การปลูกผม คือ หัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้านประเภทหนึ่ง เป็นการรักษาโดยใช้หลักการย้ายเซลล์รากผมที่มีความแข็งแรงบนศีรษะของเรา ไปปลูกทดแทนยังบริเวณที่มีปัญหาผมบาง หรือศีรษะล้าน โดยในการรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้เห็นผลลัพธ์ถาวรในระยะยาว ผมที่นำมาปลูกใหม่จะไม่มีการหลุดร่วงซ้ำ และด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในปัจจุบัน เส้นผมที่นำมาปลูกใหม่นั้นสามารถเรียงเส้นสวยกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิมได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การปลูกผม (Hair Transplantation) คือการนำเซลล์รากผมหรือรากขนที่มีความแข็งแรงและไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ไปปลูกในจุดที่มีปัญหาศีรษะล้าน ผมบาง โดยวิธีการเจาะกราฟต์รากผมด้วยหัวเจาะขนาดเล็กไปปลูกศีรษะด้านหน้าที่ล้านบาง หรือบริเวณกลางศีรษะ เมื่อเตรียมกราฟต์ผมเรียบร้อยแล้วจะทำการเจาะเพื่อวางแนวผมจากนั้นใช้ Forceps (คีมปลูกผมขนาดเล็ก) คีบกราฟต์ผมลงไปปลูกทั่วบริเวณ หรืออีกวิธีคือใช้ Implanter Pen (ปากกาปลูกผม) ในการเจาะพร้อมกับปลูกในครั้งเดียว
สำหรับการปลูกผมมีเทคนิคที่พบความแตกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่ด้วยกัน 2 เทคนิคคือ FUT และ FUE ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีมานานหลายปี มีความปลอดภัย ผลลัพธ์สร้างความพึงพอใจสูง โดยการ ปลูกผม FUT จะเป็นการตัดหนังศีรษะออกมาจากบริเวณท้ายทอย เพื่อนำเอาเซลล์รากผมบริเวณนี้ที่มีความแข็งแรง ย้ายไปปลูกบริเวณที่มีปัญหาผมบาง ส่วนใหญ่มักเป็นด้านหน้า หน้าผาก หรือกลางศีรษะ ส่วนบริเวณด้านหลังที่ผ่าตัดไปนั้นมักจะใช้วิธีเย็บหนังศีรษะติดเข้าด้วยกัน ส่วนการปลูกผมแบบ FUE จะใช้วิธีนำเฉพาะรากผมที่ต้องการ มาปลูกบริเวณด้านหน้าทีละกราฟ ซึ่งเทคนิค FUE นี่เองที่เป็นเทคนิคตั้งต้นการปลูกผมแบบยุคใหม่ โดยใช้วิธีการเจาะรากผม ทำให้พักฟื้นได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากสองเทคนิคนี้ยังมีเทคนิคปลูกผมที่ได้รับความนิยมมากเช่นกันอีกก็คือ DHI ซึ่งเป็นเทคนิคที่ส่วนใหญ่เลือกใช้ในปัจจุบัน ซึ่งที่ AAC จะให้บริการปลูกผม 3 เทคนิคด้วยกัน คือ เทคนิค FUE, DHI และเทคนิค Lean ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ AAC พัฒนาและคิดค้นขึ้นโดย อาจารย์พอล ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางด้านการปลูกผม เทคนิค Lean จึงได้ออกแบบมาเพื่อทำให้โปรแกรมการปลูกผมนั้นมีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
การปลูกผมถาวรเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการ ปลูกผมถาวร ที่มีขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผม โดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเป็นยาวเหมือนวิธี FUT (Strip FUT) ซึ่งวิธีการคือ ใช้เครื่องมือพิเศษหัวเจาะ ที่มีหัวขนาด 1-1.2 มิลลิเมตร เจาะเอาเซลล์รากผมจากหนังศีรษะบริเวณด้านหลัง (ด้านหลังเป็นบริเวณที่เส้นผมแข็งแรง) มาปลูกถ่ายในบริเวณที่ผมบาง หรือไม่มีผม ซึ่งการปลูกผมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการบริการจากผู้ที่มีความชำนาญเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนทำให้รากผมเสียหายได้
ขั้นตอนการ ปลูกผม FUE ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดยาชา หรือให้คนไข้ทานยานอนหลับแบบอ่อน ๆ พร้อมทั้งฉีดยาห้ามเลือดที่ผสมในน้ำเกลือให้หนังศีรษะโป่งและพองตัวขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการใส่รากผมเข้าไป จากนั้นอาจารย์ถึงจะเริ่มทำการรักษาปลูกผมใหม่ด้วยเทคนิค FUE โดยทำการเจาะรู และนำเซลล์รากผมใส่ลงในรูที่เจาะเตรียมไว้จนครบบริเวณ ทั้งนี้ เทคนิคนี้จะให้ผลในเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และหลังจากปลูกผมเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลยค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ปลูกผม FUE คืออะไร ? รวม 8 ข้อควรรู้ก่อนปลูกผมแบบ FUE
ข้อดี
ข้อเสีย
การปลูกผมแบบ DHI จริง ๆ แล้วก็คือวิธีปลูกผมแบบเดียวกับ FUE ที่ใช้เทคนิคในการปลูกผมแบบที่ใช้การเจาะกราฟผมออกมาทีละกราฟ ซึ่งวิธีการนี้จะต่างจากการปลูกผมแบบ FUT ที่ใช้วิธีตัดหนังศีรษะออกมาเป็นทางยาว และนำมาตัดแต่งทีละกราฟ ซึ่งการปลูกผมแบบ DHI นี้จะใช้วิธีการที่เหมือนกับ FUE (จะเรียกว่าเป็นเทคนิคเดียวกันก็ได้) แต่การใช้เครื่องมือจะแตกต่างกัน คือ DHI จะใช้เครื่องมือ DHI Implanter ในการปลูก ส่วน FUE จะใช้เครื่องมือ Forceps ในการปลูกค่ะ ซึ่งเครื่องมือที่ต่างกันนี้ทำให้วิธีการปลูกผม และผลลัพธ์หลังปลูกที่ควบคุมทิศทางการเกิดของเส้นผมได้แม่นยำกว่าการปลูกผม FUE
อ่านบทความเพิ่มเติม : เจาะลึกปลูกผม DHI รีวิวผลลัพธ์ วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย ก่อนและหลังปลูก
สำหรับการ ปลูกผมเทคนิค LEAN เป็นเทคนิคที่ต่อยอดมาจาก DHI แต่เพิ่มเติมขั้นตอนการตัดแต่งเนื้อเยื่อกราฟผมที่พิถีพิถัน เพื่อให้ได้กราฟที่คงคุณภาพ และมีเนื้อเยื่อไขมันหลงเหลืออยู่น้อยที่สุด เมื่อนำไปปลูกแล้วจะได้กราฟผมที่แน่นและชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงยังเป็นเทคนิคที่ช่วยลดระยะเวลาในการปลูกผม มีแผลขนาดเล็กดูแลง่าย เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยสะดวกพักฟื้นหลายวัน
@allaboutclinicthailand หวีผมให้ดูกันเลยว่า ธรรมชาติมาก ๆ และสุขภาพรากผมแข็งแรง :)) #ปลูกผมกับหมอพอล #Hairtransplant #ปลูกผม #ปลูกผมถาวร #ปลูกผมที่ไหนดี #คลินิกปลูกผม #ปลูกผมหมอพอล #หมอพอลAAC #ปลูกผมขอนแก่น #ปลูกผมอุดร #ปลูกผมกทม #ปลูกผมโคราช #ปลูกผมกับหมอพอลบอกต่อtiktok #เทคนิคดีบอกต่อ ♬ Milk Tea - Official Sound Studio
