ปัจจุบันความนิยมในการไว้หนวด เครา และจอน มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยผู้ชายหลาย ๆ ท่านต้องการที่จะอยากมีหนวดเครา เพื่อช่วยเพิ่มเสน่ห์บนใบหน้า เสริมลุคให้ดูดี ให้มีความแมน เท่ ดูคมเข้ม มีความดุดันน่าเกรงขาม น่านับถือ และดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีหนวดบาง หนวดแหว่ง เนื่องจากลักษณะของขนบนใบหน้าจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ด้วยสาเหตุจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชายที่ต่างกันนั่นเอง จึงได้มีนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการ ปลูกหนวด ปลูกเคราถาวรขึ้นมา
ทั้งนี้ การปลูกหนวด เครา จอน จะมีหลักการในการปลูกเดียวกันกับ การปลูกผม โดยการย้ายรากผมจากบริเวณด้านหลังในตำแหน่งที่แข็งแรงมาปลูกบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้คุณผู้ชายมีหนวดเคราที่ดกดำดูหนาอย่างเป็นธรรมชาติและอยู่อย่างถาวรได้
ปลูกหนวด คือ วิธีการเพิ่มปริมาณเส้นขนแบบธรรมชาติ ซึ่งจะมีเทคนิคการทำที่เหมือนกันกับการปลูกผมถาวร แต่จะเป็นการปลูกบริเวณใบหน้าเหนือริมฝีปาก โดยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยบนศีรษะ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความแข็งแรงของเซลล์รากผมมากที่สุด แล้วย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการจะปลูกหนวดหรือเครา และผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้มีขนเพิ่มขึ้นในจุดที่ทำการปลูกใหม่ ไม่หลุดร่วง แข็งแรง และสามารถตัดแต่งได้เหมือนขนจริงหรือขนปกติทั่วไป
ทั้งนี้ การเลือกขนาดของเส้นขนที่จะนำมาปลูก อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยต้องเลือกเส้นผมให้มีขนาดใกล้เคียงกับเส้นขนบริเวณที่ปลูกมากที่สุด รวมถึงจำนวนของเส้นผมที่ใช้จะน้อยกว่า เนื่องจากพื้นที่สำหรับการปลูกหนวดถาวรจะน้อยกว่าการปลูกผมนั่นเอง
ระยะเวลาหลังจากที่ทำการปลูกหนวดถาวร ปลูกเครา ปลูกจอนไปแล้ว จะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้
สำหรับผู้หญิงสามารถปลูกหนวดได้เช่นกัน ซึ่งจะนิยมในผู้ที่ต้องการเป็นผู้ชายข้ามเพศ เพื่อทำให้ใบหน้าดูคมเข้ม น่าเกรงขามมากขึ้น แต่สำหรับผู้หญิงสายหวานหรือผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจในการปลูกจอนมากกว่า เนื่องจากการปลูกจอนถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยปรับกรอบหน้าให้ดูดีและดูเรียวมากขึ้น โดยการปลูกจอนในผู้หญิงจะทำการปลูกบางกว่าผู้ชาย เพื่อไม่ให้ใบหน้าดูแข็งเกินไป และหลังปลูกมาแล้วผู้หญิงก็สามารถปล่อยให้จอนยาวงอกมาเหมือนผมยาวปกติได้เลย ซึ่งจะช่วยให้รูปหน้าดูเล็กลงและกรอบหน้าชัดยิ่งขึ้น
ราคาปลูกหนวด ปลูกเครา ปลูกจอน ที่ All About Clinic (AAC) ราคาเริ่มต้นที่ 39,000 บาท โดยที่ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น พื้นที่ที่ต้องการปลูก รูปทรงของหนวดใหม่ จำนวนกราฟที่ใช้ในการปลูก เทคนิคที่เลือกใช้ และความชำนาญของแพทย์ อีกทั้งยังรวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ของแต่ละคลินิกด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ AAC ของเราจะมีการจัดโปรโมชั่นประจำเดือนสำหรับหัตถการต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นของเราได้ที่ : โปรโมชั่น All About Clinic
การปลูกเคราจะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเช่นเดียวกับการปลูกหนวด ซึ่งความแตกต่างของเครา (Beard) คือ จะเป็นขนที่เกิดขึ้นบริเวณคางหรือกราม แต่หนวด (Mustache) จะเป็นขนที่ขึ้นบริเวณเหนือริมฝีปาก ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้จะเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยการปลูกเคราจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้โครงสร้างเคราเดิม หรือเป็นการสร้างแนวเคราขึ้นมาใหม่ ทำให้บริเวณกรอบหน้าและใต้คางมีเคราหนามากขึ้น เพื่อเพิ่มความคมเข้มให้กับใบหน้า หรือปลุกความเป็นผู้ชายมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีเคราบาง ๆ หรือผู้ที่ต้องการปลูกเคราเพื่อปิดรอยแผลเป็นบริเวณใบหน้าได้ และส่วนใหญ่ผู้ที่ต้องการปรับบุคลิกภาพให้ดูน่าเชื่อถือและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมักจะทำการผ่าตัดปลูกหนวดและปลูกเคราควบคู่ไปพร้อมกัน
จอน เป็นเส้นผมส่วนที่อยู่ข้างหูติดกับแก้มระลงมาต่อเนื่องไปถึงเครา ซึ่งการปลูกจอนถาวรเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่หนุ่ม ๆ ให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยทำให้ใบหน้าผู้ชายหล่อเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกรอบหน้าได้รูปมากขึ้น นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงก็มีความสนใจในการปลูกจอนเช่นเดียวกัน เพราะการมีจอนที่ยาวลงมาข้างหูจะช่วยปรับโหวงเฮ้งให้ใบหน้าดูเรียวสวย แต่การปลูกจอนในผู้หญิงจะนิยมปลูกบางกว่าผู้ชาย เพื่อไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งมากจนเกินไป รวมถึงนิยมปลูกรวมกับการปลูกผมบริเวณตามแนวไรผมเดิมที่ถอยร่นขึ้นไปด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างกรอบหน้าให้ดูเล็กลงและมีมิติมากขึ้น
นอกจากนี้ การปลูกจอนให้เหมาะสมกับรูปหน้าจะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบทั้งโครงกระดูกโหนกแก้ม รูปทรงของใบหน้า และสัดส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าด้วย ซึ่งการปลูกจอนจะสามารถอยู่ได้ถาวรและเส้นขนจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ คุณผู้ชายสามารถเล็มเส้นผมบริเวณจอนให้สั้นและเป็นทรงตามที่ต้องการได้ และสำหรับคุณผู้หญิงสามารถปล่อยให้เส้นผมที่ปลูกไปยาวออกมาปกติเหมือนเส้นผมทั่วไปได้
สำหรับเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้ในการปลูกหนวดถาวร ปลูกเครา และปลูกจอน ของ All About Clinic จะใช้วิธีการที่คล้ายกับการปลูกผมถาวรเช่นเดียวกัน ได้แก่ เทคนิค FUE DHI และ LEAN โดยเทคนิคเหล่านี้จะเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณศีรษะด้านหลัง ซึ่งจะมีการโกนผมเพื่อเจาะกราฟผมออกมา แล้วนำมาปลูกใหม่ในจุดที่ต้องการ โดยแต่ละเทคนิคที่จะนำมาใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับคนไข้และการประเมินจากแพทย์ว่าเหมาะสมที่จะใช้เทคนิคใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ ขั้นตอนหรือกระบวนการปลูกหนวด ปลูกเครา และปลูกจอน จะมีวิธีดังนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าการปลูกหนวดจะทำให้ได้เส้นขนขึ้นมาใหม่ทันที แต่ผลลัพธ์หลังปลูกจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับความร่วมมือในการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย ในช่วงแรก ๆ หลังทำต้องมีความระมัดระวังแผลผ่าตัดไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือนที่รุนแรง เพื่อป้องกันกราฟผมที่ทำการปลูกบริเวณหนวดไม่ให้หลุดร่วง รวมถึงการปลูกหนวดเครายังช่วยเสริมความเป็นชาย เพิ่มความหนาแน่นของโครงสร้างหนวดเดิม หรือช่วยสร้างแนวหนวดใหม่รอบกรอบหน้าตามความต้องการได้ พร้อมกับช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า และหากท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการเติมเต็มหนวดเคราให้ดูดีขึ้น แนะนำให้ท่านเข้ามาปรึกษากับคุณหมอพอลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ AAC เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นเทคนิคที่ใช้ในการปลูกหนวด เครา จอน จะเป็นการย้ายรากผมที่ท้ายทอยมาปลูกใหม่บริเวณใบหน้า ซึ่งที่คลินิกของเราจะมีด้วยกัน 3 เทคนิค คือ เทคนิค FUE, DHI และ LEAN โดยแต่ละวิธีจะมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้
เป็นเทคนิคการปลูกหนวดที่จะย้ายรากผมเดิมออกมาจากบริเวณด้านหลังศีรษะเช่นเดียวกับการปลูกผม FUE โดยแพทย์จะทำการเจาะกราฟผมออกมาทีละกอด้วยหัวเจาะขนาดเล็ก แล้วจึงนำมาปลูกลงไปใหม่ในบริเวณทรงหนวดที่ต้องการด้วยด้วยเครื่องมือ Forceps ซึ่งเทคนิคนี้จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์เพื่อความแม่นยำในการเจาะเก็บรากผมให้เสียหายน้อยที่สุด
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ข้อดี ปลูกผมเทคนิค FUE ไร้แผลเป็น พร้อมข้อควรปฏิบัติหลังปลูกผม
เทคนิคนี้จะมีวิธีการปลูกที่คล้ายกับเทคนิค FUE โดยการเก็บกราฟผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะ แต่จะใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน ซึ่งเทคนิค DHI จะใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า DHI Implanter ที่จะทำการเจาะเอาผมออกทีละกอและนำมาใช้ปลูกได้ในขั้นตอนเดียว ทำให้สามารถบังคับทิศทางได้ดี และยังช่วยลดปัญหากราฟผมเสียหายจากการปลูกได้อีกด้วย
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
บทความที่เกี่ยวข้อง : ปลูกผม DHI คืออะไร ค่าใช้จ่ายแพงหรือไม่เมื่อเทียบกับ FUE
เป็นเทคนิคของ All About Clinic ที่หมอพอลพัฒนามาจากเทคนิค DHI ซึ่งจะมีความพิเศษมากขึ้นโดยการใช้ปากกา Lean Implanter ที่หัวเจาะจะมีขนาดเล็กกว่า Implanter แบบธรรมดา พร้อมด้วยขั้นตอนการตัดแต่งกราฟที่พิถีพิถัน โดยให้มีเนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินหลงเหลืออยู่น้อยที่สุด เพื่อให้กราฟมีความลีนมากที่สุด หากนำมาปลูกบริเวณหนวดจะได้ความเป็นธรรมชาติและหนาแน่นมากขึ้น
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
