ร้อยไหม

ร้อยไหม ช่วยยกกระชับผิวอย่างไร เลือกไหมแบบไหนปลอดภัย เห็นผลชัด

กรามใหญ่ แก้มเยอะ หน้าไม่เรียว สารพัดปัญหาหนักใจของใครหลายคน การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าได้โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด ปัจจุบันหลายคนหันมาเลือกทำหัตถการร้อยไหมกันมากขึ้น โดยเฉพาะ ไหมมิ้นท์ (MINT LIFT) ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในขณะนี้ ด้วยเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ไม่เสียเวลาพักฟื้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ยกกระชับผิว ลดริ้วรอยร่องลึกที่หัตถการอื่นไม่สามารถทำได้

เพราะปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย คือสาเหตุของการทำลายความมั่นใจของใครหลายคน การร้อยไหมนอกจากจะแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่นแล้วยังช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นจากภายใน ผิวดูกระชับ แลดูอ่อนเยาว์

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

การร้อยไหม คืออะไร ?

การร้อยไหม เป็นหัตถการช่วยในการยกกระชับใบหน้า โดยการนำเส้นไหมละลายขนาดเล็ก ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง หลังจากนั้นบริเวณที่ถูกร้อยไหมจะมีการอักเสบและเริ่มกระตุ้นคอลลาเจน พร้อมกับสร้างเส้นใยอิลาสตินเพิ่มขึ้นบริเวณแนวเส้นไหม ทำให้ผิวหน้ามีการยก และดึงรั้งขึ้นตามแนวของเส้นไหม ส่งผลให้ผิวดูกระชับ เด็กลง และผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น จากการที่เลือดมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น

การร้อยไหม จัดเป็นหัตถการยกกระชับผิวหน้าที่เห็นผลชัด รวดเร็ว และอยู่ได้นาน โดยเส้นไหมจะเริ่มสลายประมาณ 8 เดือน แต่ผลลัพธ์ต่อเนื่องที่ได้คือคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวเต่งตึง ใบหน้ายกกระชับ เห็นผลนานถึง 2 ปีเลยทีเดียว

ร้อยไหม คืออะไร

ชนิดของเส้นไหม ที่นิยมใช้ในการร้อยไหม

สำหรับเส้นไหมที่มีการนำมาทำหัตถการร้อยไหมนั้น เป็นไหมชนิดเดียวกับที่ใช้ในการศัลยกรรมผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ (polydioxanone หรือ PDO) ทำให้โอกาสแพ้ หรือเกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ กับผิวหนังนั้นน้อยมาก โดยเส้นตไหมที่นำมาใช้ทำหัตถการจะแบ่งออกได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ

  • ไหมแบบเงี่ยง
  • ไหมแบบเรียบ

ไหมแบบเงี่ยง

ประเภทไหมแบบเงี่ยงหรือแบบเกลียว ได้แก่ ไหมกุหลาบ ร้อยไหมก้างปลา นิยมใช้ร้อยเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เส้นไหมมีลักษะยาวและใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับไหมเส้นเล็ก มีเงี่ยงอยู่รอบ ๆ โดยเมื่อร้อยเข้าไปแล้วเงี่ยงของไหมนี่เองที่จะช่วยยกเนื้อที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้นมา

เหมาะกับคนที่มีปัญหาเหนียงย้อย คนที่อยากได้หน้าวีเชฟ ซึ่งในการร้อยจะใช้จำนวนเส้นไหมที่น้อยกว่าไหมสั้น เห็นผลรวดเร็ว และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

เหมาะกับ : การยกกระชับผิวบริเวณคาง หรือผิวที่มีความหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับเป็นพิเศษ

ไหมแบบเรียบ

ประเภทไหมแบบเรียบ ได้แก่ ไหมพีดีโอ (PDO) ไหมคอลลาเจน นิยมใช้ร้อยไหมเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับ เส้นไหมมีลักษณะเรียบ เส้นบาง ไม่มีเกลียว เหมาะสำหรับคนที่ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เมื่อร้อยไหมแล้วจะทำให้ผิวดูเฟิร์มมากขึ้น

ในการร้อยจะใช้จำนวนเส้นไหมเยอะ และด้วยความที่เป็นไหมเส้นเล็กจึงเหมาะสำหรับเป็นตัวช่วยเสริมไหมชนิดอื่น ที่มีขนาดใหญ่จนไม่สามารถร้อยจุดเล็ก ๆ บางจุดได้ เช่นบริเวณร่องแก้ม

