ปลูกหนวด ปลูกเครา

ปลูกหนวด ถาวร ดีไหม ? หลังปลูกขนขึ้นอย่างไร รวมข้อควรรู้ก่อนปลูก

ปัจจุบันความนิยมในการไว้หนวด เครา และจอน มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยผู้ชายหลาย ๆ ท่านต้องการที่จะอยากมีหนวดเครา เพื่อช่วยเพิ่มเสน่ห์บนใบหน้า เสริมลุคให้ดูดี ให้มีความแมน เท่ ดูคมเข้ม มีความดุดันน่าเกรงขาม น่านับถือ และดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีหนวดบาง หนวดแหว่ง เนื่องจากลักษณะของขนบนใบหน้าจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ด้วยสาเหตุจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชายที่ต่างกันนั่นเอง จึงได้มีนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการ ปลูกหนวด ปลูกเคราถาวรขึ้นมา

ทั้งนี้ การปลูกหนวด เครา จอน จะมีหลักการในการปลูกเดียวกันกับ การปลูกผม โดยการย้ายรากผมจากบริเวณด้านหลังในตำแหน่งที่แข็งแรงมาปลูกบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้คุณผู้ชายมีหนวดเคราที่ดกดำดูหนาอย่างเป็นธรรมชาติและอยู่อย่างถาวรได้

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

ปลูกหนวดถาวร คืออะไร ?

ปลูกหนวด คือ วิธีการเพิ่มปริมาณเส้นขนแบบธรรมชาติ ซึ่งจะมีเทคนิคการทำที่เหมือนกันกับการปลูกผมถาวร แต่จะเป็นการปลูกบริเวณใบหน้าเหนือริมฝีปาก โดยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยบนศีรษะ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความแข็งแรงของเซลล์รากผมมากที่สุด แล้วย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการจะปลูกหนวดหรือเครา และผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้มีขนเพิ่มขึ้นในจุดที่ทำการปลูกใหม่ ไม่หลุดร่วง แข็งแรง และสามารถตัดแต่งได้เหมือนขนจริงหรือขนปกติทั่วไป

ทั้งนี้ การเลือกขนาดของเส้นขนที่จะนำมาปลูก อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยต้องเลือกเส้นผมให้มีขนาดใกล้เคียงกับเส้นขนบริเวณที่ปลูกมากที่สุด รวมถึงจำนวนของเส้นผมที่ใช้จะน้อยกว่า เนื่องจากพื้นที่สำหรับการปลูกหนวดถาวรจะน้อยกว่าการปลูกผมนั่นเอง

หลังปลูกหนวด เครา จอน เห็นผลเมื่อไหร่

ระยะเวลาหลังจากที่ทำการปลูกหนวดถาวร ปลูกเครา ปลูกจอนไปแล้ว จะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้

  1. ช่วงระยะเวลา 2-5 วันแรก อาจจะยังมีอาการบวมแดงเล็กน้อย แต่จะเริ่มค่อย ๆ ดีขึ้น และแผลจะเริ่มตกสะเก็ด 
  2. ช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ อาการบวมจะเริ่มหายดี สะเก็ดแผลจะเริ่มร่วงหมด
  3. ช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ เซลล์ผมที่ปลูกไปจะเริ่มติดและเริ่มงอกขึ้นมาให้เห็น โดยมีความยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร และสามารถเริ่มตัดแต่งทรงหนวดได้ 
  4. ช่วงระยะเวลา 1-2 เดือน เส้นขนที่ปลูกไปแล้วจะเริ่มร่วง ซึ่งจะเรียกว่าช่วง shock loss เช่นเดียวกับอาการหลังปลูกผม 
  5. ช่วงระยะเวลา 3-4 เดือน ขนหนวดที่ร่วงไปแล้วจะเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ แต่อาจจะยังมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ
  6. ช่วงระยะเวลา 5 เดือนขึ้นไป ขนที่ปลูกจะเริ่มยาวและแข็งแรงมากขึ้นกว่าช่วงขนขึ้นแรก ๆ และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  7. ช่วงระยะเวลา 1-1.5 ปีเป็นต้นไป จะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะเห็นเป็นทรงหนวดที่ได้ปลูกไป และสามารถตัดแต่งให้เป็นทรงที่ต้องการได้
รีวิวปลูกหนวด เครา

ผู้หญิงปลูกหนวดได้ไหม

สำหรับผู้หญิงสามารถปลูกหนวดได้เช่นกัน ซึ่งจะนิยมในผู้ที่ต้องการเป็นผู้ชายข้ามเพศ เพื่อทำให้ใบหน้าดูคมเข้ม น่าเกรงขามมากขึ้น แต่สำหรับผู้หญิงสายหวานหรือผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจในการปลูกจอนมากกว่า เนื่องจากการปลูกจอนถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูดีและดูเรียวมากขึ้น โดยการปลูกจอนในผู้หญิงจะทำการปลูกบางกว่าผู้ชาย เพื่อไม่ให้ใบหน้าดูแข็งเกินไป และหลังปลูกมาแล้วผู้หญิงก็สามารถปล่อยให้จอนยาวงอกมาเหมือนผมยาวปกติได้เลย ซึ่งจะช่วยให้รูปหน้าดูเล็กลงและกรอบหน้าชัดยิ่งขึ้น