วิธีดูแลแผลหลังปลูกเพื่อไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อ หรือสกปรก ในช่วงระยะ 1 สัปดาห์แรกหลังปลูกให้ทำความสะอาดแผลทุกครั้งหลังทานอาหาร และในช่วง 1-2 วันแรกให้งดแปรงฟัน แต่สามารถบ้วนปากได้ โดยวิธีทำความสะอาดแผล ได้แก่
สำหรับท่านใดที่มีคำถามปลูกหนวดที่ไหนดี เราขอแนะนำ All About Clinic ซึ่งคลินิกของเราเป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามครบวงจร นำทีมโดยคุณหมอพอล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ปลูกหนวดเครา ปลูกจอน และปลูกคิ้ว ที่มีประสบการณ์มากกว่า 1,000 เคส พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานบริการที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์และเครื่องมือมีความทันสมัย และมีเทคนิคเฉพาะของหมอพอลที่จะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีรีวิวปลูกหนวดจากลูกค้าจริงที่น่าเชื่อถือ และมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้บริการให้เลือกตามความเหมาะสมอีกมากมายเช่นกัน โดยสามารถติดตามโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ที่ : รวมโปรโมชั่น All About Clinic
ในปัจจุบันการเพิ่มหนวด เครา จอน ให้ดูหนา ดูเป็นทรง เพื่อช่วยเสริมให้ใบหน้าคุณผู้ชายดูคมเข้ม มีมิติ ลุคดูสุขุม น่าเกรงขามมากขึ้น ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยวิธีที่เป็นที่นิยมและเห็นผลดีจะมีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ การปลูกหนวดถาวร และการใช้เซรั่มสำหรับปลูกหนวด แต่ผู้ที่มีปัญหาหนวดบางก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกวิธีไหนดี เราจะพาไปดูทั้ง 2 วิธีนี้กันว่าต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
เป็นการผ่าตัดปลูกหนวด เครา และจอน ที่ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด แม้ในบริเวณที่ไม่มีเซลล์รากขนหรือไม่เคยมีขนขึ้นก็สามารถปลูกให้มีเส้นขนขึ้นมาได้ และเส้นขนที่งอกขึ้นใหม่จะเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ มีความแข็งแรง สามารถตัดแต่งทรงหนวดได้ตามต้องการ
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
เซรั่มปลูกหนวด หรือยาสำหรับใช้ปลูกหนวด จะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ขนเพิ่มขึ้นในบริเวณที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหนวด เครา และจอน โดยตัวยาจะซึมซาบได้เร็ว หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งการทาเซรั่มสำหรับเพิ่มหนวดเคราจะเป็นการช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมรากขนให้งอกขึ้นมากได้เร็วขึ้น และยังช่วยลดการขาดหลุดร่วง พร้อมกับช่วยบำรุงเส้นขนให้แข็งแรงขึ้น แต่ผู้ที่จะใช้เซรั่มนี้ก็ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรซื้อมาลองใช้ด้วยตัวเอง
ข้อดี :
ข้อจำกัด :
เราทรงหนวด ทรงเครา ทรงจอนยอดนิยม ที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของผู้ชายดูโดดเด่น และดูคมเข้มน่ามองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีทรงอะไรและเหมาะกับรูปหน้าแบบไหน เรารวมมาไว้ให้เป็นแนวทางสำหรับคุณผู้ชายแล้วค่ะ