การปลูกผมในกลุ่มคนไข้ผู้หญิงนั้น จะมีวิธีการและเทคนิคในการปลูกผมที่ไม่ต่างจากผู้ชายแต่ในขั้นตอนการลงกราฟผมจะต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ให้ทิศทางเส้นผมดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนกับแนวเส้นผม และไรผมด้านหน้า เพราะผู้หญิงจะมีการจัดตกแต่งทรงผมที่บ่อยกว่าผู้ชาย ดังนั้นความต่างระหว่างการปลูกผมของผู้ชายและผู้หญิง คือผู้หญิงจะใช้เวลาในการปลูกนานกว่าเล็กน้อย ซึ่งเทคนิคในการปลูกผมก็สามารถเลือกปลูกได้ตั้งแต่เทคนิค FUE, DHI และเทคนิค Lean ค่ะ
สำหรับวิธีปลูกผม ก่อนอื่นต้องมีการออกแบบแนวผมก่อนเป็นอันดับแรก โดยขั้นตอนนี้ อาจารย์จะเป็นคนประเมินถึงแนวผมที่เหมาะสมกับคนไข้ และคำนวณปริมาณกราฟผมที่จะใช้ปลูก ก่อนจะเริ่มวาดแนวผมบริเวณหน้าผาก จากนั้นเริ่มเตรียมศีรษะให้พร้อมโดยการโกนผมบริเวณด้านหลังศีรษะเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการปลูกดังต่อไปนี้
2. ขั้นตอนการเก็บกราฟต์ผม อาจารย์จะใช้หัวเจาะที่มีขนาดเล็กดึงเซลล์รากผมออกมาโดยที่่เน้นการเก็บกราฟต์แบบกระจายเพื่อให้เส้นผมด้านหลังดูไม่บางลงมากเมื่อผมยาวขึ้น
3. เมื่อเก็บกราฟต์ผมเสร็จแล้ว จะนำกราฟต์ผมที่ได้มาแช่น้ำยาเพื่อรักษาคุณภาพของกราฟต์ และทำการตัดแต่งเนื้อเยื่อไขมันออก ในขั้นตอนนี้คนไข้จะได้พักเบรคเพื่อเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการปลูกผมต่อไป
4. ทำการคัดเลือกราฟต์ผมที่สมบูรณ์มาปลูกยังบริเวณที่ได้ทำการออกแบบแนวผมใหม่ไว้ อุปกรณ์ที่ใช้ปลูกจะต่างกันขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือก โดยเทคนิค FUE จะใช้อุปกรณ์ Forceps ในการปลูกส่วน DHI จะใช้อุปกรณ์ Implanter ในการปลูกและกำหนดทิศทางเส้นผม
สำหรับการเตรียมตัวก่อนปลูกผมนั้น จะเริ่มตั้งแต่การปรึกษาตรวจสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อประเมินความพร้อมก่อนปลูกผม หากรากผมมีภาวะอ่อนแอก็จะต้องมีการบำรุงรากผมหรือทำการรักษาจนกว่ารากผมจะแข็งแรงและพร้อมสำหรับการปลูกผมต่อไป เมื่อเส้นผมและหนังศีรษะพร้อมแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนปลูกผม
บทความแนะนำ : 6 วิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนปลูกผม พร้อมวิธีดูแลฉบับผมหนา ดกดำ
ทั้งนี้ความสำคัญของการเตรียมตัวก่อนปลูกผม รวมไปถึงการดูแลหลังปลูกนั้นถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เส้นผมที่ปลูกใหม่นั้นแข็งแรงและเติบโตได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนตั้งข้อสงสัยไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะการจะเลือกอะไรซักอย่างให้ตัวเองนั้น เราต้องคำนึงถึงผลลัพธ์และความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องเสียไปด้วย ในการปลูกผมหนึ่งครั้ง ราคาที่ต้องจ่ายไปนั้นขึ้นอยู่กับค่าอะไรบ้าง ลองมาทำความเข้าใจกัน
โดยที่ All About Clinic ราคาปลูกผมจะเริ่มต้นดังนี้
อ่านบทความล่าสุด
รับสิทธิ์ส่วนลด 60% ทุกบริการ
รับสิทธิพิเศษ ลดสูงสุด 60%
หรือ เลือกรับบริการฟรี 1 รายการ
