กรามใหญ่ แก้มเยอะ หน้าไม่เรียว สารพัดปัญหาหนักใจของใครหลายคน การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด ปัจจุบันหลายคนหันมาเลือกทำหัตถการร้อยไหมกันมากขึ้น ด้วยเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ไม่เสียเวลาพักฟื้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยล่องลึกที่หัตถการอื่นไม่สามารถทำได้
เพราะปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย คือสาเหตุของการทำลายความมั่นใจของใครหลายคน การร้อยไหมนอกจากจะแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่นแล้วยังช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นจากภายใน ผิวดูกระชับ แลดูอ่อนเยาว์
ร้อยไหม คือนวัตกรรมเสริมความงามที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูป โดยใช้หลักการนำไหมละลายจำนวนมากมาร้อยเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังเพื่อช่วยยกกระชับกรอบหน้า ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยจางลง ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวและช่วยปรับสัดส่วนของใบหน้าให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งผลลัพธ์นั้นสามารถอยู่ในนานตั้งแต่ 4-6 เดือน ไปจนถึง 1 ปี
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อการร้อยไหมพีดีโอ ไหมคอลลาเจน หรือการร้อยไหมก้างปลา ซึ่งความจริงแล้วชื่อเรียกเหล่านี้ไม่ได้เป็นการแบ่งประเภทของไหม หลัก ๆ แล้วไหมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ไหมแบบยาว ได้แก่ ไหมกุหลาบ ร้อยไหมก้างปลา
นิยมใช้ร้อยเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เส้นไหมมีลักษะยาวและใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับไหมเส้นเล็ก มีเงี่ยงอยู่รอบ ๆ โดยเมื่อร้อยเข้าไปแล้วเงี่ยงของไหมนี่เองที่จะช่วยยกเนื้อที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นมา
เหมาะกับคนที่มีปัญหาเหนียงย้อย คนที่อยากได้หน้าวีเชฟ ซึ่งในการร้อยจะใช้จำนวนเส้นไหมที่น้อยกว่าไหมสั้น เห็นผลรวดเร็ว และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
ไหมแบบสั้น ได้แก่ ไหมพีดีโอ (PDO) ไหมคอลลาเจน
นิยมใช้ร้อยไหมเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับ เส้นไหมมีลักษณะเรียบ เส้นบาง ไม่มีเกลียว เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เมื่อร้อยไหมแล้วจะทำให้ผิวดูเฟิร์มมากขึ้น
ในการร้อยจะใช้จำนวนเส้นไหมเยอะ และด้วยความที่เป็นไหมเส้นเล็กจึงเหมาะสำหรับเป็นตัวช่วยเสริมไหมชนิดอื่น ที่มีขนาดใหญ่จนไม่สามารถร้อยจุดเล็ก ๆ บางจุดได้ เช่นบริเวณร่องแก้ม
สามารถทำได้หลายจุดเพื่อปรับรูปหน้าให้กระชับ แก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ส่วนใหญ่นิยมร้อยไหมตามจุดต่าง ๆ ดังนี้
หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหม คลินิกที่น่าเชื่อถือ ไหมที่ใช้ร้อย และข้อมูลอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ยังมีข้อที่ควรปฏิบัติดังนี้
หลังร้อยไหมแล้วควรดูแลตัวเองตามข้อปฏิบัติดังนี้
เป็นคำถามที่หลายคนกังวล ว่าการร้อยไหม เจ็บหรือไม่ การร้อยไหมเป็นหัตถการปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ด้วยวิธีร้อยไหมเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับ โดยในขั้นตอนการร้อยไหม แพทย์จะมีการฉีดยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บและปวดของคนไข้ ดังนั้นใครที่กลัวเจ็บจึงไม่ต้องกังวลเลย คุณจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยตอนที่ฉีดยาชาเท่านั้น
การร้อยไหมจะเห็นผลได้เร็วและเห็นผลนานเท่าไหร่นั้น หลัก ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ และตำแหน่งบริเวณที่ร้อยไหม
ร้อยไหมอยู่ได้นานไหม ?
การร้อยไหมจะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที แต่จะเข้าที่และชัดเจนที่สุดประมาณ 2 อาทิตย์ – 1 เดือน หลังจากร่างกายได้มีการพักฟื้นแล้ว ซึ่งการร้อยไหมจะอยู่ได้นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์และตามลักษณะของเส้นไหม โดยมีดังนี้
ร้อยไหมพร้อมโบท็อกซ์หน้าได้ไหม ?
สำหรับการร้อยไหมสามารถทำควบคู่ไปกับการโบท็อกได้ โดยที่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากจะมีการทำงานกันคนละอย่างและคนละชั้นผิว ท่านสามารถทำวันเดียวกันได้เลยค่ะ
ร้อยไหมห้ามนอนตะแคงกี่วัน ?
หลังจากการร้อยไหม ไม่ควรคว่ำหน้าหรือนอนตะแคง ประมาณ 1-3 วันแรก เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บในบริเวณที่ทำการร้อยไหม หรืออาจให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากมีสัมผัสผิวกับหมอน ขอแนะนำให้นอนหงายแทนค่ะ
หลังร้อยไหม แต่งหน้า ทาครีมได้ไหม ?
หลังจากร้อยไหมไม่ควรทาครีมบำรุงภายใน 24 ชั่วโมง หรือแต่งหน้าในทันที เนื่องจากอาจจะทำให้ติดเชื้อบริเวณที่มีรอยเข็มได้ ซึ่งควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากนั้นสามารถทาครีมและแต่งหน้าได้ตามปกติ นอกจากนี้หลังจากร้อยไหมไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ในบริเวณตำแหน่งที่ร้อยไหมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ด้วยค่ะ
ร้อยไหมเหมาะกับใคร ?
การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม หรือต้องการจะยกกระชับใบหน้า เพื่อให้ผิวหน้าเต่งตึง มีผิวเรียบเนียน และต้องการให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นค่ะ
ร้อยไหมช่วยลดแก้มหรือไม่ ?
สำหรับการร้อยไหมจะไม่ได้ช่วยลดแก้มหรือลดไขมันที่มีอยู่บนใบหน้า แต่การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเต่งตึงและเรียวมากยิ่งขึ้น