ปลูกหนวดถาวร ราคาเท่าไหร่

ราคาปลูกหนวด ปลูกเครา ปลูกจอน ที่ All About Clinic (AAC) ราคาเริ่มต้นที่ 39,000 บาท โดยที่ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น พื้นที่ที่ต้องการปลูก รูปทรงของหนวดใหม่ จำนวนกราฟที่ใช้ในการปลูก เทคนิคที่เลือกใช้ และความชำนาญของแพทย์ อีกทั้งยังรวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ของแต่ละคลินิกด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ AAC ของเราจะมีการจัดโปรโมชั่นประจำเดือนสำหรับหัตถการต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นของเราได้ที่ : โปรโมชั่น All About Clinic 

ปลูกเคราถาวร มีประโยชน์อย่างไร ?

การปลูกเคราจะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเช่นเดียวกับการปลูกหนวด ซึ่งความแตกต่างของเครา (Beard) คือ จะเป็นขนที่เกิดขึ้นบริเวณคางหรือกราม แต่หนวด (Mustache) จะเป็นขนที่ขึ้นบริเวณเหนือริมฝีปาก ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้จะเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยการปลูกเคราจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้โครงสร้างเคราเดิม หรือเป็นการสร้างแนวเคราขึ้นมาใหม่ ทำให้บริเวณกรอบหน้าและใต้คางมีเคราหนามากขึ้น เพื่อเพิ่มความคมเข้มให้กับใบหน้า หรือปลุกความเป็นผู้ชายมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเคราบาง ๆ หรือผู้ที่ต้องการปลูกเคราเพื่อปิดรอยแผลเป็นบริเวณใบหน้าได้ และส่วนใหญ่ผู้ที่ต้องการปรับบุคลิกภาพให้ดูน่าเชื่อถือและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมักจะทำการผ่าตัดปลูกหนวดและปลูกเคราควบคู่ไปพร้อมกัน

ปลูกจอนถาวร ปรับโหวงเฮ้งให้ใบหน้าอย่างไร ?

จอน เป็นเส้นผมส่วนที่อยู่ข้างหูติดกับแก้มระลงมาต่อเนื่องไปถึงเครา ซึ่งการปลูกจอนถาวรเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่หนุ่ม ๆ ให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยทำให้ใบหน้าผู้ชายหล่อเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกรอบหน้าได้รูปมากขึ้น นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงก็มีความสนใจในการปลูกจอนเช่นเดียวกัน เพราะการมีจอนที่ยาวลงมาข้างหูจะช่วยปรับโหวงเฮ้งให้ใบหน้าดูเรียวสวย แต่การปลูกจอนในผู้หญิงจะนิยมปลูกบางกว่าผู้ชาย เพื่อไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งมากจนเกินไป รวมถึงนิยมปลูกรวมกับการปลูกผมบริเวณตามแนวไรผมเดิมที่ถอยร่นขึ้นไปด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างกรอบหน้าให้ดูเล็กลงและมีมิติมากขึ้น

นอกจากนี้ การปลูกจอนให้เหมาะสมกับรูปหน้าจะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบทั้งโครงกระดูกโหนกแก้ม รูปทรงของใบหน้า และสัดส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าด้วย ซึ่งการปลูกจอนจะสามารถอยู่ได้ถาวรและเส้นขนจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ คุณผู้ชายสามารถเล็มเส้นผมบริเวณจอนให้สั้นและเป็นทรงตามที่ต้องการได้ และสำหรับคุณผู้หญิงสามารถปล่อยให้เส้นผมที่ปลูกไปยาวออกมาปกติเหมือนเส้นผมทั่วไปได้ 

ข้อดีและข้อจำกัดของการปลูกหนวด เครา จอน

ข้อดี

  • ผลลัพธ์หลังปลูกเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่จะเหมือนเส้นขนจริงที่ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
  • เห็นผลรวดเร็ว โดยจะเห็นผลหลังปลูกทันทีหลังทำ
  • ใช้เวลาในการปลูกไม่นาน และใช้เวลาพักฟื้นสั้น ไม่นานก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • เจ็บน้อย เนื่องจากมีการใช้ยาชา มีแผลเป็นขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องตัดไหม
  • สามารถปลูกในบริเวณที่ขนไม่สามารถขึ้นเองได้ หรืออาจไม่สามารถขึ้นได้ด้วยการใช้ยาและเซรั่มปลูกหนวด เช่น บริเวณแผลเป็น
  • เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง
  • สามารถออกแบบรูปทรงของการปลูกหนวด เครา จอนตามความต้องการของผู้ปลูกเองได้ หรือให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยออกแบบรูปทรงให้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนไข้ได้