เหมาะกับ : การร้อยไหมบริเวณคอ หน้าผาก ใต้ตา ช่วยให้มีความเต่งตึง การยกกระชับจะไม่เท่าไหมชนิดยาว

ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด

หากถามว่าร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข ซึ่งการร้อยไหมเพื่อดึงหน้าหรือยกกระชับหน้านั้น อาจจะต้องใช้ไหมที่แตกต่างกันออกไปตามปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์และความแข็งแรงของเส้นไหมหรือเงี่ยงที่เกาะผิวด้วย หากเป็นไหมที่มีความแข็งแรง ไม่หัก ไม่เปราะง่าย ก็จะช่วยยึดเกาะกับเนื้อเยื่อผิวได้ดีและแน่นยิ่งขึ้น ทำให้ไม่หลุดได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งเลือกร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด มีข้อแนะนำดังนี้

ร้อยไหมแบบไหนดี
  • ร้อยไหมแบบเงี่ยง (Barb thread) หรือร้อยไหมก้างปลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า หรือการยกกระชับผิวบริเวณแก้ม โดยจะมีลักษณะเป็นไหมเส้นยาวและใหญ่ มีเงี่ยงอยู่รอบ ๆ เส้นไหม ทำให้สามารถล็อกผิวได้ดี ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟและเรียวสวยขึ้นได้เป็นอย่างดีด้วย
  • ร้อยไหมแบบเรียบ (Mono thread) หรือไหมคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก หรือผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเป็นพิเศษ โดยเส้นไหมจะมีลักษณะเป็นแบบเรียบ เส้นบาง ไม่มีเงี่ยงบริเวณรอบ ๆ ซึ่งจะใช้สำหรับการกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับ ผิวดูแน่นขึ้น และช่วยในเรื่องของหลุมสิว รูขุมขนกว้าง และทำให้ผิวดูเฟิร์มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ การเลือกร้อยไหมแบบไหนที่ดีที่สุด ก็ควรเลือกใช้ไหมที่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเพื่อช่วยแก้ไขให้ตรงจุดมากที่สุด และเพื่อให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับคงสภาพได้อย่างยาวนาน

ร้อยไหมจุดไหนได้บ้าง

สามารถทำได้หลายจุดเพื่อปรับรูปหน้าให้กระชับ แก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ส่วนใหญ่นิยมร้อยไหมตามจุดต่าง ๆ ดังนี้

  • ร้อยไหมหน้าเรียว
  • ร้อยไหมจมูก
  • ร้อยไหมยกหางตา
  • ร้อยไหมแก้ม
  • ร้อยไหมยกมุมปาก
  • ร้อยไหมคอ
  • ร้อยไหมคิ้ว
ร้อยไหมจุดไหนได้บ้าง

ขั้นตอนการร้อยไหม

  1. หมอประเมินใบหน้าคนไข้ว่ามีปัญหาบริเวณใด ควรร้อยไหมแบบใด และระบุว่าจะใช้ไหมกี่เส้นในการร้อย
  2. ก่อนทำการร้อยไหมหมอจะทำความสะอาดใบหน้า ล้างเครื่องสำอาง และให้ยาชา
  3. หมอเริ่มทำการร้อยไหม ขั้นตอนการร้อยไหมนั้นจะใช้เวลาไม่นานและสามารถเห็นผลหลังทำได้ทันที
 

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

          หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหม คลินิกที่น่าเชื่อถือ ไหมที่ใช้ร้อย และข้อมูลอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ยังมีข้อที่ควรปฏิบัติดังนี้

  • เข้าปรึกษากับแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการงดรับประทานยาและวิตามินต่าง ๆ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนร้อยไหม 24 ชั่วโมง
  • งดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมง ก่อนร้อยไหม
  • ในวันที่เข้ารับการผ่าตัดให้งดใช้เครื่องสำอางต่าง ๆ บนใบหน้า 
  • ก่อนเข้ารับการร้อยไหมควรสระผมและแปรงฟันให้สะอาด
  • งดการแว็กซ์หรือโกนขนในบริเวณที่ต้องการร้อยไหมเป็นเวลา 3 วันก่อนทำ