หนวดเคราสไตล์ Stubble เป็นทรงธรรมชาติที่จะขึ้นตามแนวขนของเรา โดยจะเป็นทรงที่มีขนขึ้นเขียว ๆ ตั้งแต่ช่วงจอนผมไล่ลงมาจนถึงช่วงคาง และมีบริเวณหนวดหรือช่วงริมฝีปากบนด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นทรงที่ผู้ชายนิยมกันมากที่สุด เพราะจัดแต่งทรงได้ง่าย ไม่ต้องตัดแต่งหรือทำอะไรมาก สามารถปล่อยให้ยาวตามธรรมชาติได้เลย นอกจากนี้หนวดทรงนี้ยังสามารถแบ่งออกตามระดับความยาวของเส้นขนได้ 3 ระดับดังนี้
Short Stubble
เป็นทรงหนวดสั้น ๆ ที่จะขึ้นมาตามธรรมชาติที่ได้ตัดแต่งทรงไป โดยสามารถปล่อยทิ้งไว้ไม่โกนออกประมาณ 3-4 วัน ก็จะเห็นเป็นตอหนวดสั้น ๆได้
Medium Stubble
เป็นทรงหนวดที่จะมีความยาวขึ้นมาและดูดกดำกว่าระดับแรก โดยจะดูไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาปล่อยให้หนวดยาวขึ้นมาประมาณ 7-10 วัน
Long Stubble
เป็นระดับที่หนวดจะยาวมากขึ้นเรื่อย ๆซึ่งจะเว้นระยะไม่โกนประมาณครึ่งเดือน แต่ไม่ควรปล่อยให้ยาวเกินไป ควรมีการเล็ม หรือกันเพื่อให้อยู่ทรงและดูสะอาดเรียบร้อย
เป็นอีกหนึ่งทรงที่ยอดฮิตในกลุ่มผู้ชายมาก ๆ และเป็นทรงที่ไว้ง่าย โดยจะไว้หนวดเคราบริเวณริมฝีปากบนและคาง ไม่ต้องไว้ส่วนจอนลงมา ปล่อยให้บริเวณแก้มดูเกลี้ยง ๆ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายรูปตัวที หรือรูปสมอเรือนั่นเอง และจะไว้หนวดและเคราให้ยาวในระดับหนึ่ง อีกทั้งทรงนี้ต้องคอยตกแต่งให้ขนยาวพอดีกันอยู่เสมอ แล้วจะช่วยทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม หรือใบหน้ารูปเพชร และผู้ที่มีใบหน้ายาว
สไตล์หนวดทรงคลาสสิกที่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน หนวดทรง Van Dyke หรือเรียกอีกชื่อว่า หนวดเขี้ยว โดยจะเน้นไว้หนวดส่วนบนของริมฝีปากให้ยาวและดูแหลม เพื่อที่จะม้วนหรือดัดปลายให้ชี้ขึ้นได้ และไว้เคราบริเวณคางโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกัน ซึ่งการทำทรงนี้จะต้องค่อยจัดแต่งให้หนวดชี้ขึ้นอยู่ตลอด
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้ารูปไข่ ผู้ที่มีคางแคบ และผู้ชายที่ชอบแต่งตัวหลากหลายสไตล์ เช่น สไตล์วินเทจ สไตล์หนุ่มมาดเซอร์ หรือผู้ชายที่ลุคดูเนี้ยบและเงียบขรึม
ทรงหนวดเครานี้เป็นทรงที่ยอดนิยมกันอย่างมากในกลุ่มผู้ชายต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะการไว้หนวดและเคราให้เชื่อมต่อกัน โดยจะปล่อยให้เครายาวเต็มบริเวณด้านคางและยาวออกไปด้านข้างตามแนวกรอบหน้า แต่จะไม่ยาวสูงไปถึงจอน และจะไม่ไว้จอนยาวลงมาเชื่อมกัน จะเป็นการเว้นช่วงระหว่างจอนเอาไว้เล็กน้อย ทรงนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูคมเข้ม ดูเป็นผู้ชายลุค Bad Boy และเท่มากขึ้น
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม หรือมีใบหน้าที่เห็นกรอบหน้าชัดเจน และผู้ที่มีใบหน้ารูปไข่ หรือใบหน้ารูปทรงวี
สไตล์หนวดเคราที่จะมีการไว้หนวด เครา และจอนให้ยาวเฟิ้มทั่วใบหน้า โดยจะเป็นการไว้ยาวตามกรอบหน้าตั้งแต่บริเวณจอนลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหนวดและเคราให้ปิดบริเวณใต้คางทั้งหมด และไว้ยาวประมาณ 1-2 นิ้ว จะช่วยให้คุณผู้ชายได้ลุคที่ดูเข้มและดูเซอร์มากที่สุด แต่จำเป็นต้องมีการดูแลทำความสะอาด และเล็มหรือจัดทรงหนวดอย่างสม่ำเสมอ