เลเซอร์ขน | เลเซอร์หน้าใส
| เลเซอร์ลดผมร่วง | ทรีทเม้นต์หน้าใส
เฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนเท่านั้น
กว่าจะเห็นผลลัพธ์การรีวิวปลูกผม ต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือนหรืออาจเป็นปี โดยจะเห็นได้เต็มที่ในช่วง 1 ปี – 1 ปีครึ่ง เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่จะมีความแข็งแรง เริ่มกลมกลืนไปกับแนวผมเดิมอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนประสิทธิภาพของผลลัพธ์จะสร้างความพึงพอใจมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของกราฟผมของคนไข้เอง เทคนิคที่ใช้ปลูก ฝีมือของทีมปลูกผม และการดูแลตัวเองของคนไข้ โดยหลังการปลูกผมคนไข้ควรดูแลกราฟผมตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ในปัจจุบันการใช้ ยาแก้ผมร่วง ในไทย มีตัวยาสองชนิดที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยในการใช้ยา โดยมีทั้งยาชนิดทาน และยาชนิดทาบริเวณที่ ผมร่วงเยอะมาก ได้แก่ ยา Finasteride และยา Minoxidil โดยยาแต่ละตัวจะมีการออกฤทธิ์ดังนี้
ซึ่งในการใช้ยาเพื่อแก้ผมร่วงนั้น จะเป็นการช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยบำรุง กระตุ้นการงอกของเส้นผมได้ แต่ไม่สามารถช่วยหยุดปัญหาศีรษะล้านได้อย่างถาวร หากมีการหยุดใช้ยาก็อาจจะทำให้ปัญหาผมร่วงกลับมาอีกครั้ง ต่างจากการปลูกผมถาวร ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาศีรษะล้านได้ทันที
ตอบคำถามที่ว่า ปลูกผมที่ไหนดี ที่ ALL ABOUT CLINIC ถือเป็นคลินิกปลูกผมที่ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยจากสหรัฐอเมริกา ด้วยเทคนิค FUE, DHI และเทคนิคใหม่ LEAN ซึ่งเป็นเทคนิคปลูกผมที่ทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กลง ไม่ต้องพักฟื้นและยังใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพซึ่งสามารถควบคุมทิศทางของรากผมได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ผมที่เกิดขึ้นใหม่นั้นกลมกลืนไปกับผมของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับท่านที่สนใจปลูกผมที่ All About Clinic กับอาจารย์พอลพอล เราก็มีคลินิกบริการรองรับหลายสาขา ไม่ว่าเข้าใช้บริการที่สาขาใด ในการปลูกผมอาจารย์พอลพอลก็จะดูแลทุกเคส เพื่อให้มั่นใจว่าปลูกผมครั้งเดียวจบ ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
All About Clinic สาขาขอนแก่น ให้บริการปลูกผม ศัลยกรรม และการดูแลรูปหน้าผิวพรรณครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น เสริมจมูก ขอนแก่น, ฉีดโบท็อก ,ฟิลเลอร์ หรือบริการหมวดอื่น ๆ อย่างการรักษาเล็บขบ ที่เน้นการรักษาในครั้งเดียวจบ ไม่กลับมาเป็นซ้ำ โดยที่ตั้งสาขาอยู่เยื้องกับหมู่บ้านบุศรินทร์ ก่อนถึงวงเวียนบึงหนองโคตร
ส่วนสาขาอุดร ตั้งอยู่ที่หัวมุมแยกสี่ศรัทธา ห่างจากตึกคอมอุดรธานี 300 เมตร บริการต่าง ๆ ที่สาขาอุดรธานีก็มีทั้ง ปลูกผม, เสริมจมูก อุดร, ทำตาสองชั้น, เสริมคาง และบริการดูแลผิวพรรณต่าง ๆ