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม

หลังร้อยไหมแล้วควรดูแลตัวเองตามข้อปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้าลง เป็นเวลา 4 ชม. หลังร้อยไหม
  • ไม่กดหรือนวดบริเวณที่ร้อยไหม
  • หลังร้อยไหมอาจมีอาการบวมหรือช้ำ สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลาประมาณ 3 วัน
  • ช่วง 2 สัปดาห์แรกไม่ควรทำกิจกรรมที่จะทำให้ไหมเคลื่อน เช่นการหัวเราะแรง ๆ
  • งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้แผลหายได้ตามปกติ
  • งดรับประทานอาหารปิ้งย่างหรือชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งอยู่หน้าเตาร้อน ๆ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังทำ

ไหมมิ้นท์ คืออะไร ?

ร้อยไหมมิ้นท์ (MINT LIFT) คือ นวัตกรรมเสริมความงามที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูป โดยการใช้ไหมลิฟติ้ง หรือไหมยึดเซลล์ผิวหน้า ซึ่งไหมมิ้นท์ย่อมาจากคำว่า “Minimally Invasive Nonsurgical Thread” เป็นไหมที่ผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ ทำมาจากวัสดุ Polydioxanone (PDO) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าให้ V-Shape ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า

นอกจากนี้ยังเป็นไหมมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายไปได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย และได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งอเมริกา (USFDA), เกาหลี (KFDA), ไทย (ThaiFDA), อินเดีย, เม็กซิโก และฝั่งยุโรป (CE mark)

ไหมมิ้นท์ คืออะไร

ไหมมิ้นท์มีลักษณะเด่นอย่างไร ?

ไหมมิ้นท์ หรือบางที่อาจจะเรียกว่า ไหมกุหลาบ จะมีลักษณะเป็นเส้นสีน้ำเงิน ที่ละลายได้เอง และถูกนำไปใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมหัวใจและใช้ในวงการแพทย์มานานกว่า 30 ปี โดยไหมมิ้นท์มีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างจากไหมอื่น ดังนี้

  • เงี่ยงไหมมิ้นท์ถูกออกแบบพิเศษให้มี 3 มิติ สามารถหมุนได้ 360 องศา ทำให้เพิ่มแรงยึดติดกับผิวหนังและดึงเนื้อเยื่อได้รอบทิศทาง แตกต่างจากไหมชนิดอื่นที่ยึดได้แค่ 2 มิติ
  • เงี่ยงของไหมมิ้นท์ ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีด้วยวิธีแบบกดอัด (Press Molding) ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของไหม MINT และมีการจดสิทธิบัตรคุ้มครองทั่วโลกทำให้ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้
  • เป็นไหมเส้นยาว มีความแข็งแรง ยกกระชับได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า ทำให้ทนต่อแรงดึง ไม่เปราะขาดง่าย และยึดเกาะกับผิวได้ดี
  • เส้นไหมมีแกนกลางที่แข็งแรงและมีเงี่ยงกางออกมา ไม่มีรอยบาก ไม่มีรอยเฉือน ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรงมาก 
  • มีการผูกปมไหมก่อนทำการตัดไหม ทำให้มีแรงเกี่ยวยึดกับผิวได้แน่นกว่าไหมทั่วไป
  • เทคนิคไหมมิ้นท์ช่วยยกกระชับผิวได้ดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า

ขนาดของไหมมิ้นท์ Mint Lift มีกี่แบบ ?

Mint Lift เป็นเส้นไหมยาวและมีเงี่ยงอยู่รอบเส้น ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับก้านดอกกุหลาบ โดยไหมมิ้นท์จะมีด้วยกัน 2 ขนาด คือ

  • เส้นไหมขนาด 43 cm ใช้สำหรับยกกระชับความหย่อนคล้อยของผิวหนังและปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
  • เส้นไหมขนาด 17 cm ใช้สำหรับร้อยเพื่อเก็บรายละเอียดในการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้สวยงามมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการร้อยไหม MINT LIFT มีอะไรบ้าง ?

  • ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ทำให้ผิวยกกระชับ กลับมาเต่งตึงเหมือนวัยเยาว์
  • สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
  • ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน
  • ช่วยลดริ้วรอย ช่วยทำให้ร่องลึกดูตื้นขึ้น
  • การร้อยไหมสามารถแก้ปัญหา หางตาตก มุมปากตก และปรับแนวคิ้วได้อีกด้วย
  • เส้นไหมมีความแข็งแรง อยู่ได้นาน สามารถทำซ้ำได้โดยไม่ทำให้เกิดอันตราย
  • ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น หลังทำดูแลตัวเองได้ง่าย
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ มีอาการบวมช้ำน้อย

ข้อควรระวังในการร้อยไหม MINT Lift มีอะไรบ้าง ?