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม ใบหน้ารูปเพชร และผู้ที่มีหน้าผากกว้าง หรือช่วงคางดูเล็ก
นอกจากวิธีทางการแพทย์ที่จะช่วยเสริมให้มีหนวดเคราดกดำขึ้นด้วยการปลูกหนวดถาวรแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้หนวดยาวเร็วขึ้น ได้แก่
อ่านบทความเพิ่มเติม : ยาปลูกผม Minoxidil มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร ใช้แล้วอันตรายไหม
ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยอาการหลังปลูกหนวดที่สามารถพบได้ คือ อาการบวมแดง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของการทำศัลยกรรม และจะมีการตกสะเก็ดของแผลบริเวณที่ปลูกในช่วง 5-7 วันแรก โดยหลังจากนั่นสะเก็ดแผลจะเริ่มร่วงหมดไปเอง รวมถึงขนหนวดในช่วง 14 วันแรก จะมีความเข้มกว่าหนวดปกติ และในช่วง 1-2 เดือนแรก อาจจะมีสิวขึ้นบริเวณที่ปลูกได้ง่าย แต่หากมีแผลเปื่อย มีน้ำเหลืองหรือมีหนอง หมายความว่าแผลอาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งควรกลับไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อทำการรักษา
หลังปลูกหนวด เครา จอน จะได้ผลลัพธ์ที่ดูดีและเป็นธรรมชาติมาก เนื่องจากเส้นขนที่นำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการจะเป็นเส้นผมของคนไข้เอง ลักษณะของเส้นขนและสีขนจึงมีความใกล้เคียงกับขนเดิมเป็นอย่างมาก และการเห็นผลลัพธ์จะเริ่มเห็นหลังจากที่อาการบวมบริเวณหนวดที่ปลูกไปเริ่มหายดีแล้ว โดยในช่วงหลังปลูก 2 สัปดาห์ เซลล์ขนจะเริ่มติดและมีความยาวขึ้น ซึ่งจะสามารถเริ่มตัดแต่งทรงหนวดได้ หลังจากนั้นขนหนวดจะเริ่มร่วง และจะมีการเกิดขึ้นมาใหม่ตามวงจรชีวิตของเส้นขน โดยหลังจาก 5 เดือนเป็นต้นไป จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขนหนวดจะยาวแข็งแรง และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องเหมือนขนปกติ
การโกนหนวดหรือตัดแต่งทรงหนวดหลังปลูกสามารถทำได้ โดยในส่วนของการตัดแต่งจะสามารถทำได้เมื่อปลูกหนวดถาวรไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ และการโกนจะสามารถทำได้เมื่อปลูกไปประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ก่อนตัดแต่งและโกนควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการปลูกให้ท่านโดยตรง เพื่อให้ได้ระยะเวลาที่แน่ชัดสำหรับแต่ละบุคคล
ระหว่างการผ่าตัดปลูกหนวดถาวรแพทย์จะทำการใช้ยาชาที่จะออกฤทธิ์ตลอดการผ่าตัด ซึ่งคนไข้จะรู้สึกเจ็บในขั้นตอนฉีดยาชา หลังยาชาออกฤทธิ์จะเจ็บน้อยลง และหลังจากทำการรักษาเสร็จแล้วยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการปวดแผลเล็กน้อย แต่แพทย์จะให้ยาแก้ปวด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการได้ และระยะเวลาที่ใช้ในการปลูกประมาณ 3-8 ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูกของแต่ละเคส หากมีจำนวนกราฟที่ต้องปลูกเยอะก็จะใช้ระยะเวลานานขึ้น
เส้นผมบริเวณท้ายทอยที่ย้ายมาปลูกบริเวณหนวดเคราจะมีลักษณะเหมือนเส้นผมปกติของคนไข้ ซึ่งจะยาวเท่าเส้นผมปกติเลย จึงต้องทำการตัดตกแต่งหนวดเคราให้เป็นทรงอยู่เป็นประจำ