สาขาพระโขนง เปิดให้บริการทุกวัน ที่ตั้งอยู่ใกล้ BTS พระโขนง ทางออกที่ 1 มีบริการปลูกผม , ทำจมูก , ฉีดฟิลเลอร์, ฉีดแฟต และบริการคลินิกเสริมความงามแบบครบครัน ด้วยทีมมากประสบการณ์
คลินิกปลูกผมสาขาโคราชตั้งอยู่ติดถนนมิตรภาพ ห่างจาก The Mall Korat ประมาณ 1 กิโลเมตร มีบริการปลูกผม รักษาผมร่วงบาง ศัลยกรรม รวมถึงบริการดูแลผิวพรรณปรับรูปหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของการติดเชื้อ HIV ยังคงสามารถรับการปลูกผมได้ตามปกติ แต่จะต้องมีการเตรียมตัวและมีขั้นตอนการผ่าตัดปลูกผมที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยทางแพทย์จะขอทราบผลเลือด 2 ตัวสำคัญ คือ ระดับของเชื้อไวรัสในร่างกาย หรือที่เรียกว่า Viral Load ซึ่งจะหมายถึง จำนวนไวรัส HIV ในกระแสเลือด หากมีจำนวนค่าตัวนี้ต่ำที่สุดจะยิ่งดี โดยควรมีค่าเป็น Undetectable หรือก็คือน้อยกว่า 20 ตัวต่อเลือด 1 CC
และค่าระดับเม็ดเลือดขาว CD4 ซึ่งเป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยค่าปกติอยู่ที่ประมาณ 500–1,500 ต่อเลือด 1 CC โดยหากมีค่า CD4 น้อยกว่า 200 ก็จะถือว่าเป็น Aids zone ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้ง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง
ดังนั้น หากคนไข้มีค่าระดับของทั้ง 2 ตัวนี้อยู่ในระดับที่ดี หรือได้รับการรักษาจนอาการคงที่ และเชื้ออยู่ในระยะที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้แล้วก็สามารถทำการปลูกผมได้ตามปกติค่ะ
ผู้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น ทั้งแผลเป็นที่มีมาตั้งแต่เกิด แผลเป็นจากอุบัติเหตุ หรือจากการผ่าตัด สามารถทำการปลูกผมได้ แต่จะมีข้อจำกัด คือ เนื้อเยื่อบริเวณแผลเป็นจะมีลักษณะที่ค่อนข้างแข็ง ไม่ยืดหยุ่นเหมือนผิวหนังบริเวณอื่น ๆ และเป็นบริเวณที่มีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงรากผมน้อยกว่าปกติ หากทำการปลูกผมทับรอยแผลเป็นนี้ ผลลัพธ์ของอัตราการขึ้นของเส้นผมหลังปลูกก็อาจจะไม่เต็มร้อยหรืออาจมีผมขึ้นแค่ครึ่งเดียวถ้าเทียบกับการปลูกผมบริเวณปกติ ทั้งนี้ ไม่ใช่รอยแผลเป็นทุกรอยจะสามารถปลูกผมได้ คนไข้จะต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ก่อนทุกครั้งว่าสามารถปลูกผมได้
การปลูกผมเป็นหัตถการที่ถือว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ซึ่งจะมีความปลอดภัยสูงและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมาก โดยอาจจะมีอาการบวมบริเวณหน้าผากจนถึงตา และมีสิวเกิดขึ้นในบริเวณที่ปลูกผมหรือบริเวณท้ายทอย แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองจนเป็นปกติ ทั้งนี้ หากคนไข้เข้ารับการผ่าตัดรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง จะช่วยทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมากนั่นเอง