ข้อจำกัด

  • มีความเสี่ยงที่แผลจะเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้เหมือนกับการผ่าตัดประเภทอื่น ๆ
  • การปลูกหนวดเคราเป็นการผ่าตัดบริเวณปาก ซึ่งตำแหน่งนี้จะเป็นแหล่งที่รวมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย จึงมีความเสี่ยงกว่าการปลูกผมถาวร ปลูกจอน และปลูกคิ้ว 
  • การปลูกหนวดและเคราจำเป็นต้องใช้เซลล์รากผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอย เพราะหากเซลล์รากผมที่นำมาใช้มีความอ่อนแอก็จะไม่สามารถนำมาปลูกได้

วิธีปลูกหนวด เครา จอน มีขั้นตอนอย่างไร

วิธีปลูกหนวด ปลูกเคราจอน

สำหรับเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้ในการปลูกหนวดถาวร ปลูกเครา และปลูกจอน ของ All About Clinic  จะใช้วิธีการที่คล้ายกับการปลูกผมถาวรเช่นเดียวกัน ได้แก่ เทคนิค FUE DHI และ LEAN โดยเทคนิคเหล่านี้จะเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณศีรษะด้านหลัง ซึ่งจะมีการโกนผมเพื่อเจาะกราฟผมออกมา แล้วนำมาปลูกใหม่ในจุดที่ต้องการ โดยแต่ละเทคนิคที่จะนำมาใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับคนไข้และการประเมินจากแพทย์ว่าเหมาะสมที่จะใช้เทคนิคใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ ขั้นตอนหรือกระบวนการปลูกหนวด ปลูกเครา และปลูกจอน จะมีวิธีดังนี้

  1. แพทย์จะทำการออกแบบและวาดแนวหนวด เครา จอน ตามความต้องการของคนไข้และความเหมาะสมของใบหน้า พร้อมกับแนะนำเทคนิคที่ใช้ในการปลูก
  2. แพทย์จะทำการโกนผมบริเวณท้ายทอย เพื่อเจาะเอากราฟผมที่จะนำไปปลูกในตำแหน่งใหม่
  3. หลังจากนั้นแพทย์จะทำการนำกราฟผมที่ได้มาแช่ในน้ำยาสำหรับรักษาคุณภาพกราฟผม และแพทย์จะเลือกเฉพาะกราฟที่สมบูรณ์เหมาะสำหรับการนำมาปลูกหนวดเครา
  4. ในขั้นตอนการปลูก แพทย์จะทำการฉีดยาชา แล้วจะนำกราฟผมมาปลูกตามทรงหนวดเคราที่ออกแบบไว้ทีละเส้น ซึ่งในขึ้นตอนการปลูกนี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยมากที่สุด

ข้อปฏิบัติก่อน และหลังปลูกหนวด ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนปลูก

  1. ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนปลูก เนื่องจากลักษณะของผมและขนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมของเทคนิคที่จะใช้ปลูกและคำนวณกราฟผมที่จะใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
  2. หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องใช้เป็นประจำต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อพิจารณาการหยุดยาบางกลุ่ม และหากต้องมีการหยุดยาก็ควรแจ้งให้แพทย์ประจำตัวทราบด้วย
  3. งดรับประทานยาหรืออาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันตับปลา, โสม เป็นต้น โดยงดอย่างน้อย 7 วันก่อนการปลูก
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดบุหรี่ ก่อนการปลูกหนวด 48 ชั่วโมง
  5. กรณีของผู้ป่วยโรคความดันสูงที่ใช้ยา Beta Blocker  จำเป็นต้องแจ้งแพทย์เพื่อขอเปลี่ยนยาก่อนทำการปลูกหนวด อย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากตัวยาอาจมีผลกับยาชาที่ใช้ในการทำหัตถการนี้
  6. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  7. ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมมาในวันที่เข้ารับการปลูกหนวดถาวร เนื่องจากหลังปลูกต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อศีรษะบริเวณท้ายทอยและบริเวณหนวดที่ทำการปลูกไปแล้ว
  8. งดการโกนหนวดเครา ก่อนเข้ารับการปลูก 1 สัปดาห์ เนื่องจากเพื่อให้แพทย์ทราบทิศทางการขึ้นและทรงหนวดเคราเดิมของคนไข้
  9. งดดื่มชาและกาแฟในวันที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกหนวด
  10. ควรสระผมมาให้เรียบร้อยในวันที่เข้ารับการปลูก

