ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ทางด้านสุขภาพร่างกายแต่อย่างไร แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสวยงาม ความมั่นใจ บุคลิกภาพภายนอกได้นั่นเอง ซึ่งหากท่านมีผมสวย ผมหนา ดกดำ ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดี และมีความมั่นใจเต็มร้อยมากขึ้น การ ปลูกผม จึงเป็นหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้อย่างถาวร เพื่อให้ท่านมีผมสวยดกดำดูธรรมชาติ โดยปัจจุบันเทคนิคที่นิยมใช้ปลูกผมด้วยการผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมจะมีหลัก ๆ ด้วยกัน 2 เทคนิคคือ ปลูกผม FUT และ FUE ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีมานานหลายปี พร้อมให้ผลลัพธ์ที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้มีปัญหาด้านเส้นผม และวันนี้เราจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับการปลูกผมเทคนิคมาตรฐาน FUT ว่าคืออะไร ดีไหม แล้วแตกต่างจากการปลูกผมเทคนิค FUE อย่างไร เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกปลูกผมของท่านได้ในอนาคต
การปลูกผมเทคนิค FUT (Follicular Unit Hair Transplant) คือ การปลูกผมถาวรที่เป็นเทคนิคมาตรฐานที่ยังใช้สากลกันอยู่ทั่วโลก โดยเทคนิคนี้ จะมีการตัดเอาหนังศีรษะออกจากบริเวณท้ายทอยและขมับทั้งสองข้าง หรือบริเวณ Donor Area (บริเวณที่รากผมไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน) ซึ่งจะตัดในลักษณะเป็นทางยาว หลังจากนั้นจะนำเอาหนังศีรษะมาตัดแต่งให้ได้กราฟผม ทั้งนี้ การปลูกผมแบบผ่าตัดนั้นจะเป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องใช้ยาสลบ จะใช้เพียงแต่การฉีดยาชาเฉพาะบริเวณที่ทำการปลูกย้ายเซลล์รากผมเท่านั้น โดยระยะเวลาในการผ่าตัดก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนรากผมที่หลุดร่วงไปแต่ละบุคคลนั่นเอง ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้มีแผลเป็นยาวด้านหลัง แต่ก็จะช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ได้ในระยะยาว
กราฟ หรือ GRAFT เป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกสำหรับการปลูกผม โดยหมายถึง เนื้อเยื่อเส้นผม หรือกอผมที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงที่จะถูกดึงออกมาใช้ในการปลูกผมบริเวณที่ไม่มี เส้นผม ซึ่งใน 1 กราฟนั้น อาจจะมีเส้นผม 1, 2, 3 หรือแม้แต่ 4 เส้นก็ได้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละคน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเจอกอผม 2 เส้น สำหรับการปลูกผมนั้น จำนวนกราฟที่ต้องใช้ในการปลูกผมจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนด้วย โดยกราฟผมที่ได้มาจะถูกนำไปเตรียมและคัดแยกตามจำนวนเส้นผมที่มีในแต่ละกราฟก่อนนำไปปลูกยังบริเวณที่ต้องการนั่นเอง
การปลูกผมเทคนิค FUT จะมีประสิทธิภาพสูง ได้กราฟผมที่มีความแข็งแรง รากผมเสียหายน้อย และได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนกว่าการปลูกผมถาวรเทคนิคอื่น ๆ
การปลูกผมแบบ FUT และแบบ FUE เป็นการปลูกผมถาวรโดยการย้ายรากผมเหมือนกันก็จริง แต่ทั้งสองเทคนิคนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย โดยปลูกผมแบบ FUT เป็นการปลูกผมแบบแผลตัดเย็บ ส่วนปลูกผม FUE จะเป็นการปลูกผมแบบเจาะ
สำหรับการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ จะทำการผ่าตัดโดยการย้ายเซลล์รากผมออกมา ซึ่งจะทำด้วยการตัดเอาผิวหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นแถบยาว จากนั้นจึงจะนำผิวหนังที่ตัดออกมาไปแยกรากผมออกโดยใช้กล้องจุลทรรศน์
ในส่วนของการปลูกผมเทคนิค FUE นี้ จะเป็นเทคนิคที่มีความทันสมัยมากกว่าแบบ FUT โดยจะทำการย้ายเซลล์รากผมออกมาด้วยการใช้ด้วยเครื่องมือไฟฟ้า (Motorized FUE Devices) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หัวเจาะขนาดเล็กนั่นเอง โดยจะนำมาเจาะกราฟผมออกทีละกราฟ ก่อนจะนำไปปลูกตามบริเวณที่ต้องการ ซึ่งปลูกผมเทคนิค FUE จะมีข้อดีคือ แผลจะมีความบวมช้ำเล็กน้อย แผลขนาดเล็กสังเกตได้ยาก เนื่องจากบริเวณเจาะที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ ขนาดไม่ถึง 1 มิลลิเมตร และปลูกผมด้วยเทคนิคนี้จะใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? กับการปลูกผมแบบเทคนิค FUT ว่ามีข้อดีและข้อแตกต่างอย่างไรกับการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งหากท่านกำลังลังเลว่าจะปลูกผมแบบไหนดี หรือต้องการคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม ท่านสามารถเข้ามาปรึกษาที่ All About Clinic ซึ่งมีบริการปลูกผมที่เป็นที่นิยมทั้งเทคนิค ปลูกผม FUE , DHI และเทคนิคพิเศษเฉพาะของทางคลินิกอย่าง ปลูกผม LEAN ที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องของเส้นผม ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และดูสวยงามเป็นธรรมชาติ