การรักษาผมบาง ศีรษะล้าน ด้วยการปลูกผมถาวรไม่ส่งผลกระทบ หรือเกี่ยวข้องใด ๆ กับบริเวณสมอง และอวัยวะภายในของคนไข้ เพราะการปลูกผมเป็นการผ่าตัดในบริเวณชั้นผิวหนังเท่านั้น
การทำสีผมหลังจากปลูกผมมาแล้ว คนไข้สามารถทำสีได้ตามปกติ โดยควรทำหลังจากปลูกผมมาแล้ว ประมาณ 1-3 เดือน เพื่อให้แผลหลังการผ่าตัดปลูกผมปิดสนิทดีแล้ว รวมทั้งการลงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ บนหนังศีรษะ ทั้งการทำสีผม กัดสีผม ดัดผม หรือการทำ Treatment ต่าง ๆ ก็ควรทำหลังจากที่มั่นใจว่าแผลทุกแผลปิดสนิท จากนั้นผู้ที่ปลูกก็จะสามารถทำอะไรกับเส้นผมได้ตามปกติเหมือนเดิมค่ะ
หรือหากคนไข้ท่านใดที่ต้องการย้อมผมหรือทำสีผมก่อน สามารถทำล่วงหน้ามาก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 14 วัน แต่ไม่ควรปล่อยให้หนังศีรษะมีอาการอักเสบ หากมีอาการอักเสบจะต้องทำการรักษาให้หายก่อนถึงจะสามารถทำการผ่าตัดปลูกผมได้
ตัวกำหนดสำหรับจำนวนครั้งที่สามารถปลูกผมได้ คือ ปริมาณของเส้นผมด้านหลังที่จะสามารถนำรากผมออกมาสำหรับการปลูกในครั้งต่อ ๆ ไปได้หรือไม่ โดยที่จะไม่ทำให้บริเวณผมด้านหลังดูบางลง ซึ่งจำนวนกราฟผมนี้ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ทั้งนี้ แพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกผมให้จบภายใน 1-2 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากการปลูกผมแต่ละครั้งใช้ระยะเวลานาน รวมถึงหนังศีรษะอาจจะอ่อนแอลง เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีเหมือนหนังศีรษะปกติ และผมอาจจะงอกได้ไม่ดีเท่ารอบแรก
ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบชนิด A B และ C สามารถปลูกผมได้ตามปกติ โดยไวรัสตับอักเสบชนิด A จะเป็นโรคของทางเดินอาหารที่สามารถหายได้เอง แทบจะไม่เป็นอันตรายอะไรและไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป หลังจากที่รักษาหายแล้วก็สามารถเข้ารับการปลูกผมได้ แต่ในส่วนของไวรัสตับอักเสบชนิด B และ C เป็นโรคที่อยู่ในกระแสเลือด มีโอกาสที่จะได้รับการกินยาต้านจากแพทย์เจ้าของไข้ ถึงแม้การทานยาต้านไวรัสนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด หรือการที่จะทำให้เมื่อมีเลือดออกแล้วหยุดยาก แต่ก็ควรจะทำการปรึกษากับแพทย์เจ้าของไข้ก่อนว่ามีข้อจำกัดด้านใดบ้างหรือไม่ หากมีอาการอยู่ในระดับคงที่ ไม่มีโรคแทรกซ้อน หรือไม่ได้รับยาชนิดอื่นเพื่อรักษาเพิ่มเติม ก็จะสามารถทำการปลูกผมได้ตามปกติเช่นกันค่ะ
โดยปกติทั่วไปหลังจากทำการปลูกผมเสร็จทันทีจะไม่มีอาการปวด เนื่องจากอาจจะยังมีฤทธิ์ของยาชาคงเหลืออยู่ แต่เมื่อยาชาหมดฤทธิ์คนไข้อาจจะมีอาการปวดบริเวณแผลเล็กน้อย แต่อาการปวดเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงและหายไป ประมาณ 2-3 วัน และจะมีอาการตึง ๆ บริเวณแผลด้านหลังเข้ามาแทน แต่อาการทั้งหมดนี้ก็จะหายเป็นปกติอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน และหากคนไข้มีอาการปวดสามารถบรรเทาได้ด้วยการทานยาแก้ปวดค่ะ