การเตรียมตัวหลังปลูก

ดูแลหลังปลูกหนวด
  1. หลังปลูกหนวดเสร็จ ให้ขยับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าให้น้อยที่สุด เพราะอาจจะทำให้รากผมที่ปลูกไปหลุดได้ จนทำให้หนวดที่ปลูกไม่ขึ้นหรือองศาการปลูกเบี้ยว และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  2. หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและแสงแดดในช่วง 1 สัปดาห์หลังทำ
  3. ควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ ไม่รสจัด และให้ทานอาหารแบบระวังไม่ให้เลอะปากบริเวณหนวดที่ปลูกไปรวมถึงแนะนำให้บ้วนปากและทำความสะอาดบริเวณที่ปลูกทุกครั้งหลังรับประทานอาหารในช่วง 7 วันแรก เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ
  4. แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือ 2 สัปดาห์แรก
  5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 48 ชั่วโมงหลังปลูก
  6. ห้ามแกะ เกา ถู บริเวณที่ปลูกหนวด จอน เครา และระมัดระวังไม่ให้บริเวณที่ปลูกกระแทกกับของแข็ง เพื่อไม่ให้รากผมที่ปลูกหลุดออก
  7. ห้ามนอนคว่ำ นอนตะแคง ควรนอนหงายหน้าตรง โดยเวลานอนควรใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อนรองบริเวณต้นคอ เพื่อประคองไม่ให้แผลกระทบกับหมอนและนอนหัวสูงเล็กน้อย ประมาณ 2 สัปดาห์หลังทำ หลังจากนั้นสามารถนอนได้ตามปกติ
  8. งดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือว่ายน้ำ และซาวน่า ประมาณ 1 เดือน
  9. รับประทานยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  10. เมื่อแผลเริ่มเป็นสะเก็ด อาจจะทำให้รู้สึกคันได้ โดยสามารถแตะเบา ๆ เพื่อลดอาการคัน หรือทายาแก้คัน ซึ่งไม่ควรเกาโดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ แม้ว่าการปลูกหนวดจะทำให้ได้เส้นขนขึ้นมาใหม่ทันที แต่ผลลัพธ์หลังปลูกจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับความร่วมมือในการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย ในช่วงแรก ๆ หลังทำต้องมีความระมัดระวังแผลผ่าตัดไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือนที่รุนแรง เพื่อป้องกันกราฟผมที่ทำการปลูกบริเวณหนวดไม่ให้หลุดร่วง รวมถึงการปลูกหนวดเครายังช่วยเสริมความเป็นชาย เพิ่มความหนาแน่นของโครงสร้างหนวดเดิม หรือช่วยสร้างแนวหนวดใหม่รอบกรอบหน้าตามความต้องการได้ พร้อมกับช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า และหากท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการเติมเต็มหนวดเคราให้ดูดีขึ้น แนะนำให้ท่านเข้ามาปรึกษากับคุณหมอพอลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ AAC เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ

เทคนิคการปลูกหนวด เครา จอน

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นเทคนิคที่ใช้ในการปลูกหนวด เครา จอน จะเป็นการย้ายรากผมที่ท้ายทอยมาปลูกใหม่บริเวณใบหน้า ซึ่งที่คลินิกของเราจะมีด้วยกัน 3 เทคนิค คือ เทคนิค FUE, DHI และ LEAN โดยแต่ละวิธีจะมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้

1. เทคนิค FUE

เป็นเทคนิคการปลูกหนวดที่จะย้ายรากผมเดิมออกมาจากบริเวณด้านหลังศีรษะเช่นเดียวกับการปลูกผม FUE โดยแพทย์จะทำการเจาะกราฟผมออกมาทีละกอด้วยหัวเจาะขนาดเล็ก แล้วจึงนำมาปลูกลงไปใหม่ในบริเวณทรงหนวดที่ต้องการด้วยด้วยเครื่องมือ Forceps ซึ่งเทคนิคนี้จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์เพื่อความแม่นยำในการเจาะเก็บรากผมให้เสียหายน้อยที่สุด

ข้อดี : 

  • แผลเล็ก ไม่ต้องเย็บแผล ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย
  • สามารถสร้างแนวขนใหม่ได้ตามความต้องการ

ข้อจำกัด :

  • หากแพทย์ไม่ชำนาญรากผมอาจบอบช้ำ และมีโอกาสรอดน้อย
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผมบริเวณด้านหลังบาง เพราะจะเป็นการย้ายรากผมบางส่วนมาปลูกที่ใหม่ จึงอาจทำให้ผมบางลงกว่าเดิม

2. เทคนิค DHI

เทคนิคนี้จะมีวิธีการปลูกที่คล้ายกับเทคนิค FUE โดยการเก็บกราฟผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ แต่จะใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน ซึ่งเทคนิค DHI จะใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า DHI Implanter ที่จะทำการเจาะเอาผมออกทีละกอและนำมาใช้ปลูกได้ในขั้นตอนเดียว ทำให้สามารถบังคับทิศทางได้ดี และยังช่วยลดปัญหากราฟผมเสียหายจากการปลูกได้อีกด้วย

ข้อดี : 

