กระดูกอ่อน / เนื้อเยื่อ

การใช้กระดูกอ่อนแทนซิลิโคนเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่กระดูกอ่อนหลังหู , กระดูกอ่อนก้นกบ จนล่าสุดก็ใช้เป็นกระดูกอ่อนซี่โครง ข้อดีคือการเสริมด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนของตัวเองนั้นค่อนข้างปลอดภัย เพราะไม่ใช่วัสดุสังเคราะห์ แต่ข้อเสียคือจะต้องทำการผ่าตัด 2 จุดด้วยกัน จึงต้องดูแลแผลหลังเสริมทั้งจมูกและบริเวณที่ผ่าตัดนำเอากระดูกอ่อนมาใช้

สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ถ้าอยากเสริมจมูก หรือแก้จมูก ครั้งเดียวจบ

1. ทรงจมูกที่สวย ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคน

โครงสร้างใบหน้าแต่ละคนนั้นมีความต่างกัน ดังนั้นหาเรฟ ฯ มาสวยตรงใจ แต่ดันไม่เข้ากับใบหน้า สุดท้ายเสริมออกมาก็อาจจะไม่ถูกใจแบบที่คิด ซึ่งคำแนะนำในการหาเรฟนั้นนอกจากจะเลือกจากดาราที่ชอบแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่คนมักพลาดกัน คือ การหาเคสที่มีปัญหาจมูกก่อนเสริมใกล้เคียงกับเรา เช่น เรามีปัญหาปีกบาน ฮัมพ์สูง ก็ให้หาเรฟ ฯ ที่ใกล้เคียงกันดูก่อน จะได้มีภาพชัดขึ้น ว่าถ้าเสริมทรงแบบนี้ หน้าเราจะออกมาประมาณไหน

หรือใครที่ได้คลินิกในใจแล้ว ลองทักขอรีวิวเคสที่ใกล้เคียงกัน เพื่อจะได้เห็นภาพรีวิวแบบชัด ๆ ว่าถ้าเสริมออกมาแล้วทรงจมูกเราจะเป็นยังไงนั่นเองค่ะ

2. บางครั้งทำจมูกไม่ต้องโอเพ่นเสมอไป

เคยไหมคะ สอบถามข้อมูลทำจมูกที่ไหน ๆ ก็บอกว่าเราต้องเสริมโอเพ่นเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วบางทีโครงสร้างจมูกเราอาจจะไม่ต้องทำเทคนิคโอเพ่นเสมอไป เช่น การเสริมครั้งแรก หรือการแก้จากเคสเสริมจมูกแบบปิดมาก่อน ทั้งนี้แนะนำให้ลองปรึกษาคลินิกที่มีแพทย์ประจำด้านศัลยกรรม หรือแพทย์เฉพาะทาง เพราะการเสริมด้วยเทคนิคโอเพ่นนั้น หากมีปัญหาต้องการแก้หรืออยากเปลี่ยนทรงจมูกก็จะต้องแก้ด้วยเทคนิคโอเพ่นเท่านั้น ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินจำเป็นได้ ดังนั้นการหา Second Opinion จึงจำเป็นมาก สำหรับคนที่อยากเสริมจมูกจริง  ๆ

3. ทรงจมูกจะคงที่หลังเสริมประมาณ 1 ปี

หลังเสริมจมูกในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก จมูกจะมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ยุบบวมและซิลิโคนจะเริ่มรัดแกนจมูกเต็มที่ที่ 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งหลังจากซิลิโคนรัดแกนแล้ว ทรงจะไม่ค่อยเปลี่ยนมากนัก ดังนั้นแนะนำว่าการเสริมจมูกนั้นต้องใจเย็นและรอผลลัพธ์อย่างน้อย ๆ 6 เดือน – 1 ปี เพราะนอกจากจะได้เห็นทรงจมูกชัด ๆ แล้ว ยังได้พักก่อนแก้จมูกอีกด้วย (ในกรณีที่จมูกมีปัญหาหรือได้ทรงจมูกที่ไม่ถูกใจ)

ผลลัพธ์หลังเสริม
ผลลัพธ์หลังเสริมจมูก

4. จมูกกว้างไม่จำเป็นต้องตัดปีกอย่างเดียว

สำหรับคนที่มีปัญหาจมูกกว้าง หรือจมูกใหญ่ จริง ๆ แล้วปัญหาอาจจะมาจากการที่ปีกจมูกห้อย หรือปีกจมูกตก โดยสังเกตจากระยะฐานหรือรูจมูกหากมีขนาดเล็กหรือสมมาตรอยู่แล้วการตัดปีกจะทำให้รูจมูกแคบลงอีก ดังนั้นวิธีแก้ไขคือจะต้องเสริมแบบยืดปลายจมูกให้ยกขึ้น ทั้งนี้ แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินรูปทรงจมูกก่อน เพื่อจะได้วางแผนและออกแบบทรงจมูกก่อนผ่าตัด

5. ข้อจำกัดหลังเสริมจมูกที่ต้องระวัง

การทำศัลยกรรมนั้นมีข้อจำกัดมากกว่าที่คิด ทั้งก่อนและหลังศัลยกรรม รวมถึงการดูแลระยะยาวที่อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น