  • ขนาดแผลเล็กกว่า FUE แทบจะไม่ต้องพักฟื้น
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมาก
  • ควบคุมความลึก มุม และทิศทางของรากผมได้ดี

ข้อจำกัด :

  • หากทีมแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์ DHI Implanter ก็เสี่ยงต่อการทำให้กราฟผมเสียหายได้
  • ราคาค่อนข้างสูง

3. เทคนิค LEAN

เป็นเทคนิคของ All About Clinic ที่หมอพอลพัฒนามาจากเทคนิค DHI ซึ่งจะมีความพิเศษมากขึ้นโดยการใช้ปากกา Lean Implanter ที่หัวเจาะจะมีขนาดเล็กกว่า Implanter แบบธรรมดา พร้อมด้วยขั้นตอนการตัดแต่งกราฟที่พิถีพิถัน โดยให้มีเนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินหลงเหลืออยู่น้อยที่สุด เพื่อให้กราฟมีความลีนมากที่สุด หากนำมาปลูกบริเวณหนวดจะได้ความเป็นธรรมชาติและหนาแน่นมากขึ้น

ข้อดี : 

  • แผลเป็นมีขนาดเล็กที่สุด หลังทำพักฟื้นไม่นานมาก ประมาณ 1-2 วันเท่านั้น
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • เพิ่มความหนาของหนวดเคราได้มากที่สุด
  • หัวเจาะที่ขนาดเล็กมาก ทำให้ควบคุมทิศทางการปลูกได้ดีมากขึ้น

ข้อจำกัด :

  • อาจมีราคาที่สูงมากกว่าเทคนิคอื่น ๆ

วิธีการดูแลแผลหลังปลูกหนวด ปลูกเครา และปลูกจอน

วิธีดูแลแผลหลังปลูกเพื่อไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อ หรือสกปรก ในช่วงระยะ 1 สัปดาห์แรกหลังปลูกให้ทำความสะอาดแผลทุกครั้งหลังทานอาหาร และในช่วง 1-2 วันแรกให้งดแปรงฟัน แต่สามารถบ้วนปากได้ โดยวิธีทำความสะอาดแผล ได้แก่ 

  1. ทำความสะอาดแผลโดยการใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ บริเวณที่ปลูก ห้ามถูแรง ๆ
  2. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ โดยไม่ใช้น้ำแรง ๆ หรือน้ำที่ร้อนจนเกินไป
  3. ใช้ผ้าซับบริเวณที่ปลูกเบา ๆ ให้แห้ง
  4. ทายาขี้ผึ้งที่แพทย์ให้มาบริเวณที่ปลูก
  5. สามารถสวมหน้ากากอนามัยได้หลังปลูกไปแล้ว 1-2 สัปดาห์

ปลูกหนวดที่ไหนดี ทำไมต้องเลือกปลูกที่ All About Clinic

สำหรับท่านใดที่มีคำถามปลูกหนวดที่ไหนดี เราขอแนะนำ All About Clinic ซึ่งคลินิกของเราเป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจร นำทีมโดยคุณหมอพอล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ปลูกหนวดเครา ปลูกจอน และปลูกคิ้ว ที่มีประสบการณ์มากกว่า 1,000 เคส พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานบริการที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์และเครื่องมือมีความทันสมัย และมีเทคนิคเฉพาะของหมอพอลที่จะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีรีวิวปลูกหนวดจากลูกค้าจริงที่น่าเชื่อถือ และมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้บริการให้เลือกตามความเหมาะสมอีกมากมายเช่นกัน โดยสามารถติดตามโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ที่ : รวมโปรโมชั่น All About Clinic 

ปลูกหนวด vs ทาเซรั่ม เลือกแบบไหนได้ผลลัพธ์ดี

ในปัจจุบันการเพิ่มหนวด เครา จอน ให้ดูหนา ดูเป็นทรง เพื่อช่วยเสริมให้ใบหน้าคุณผู้ชายดูคมเข้ม มีมิติ ลุคดูสุขุม น่าเกรงขามมากขึ้น ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยวิธีที่เป็นที่นิยมและเห็นผลดีจะมีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ การปลูกหนวดถาวร และการใช้เซรั่มสำหรับปลูกหนวด แต่ผู้ที่มีปัญหาหนวดบางก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกวิธีไหนดี เราจะพาไปดูทั้ง 2 วิธีนี้กันว่าต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง

เปรียบเทียบปลูกหนวดกับทาเซรั่ม

การปลูกหนวด

เป็นการผ่าตัดปลูกหนวด เครา และจอน ที่ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด แม้ในบริเวณที่ไม่มีเซลล์รากขนหรือไม่เคยมีขนขึ้นก็สามารถปลูกให้มีเส้นขนขึ้นมาได้ และเส้นขนที่งอกขึ้นใหม่จะเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ มีความแข็งแรง สามารถตัดแต่งทรงหนวดได้ตามต้องการ

ข้อดี :

  • หลังปลูกผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร
  • เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
  • แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากกว่าวิธีอื่น
  • ใช้เวลาในการปลูกไม่นาน พักฟื้นน้อย
  • สามารถตัดแต่งรูปทรงหนวดได้ตามต้องการ
  • ปลูกได้แม้ในบริเวณที่ไม่เคยมีขนขึ้นมาก่อน 

 

ข้อจำกัด :

  • มีความเสี่ยงเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดบริเวณปาก ซึ่งเป็นแหล่งที่รวมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ง่าย 
  • ผมบริเวณท้ายทอยต้องมีมากพอสำหรับปลูก ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผมบางมาก ๆ

การทาเซรั่ม

เซรั่มปลูกหนวด หรือยาสำหรับใช้ปลูกหนวด จะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ขนเพิ่มขึ้นในบริเวณที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหนวด เครา และจอน โดยตัวยาจะซึมซาบได้เร็ว หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งการทาเซรั่มสำหรับเพิ่มหนวดเคราจะเป็นการช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมรากขนให้งอกขึ้นมากได้เร็วขึ้น และยังช่วยลดการขาดหลุดร่วง พร้อมกับช่วยบำรุงเส้นขนให้แข็งแรงขึ้น แต่ผู้ที่จะใช้เซรั่มนี้ก็ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรซื้อมาลองใช้ด้วยตัวเอง

ข้อดี :

  • ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องดูแลแผล
  • ใช้งานง่าย สะดวก และประหยัดเวลา
  • สามารถปลูกและบำรุงขนในขวดเดียว

ข้อจำกัด :

  • ผลลัพธ์ไม่อยู่ถาวร ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • อาจเห็นผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร
  • อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง และผิวหนังอักเสบได้

แนะนำทรงหนวดแบบไหน เหมาะกับรูปหน้าทรงไหน

เราทรงหนวด ทรงเครา ทรงจอนยอดนิยม ที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของผู้ชายดูโดดเด่น และดูคมเข้มน่ามองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีทรงอะไรและเหมาะกับรูปหน้าแบบไหน เรารวมมาไว้ให้เป็นแนวทางสำหรับคุณผู้ชายแล้วค่ะ

1. Stubble

หนวดเคราสไตล์ Stubble เป็นทรงธรรมชาติที่จะขึ้นตามแนวขนของเรา โดยจะเป็นทรงที่มีขนขึ้นเขียว ๆ ตั้งแต่ช่วงจอนผมไล่ลงมาจนถึงช่วงคาง และมีบริเวณหนวดหรือช่วงริมฝีปากบนด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นทรงที่ผู้ชายนิยมกันมากที่สุด เพราะจัดแต่งทรงได้ง่าย ไม่ต้องตัดแต่งหรือทำอะไรมาก สามารถปล่อยให้ยาวตามธรรมชาติได้เลย นอกจากนี้หนวดทรงนี้ยังสามารถแบ่งออกตามระดับความยาวของเส้นขนได้ 3 ระดับดังนี้

Short Stubble

เป็นทรงหนวดสั้น ๆ ที่จะขึ้นมาตามธรรมชาติที่ได้ตัดแต่งทรงไป โดยสามารถปล่อยทิ้งไว้ไม่โกนออกประมาณ 3-4 วัน ก็จะเห็นเป็นตอหนวดสั้น ๆได้ 

  • เหมาะกับใคร : เหมาะกับทุกใบหน้า และผู้ชายที่ไว้ทรงผมสกินเฮด หรือตัดผมสั้นเกรียน

Medium Stubble

เป็นทรงหนวดที่จะมีความยาวขึ้นมาและดูดกดำกว่าระดับแรก โดยจะดูไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาปล่อยให้หนวดยาวขึ้นมาประมาณ 7-10 วัน 

  • เหมาะกับใคร : เหมาะกับทุกใบหน้า หรือผู้ที่อยากได้ลุคดูผ่อนคลายสบาย ๆ

Long Stubble

เป็นระดับที่หนวดจะยาวมากขึ้นเรื่อย ๆซึ่งจะเว้นระยะไม่โกนประมาณครึ่งเดือน แต่ไม่ควรปล่อยให้ยาวเกินไป ควรมีการเล็ม หรือกันเพื่อให้อยู่ทรงและดูสะอาดเรียบร้อย

  • เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม และใบหน้ารูปไข่ จะช่วยเพิ่มความเนี้ยบให้โครงหน้าได้ดี

2. Balbo

เป็นอีกหนึ่งทรงที่ยอดฮิตในกลุ่มผู้ชายมาก ๆ และเป็นทรงที่ไว้ง่าย โดยจะไว้หนวดเคราบริเวณริมฝีปากบนและคาง ไม่ต้องไว้ส่วนจอนลงมา ปล่อยให้บริเวณแก้มดูเกลี้ยง ๆ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายรูปตัวที หรือรูปสมอเรือนั่นเอง และจะไว้หนวดและเคราให้ยาวในระดับหนึ่ง อีกทั้งทรงนี้ต้องคอยตกแต่งให้ขนยาวพอดีกันอยู่เสมอ แล้วจะช่วยทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น 

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม หรือใบหน้ารูปเพชร และผู้ที่มีใบหน้ายาว

3. Van Dyke

สไตล์หนวดทรงคลาสสิกที่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน หนวดทรง Van Dyke หรือเรียกอีกชื่อว่า หนวดเขี้ยว โดยจะเน้นไว้หนวดส่วนบนของริมฝีปากให้ยาวและดูแหลม เพื่อที่จะม้วนหรือดัดปลายให้ชี้ขึ้นได้ และไว้เคราบริเวณคางโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกัน ซึ่งการทำทรงนี้จะต้องค่อยจัดแต่งให้หนวดชี้ขึ้นอยู่ตลอด

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้ารูปไข่ ผู้ที่มีคางแคบ และผู้ชายที่ชอบแต่งตัวหลากหลายสไตล์ เช่น สไตล์วินเทจ สไตล์หนุ่มมาดเซอร์ หรือผู้ชายที่ลุคดูเนี้ยบและเงียบขรึม

4. Extended Goatee

ทรงหนวดเครานี้เป็นทรงที่ยอดนิยมกันอย่างมากในกลุ่มผู้ชายต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะการไว้หนวดและเคราให้เชื่อมต่อกัน โดยจะปล่อยให้เครายาวเต็มบริเวณด้านคางและยาวออกไปด้านข้างตามแนวกรอบหน้า แต่จะไม่ยาวสูงไปถึงจอน และจะไม่ไว้จอนยาวลงมาเชื่อมกัน จะเป็นการเว้นช่วงระหว่างจอนเอาไว้เล็กน้อย ทรงนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูคมเข้ม ดูเป็นผู้ชายลุค Bad Boy และเท่มากขึ้น

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม หรือมีใบหน้าที่เห็นกรอบหน้าชัดเจน และผู้ที่มีใบหน้ารูปไข่ หรือใบหน้ารูปทรงวี

5. Full Beard

สไตล์หนวดเคราที่จะมีการไว้หนวด เครา และจอนให้ยาวเฟิ้มทั่วใบหน้า โดยจะเป็นการไว้ยาวตามกรอบหน้าตั้งแต่บริเวณจอนลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหนวดและเคราให้ปิดบริเวณใต้คางทั้งหมด และไว้ยาวประมาณ 1-2 นิ้ว จะช่วยให้คุณผู้ชายได้ลุคที่ดูเข้มและดูเซอร์มากที่สุด แต่จำเป็นต้องมีการดูแลทำความสะอาด และเล็มหรือจัดทรงหนวดอย่างสม่ำเสมอ

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม ใบหน้ารูปเพชร และผู้ที่มีหน้าผากกว้าง หรือช่วงคางดูเล็ก

วิธีทำให้หนวดขึ้นเร็วแบบธรรมชาติ ทำอย่างไรบ้าง

วิธีเร่งหนวดยาว

นอกจากวิธีทางการแพทย์ที่จะช่วยเสริมให้มีหนวดเคราดกดำขึ้นด้วยการปลูกหนวดถาวรแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้หนวดยาวเร็วขึ้น ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการถอนหนวดเครา เพราะการถอนจะทำให้หนวดบางลง และยังทำให้รูขุมขนอักเสบ หรืออุดตันจนขนไม่ขึ้น รวมถึงทำให้เป็นขนคุดจนขนงอกอยู่ใต้ผิวหนัง
  • ดูแลผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ การที่ผิวหนังสะอาด จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป พร้อมกับช่วยลดการอุดตันของรุขุมขน ทำให้ขนบนใบหน้าขึ้นมาได้ง่าย
  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยแนะนำให้ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น นม อกไก่ และถั่วชนิดต่าง ๆ
  • การทานวิตามินที่มีประโยชน์ต่อหนวด เครา เช่น วิตามินบี 3, บี 12, วิตามินซี และวิตามินอี และไบโอติน ซึ่งเป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการเร่งการเจริญเติบโตของเส้นขน และช่วยบำรุงให้เส้นขนเงางาม ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย
  • นวดหน้าเป็นประจำ โดยออกแรงกดนวดบริเวณรอบ ๆ ใบหน้าในบริเวณที่ต้องการให้ขนบนใบหน้างอกขึ้นมา ซึ่งการนวดหน้าจะช่วยในเรื่องของการไหลเวียนเลือด ยิ่งเลือดไหลเวียนบริเวณใบหน้าได้ดี หนวด เครา และจอน ก็จะยิ่งยาวไวและแข็งแรงขึ้น
  • ใช้ยาปลูกหนวด ยาไมนอกซิดิวล์ (Minoxidil) โดยมีทั้งแบบเม็ดและแบบทา สำหรับการนำมาใช้ปลูกหนวด เครา และจอน ซึ่งจะนิยมใช้ชนิดทา เนื่องจากจะได้ผลเฉพาะที่ที่ต้องการ และแบบเม็ดสำหรับรับประทานจะมีผลข้างเคียงมากกว่า