  • ก่อนเสริมจมูกต้องงดทานยา อาหารเสริม รวมถึงงดแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หลังเสริมจมูกต้องนอนยกหัวสูง งดนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง
  • งดทานอาหารแสลง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ หรืออาหารรสจัด
  • ประคบเย็นหลังจากผ่าตัดเรียบร้อย 48 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม จากนั้นประคบอุ่นเพื่อลดรอยช้ำ
  • หลังเสริมช่วง 1-2 สัปดาห์แรกที่แผลยังไม่แห้งให้งดล้างหน้า หรืองดให้แผลโดนน้ำจนเกิดความชื้น
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้จมูกได้รับความกระทบกระเทือน ทั้งการออกกำลังกายหนัก ๆ การกระโดด หรือต่อยมวย
  • หลังเสริมจมูกช่วงแรก งดสวมแว่นตาอย่างน้อย 4-6 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนอักเสบ หรือเคลื่อนผิดตำแหน่ง

เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาในการเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามชนิดของซิลิโคนที่เลือก (โปรโมชั่นมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด คลิ๊กลิงค์นี้เพื่อดู โปรโมชั่น All About Clinic ) นอกจากนี้เทคนิคที่เลือกใช้ในการศัลยกรรมจมูกก็จะราคาต่างกัน โดยราคาเสริมแบบปิด (เทคนิค Close) จะราคาต่ำสุด ถัดมาเป็นเทคนิค Semi Open ที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย และเทคนิค Open ที่ราคาจะสูงที่สุด เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ และในการผ่าตัดจะเป็นการผ่าแบบใช้ยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ค่ะ

  • เทคนิค Close เริ่มต้น 8,900 บาท
  • เทคนิค Semi Open เริ่มต้น 25,900 
  • เทคนิค Open เริ่มต้น เริ่มต้น 39,900

ความประทับใจจากผู้รับบริการ

คำถามที่พบบ่อย

ซิลิโคนจมูกไม่มีวันหมดอายุ สามารถอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ยกเว้นกรณีที่มีปัญหาหรืออยากได้ทรงจมูกใหม่ สามารถทำศัลยกรรมแก้จมูกใหม่ได้

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูกจะมีการใช้ยานอนหลับหรือการฉีดยาชา ซึ่งระหว่างที่ผ่าตัดนั้นคนไข้จะมีรู้สึกเจ็บแน่นอนค่ะ แต่หลังจากที่เสริมเสร็จกลับไปพักฟื้นอาจจะมีอาการช้ำ ระบม รู้สึกตึง ๆ บริเวณจมูก ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น

ถ้าฟันมีปัญหาค่อนข้างเยอะ จนถึงขนาดต้องผ่าตัดกราม ขอแนะนำว่าให้จัดฟันก่อนทำการศัลยกรรมจมูก เนื่องจากในการจัดฟันถ้าต้องทำการแก้ไขเยอะจะเป็นผลกับรูปหน้า ริมฝีปาก และคาง แต่ถ้าฟันไม่ได้มีปัญหาเยอะ ไม่จำเป็นต้องถอนหลายซี่ หรือดึงน้อย ก็สามารถศัลยกรรมจมูกก่อนได้

งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และอาหารทะเล เพื่อลดอาการบวม เขียวช้ำ ไม่ทำให้แผลอักเสบหรือหายช้า แต่หลังจากที่แผลหายดีแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติค่ะ

อายุที่เหมาะสมสำหรับการศัลยกรรมจมูก คือ อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่โครงสร้างกระดูกและรูปหน้าเติบโตคงที่แล้ว

หลังเสริมจมูกจะใช้เวลาพักฟื้นให้รอยช้ำต่าง ๆ จางหายไป ประมาณ 7-14 วัน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น โดยจมูกจะเริ่มเข้าที่ ดังนี้

  • 1 เดือน จมูกจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 70 %
  • 3 เดือน จมูกจะเข้าที่ประมาณ 90 %
  • 6 เดือน – 1 ปี จมูกจะเข้าที่เกือบ 100 % 

ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

การรองปลายจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานโครงสร้างจมูกเดิมของคนไข้ และอยู่ที่การประเมินของแพทย์ว่าควรรองปลาย หรือเสริมด้วยเทคนิคอะไร เพื่อลดความเสี่ยงจมูกทะลุในอนาคตค่ะ

หากเป็นสิวที่บริเวณจมูกหลังจากเสริมมาแล้ว ไม่ควรที่จะบีบ กดสิว หรือฉีดสิวเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้จมูกบาง หรืออาจจะทำให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบได้ ซึ่งขอแนะนำว่าให้ใช้ยาแต้มสิว หรือทานยารักษาสิวตามที่แพทย์สั่ง แต่หากยังไม่ดีขึ้น สิวไม่หายสักที ควรรีบกลับไปพบศัลยแพทย์ทันที

ปรึกษาคุณหมอ สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาคุณหมอ
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)