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : ยาปลูกผม Minoxidil มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร ใช้แล้วอันตรายไหม

คำถามที่พบบ่อย

  • ผู้ที่มีหนวดแหว่ง หนวดบาง
  • ผู้ที่มีความต้องการปลูกหนวดปกปิดรอยแผลเป็น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความหนา ดกดำ ให้กับหนวดเครา เพื่อเพิ่มความคมเข้มให้กับใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าและเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี ดุดัน และน่าเกรงขาม
  • ผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงหนวดให้เข้ากับใบหน้ามากขึ้น
  • ผู้ที่ปลูกหนวดด้วยการใช้ยาหรือเซรั่มแล้วยังไม่ได้ผลตามที่ต้องการ
  • ผู้ที่ต้องการให้มีหนวดหนาอย่างถาวร
  • ผู้ที่เคยทำศัลกรรมการดึงหน้า แล้วทำให้ตำแหน่งแนวผมเปลี่ยนที่จนจอนหายไป สามารถปลูกหนวดจอน เพื่อสร้างจอนใหม่ได้

ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยอาการหลังปลูกหนวดที่สามารถพบได้ คือ อาการบวมแดง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำศัลยกรรม และจะมีการตกสะเก็ดของแผลบริเวณที่ปลูกในช่วง 5-7 วันแรก โดยหลังจากนั่นสะเก็ดแผลจะเริ่มร่วงหมดไปเอง รวมถึงขนหนวดในช่วง 14 วันแรก จะมีความเข้มกว่าหนวดปกติ และในช่วง 1-2 เดือนแรก อาจจะมีสิวขึ้นบริเวณที่ปลูกได้ง่าย แต่หากมีแผลเปื่อย มีน้ำเหลืองหรือมีหนอง หมายความว่าแผลอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งควรกลับไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการรักษา

หลังปลูกหนวด เครา จอน จะได้ผลลัพธ์ที่ดูดีและเป็นธรรมชาติมาก เนื่องจากเส้นขนที่นำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการจะเป็นเส้นผมของคนไข้เอง ลักษณะของเส้นขนและสีขนจึงมีความใกล้เคียงกับขนเดิมเป็นอย่างมาก และการเห็นผลลัพธ์จะเริ่มเห็นหลังจากที่อาการบวมบริเวณหนวดที่ปลูกไปเริ่มหายดีแล้ว โดยในช่วงหลังปลูก 2 สัปดาห์ เซลล์ขนจะเริ่มติดและมีความยาวขึ้น ซึ่งจะสามารถเริ่มตัดแต่งทรงหนวดได้ หลังจากนั้นขนหนวดจะเริ่มร่วง และจะมีการเกิดขึ้นมาใหม่ตามวงจรชีวิตของเส้นขน โดยหลังจาก 5 เดือนเป็นต้นไป จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขนหนวดจะยาวแข็งแรง และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องเหมือนขนปกติ

การโกนหนวดหรือตัดแต่งทรงหนวดหลังปลูกสามารถทำได้ โดยในส่วนของการตัดแต่งจะสามารถทำได้เมื่อปลูกหนวดถาวรไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ และการโกนจะสามารถทำได้เมื่อปลูกไปประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ก่อนตัดแต่งและโกนควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการปลูกให้ท่านโดยตรง เพื่อให้ได้ระยะเวลาที่แน่ชัดสำหรับแต่ละบุคคล

ระหว่างการผ่าตัดปลูกหนวดถาวรแพทย์จะทำการใช้ยาชาที่จะออกฤทธิ์ตลอดการผ่าตัด ซึ่งคนไข้จะรู้สึกเจ็บในขั้นตอนฉีดยาชา หลังยาชาออกฤทธิ์จะเจ็บน้อยลง และหลังจากทำการรักษาเสร็จแล้วยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการปวดแผลเล็กน้อย แต่แพทย์จะให้ยาแก้ปวด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการได้ และระยะเวลาที่ใช้ในการปลูกประมาณ 3-8 ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูกของแต่ละเคส หากมีจำนวนกราฟที่ต้องปลูกเยอะก็จะใช้ระยะเวลานานขึ้น

เส้นผมบริเวณท้ายทอยที่ย้ายมาปลูกบริเวณหนวดเคราจะมีลักษณะเหมือนเส้นผมปกติของคนไข้ ซึ่งจะยาวเท่าเส้นผมปกติเลย จึงต้องทำการตัดตกแต่งหนวดเคราให้เป็นทรงอยู่เป็นประจำ

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
เลเซอร์ขน หน้าใส ลดผมร่วง