สำหรับการร้อยไหมมิ้นท์ที่เป็นไหมแบบ 3 มิติ ซึ่งจะมีเงี่ยงหรือตะขอรอบทิศทาง หากทำกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือไม่มีประสบการณ์ ทำการรักษาโดยใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ร้อยไหมตื้นเกินไป ก็จะส่งผลให้เกิดรอยคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน หน้าบุ๋ม และเป็นอันตรายในระยะยาวได้ รวมทั้งหากมีการร้อยไหมทับซ้อนกันมากเกินไป ก็จะมีโอกาสเกิดพังผืดใต้ผิวหนังในอนาคตได้ ดังนั้นข้อควรระวังควรทำการรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์สูง และคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ

หลังจากร้อยไหม MINT ไปกี่วัน จึงเห็นผล

หลังทำการรักษาด้วยร้อยไหม MINT จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ซึ่งคนไข้จะรู้สึกว่าผิวหน้าที่หย่อนคล้อยจะดูยกกระชับขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นใน 1-2 เดือน โดยผิวจะค่อย ๆ กระชับ ร่องแก้ม ร่องมุมปาก จะดูตื้นขึ้น ทั้งนี้หลังทำควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาการบวมช้ำลดลงได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ได้ไวและนานขึ้น 

ร้อยไหมมิ้นท์ เป็นหัตถการปรับรูปหน้าที่จะช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง เรียบเนียน ด้วยวัสดุ Polydioxanone (PDO) ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เอง โดยไม่มีสารตกค้างใด ๆ ในร่างกาย และยังเป็นเส้นไหมที่มีความพิเศษ แข็งแรง ยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดี รวมถึงคงผลลัพธ์หน้าเรียวได้นานกว่าการร้อยไหมแบบทั่วไป

ร้อยไหม อันตรายไหม

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ไม่อันตรายต่อร่างกาย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ไหมที่มีคุณภาพ และเป็นไหมละลายที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. รวมทั้งทำในคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีขั้นตอนการทำหัตถการที่ปลอดเชื้อ มีความสะอาด ไม่มีการปนเปื้อน ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้เส้นไหมยังสามารถละลายหายไปได้เองเมื่อผ่านไปประมาณ 6-18 เดือน ทำให้ไม่มีสิ่งตกค้างในร่างกายจึงไม่เป็นอันตรายนั่นเอง 

โดยการร้อยไหมที่จะเป็นอันตรายมักจะเกิดจากการร้อยไหมปลอม ไหมที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. หรือทำกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญไม่มีประสบการณ์และใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลให้หน้าเบี้ยว หน้าเป็นลอนคลื่น หน้ายุบลงไปดูไม่สวยงาม รวมถึงการใช้ไหมปลอม หรือไหมที่ไม่สามารถละลายได้ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดเป็นพังผืดใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เป็นอันตรายในระยะยาวได้

ร้อยไหมปลอดภัยไหม

การร้อยไหม เจ็บหรือไม่ ?

เป็นคำถามที่หลายคนกังวลว่า การร้อยไหม เจ็บหรือไม่ ซึ่งการร้อยไหมเป็นหัตถการปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ด้วยวิธีร้อยไหมเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับ และในขั้นตอนการร้อยไหมแพทย์จะมีการฉีดยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บของคนไข้ ดังนั้นใครที่กลัวเจ็บจึงไม่ต้องกังวลเลย คุณจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยในขณะที่ทำการฉีดยาชาเท่านั้น

ปัญหาหลังร้อยไหมที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง

  • ผิวดูเป็นไต

หลังร้อยไหมแล้วผิวเกิดเป็นไต ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อน เป็นไต สามารถจับและสัมผัส หรือเห็นเป็นก้อนชัดได้ในช่วงแรก เกิดจากเส้นไหมดึงผิวหนังที่หย่อนคล้อยขึ้นไปรวมกัน เพื่อให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แต่อาการเหล่านี้จะไม่อยู่ถาวร สามารถหายไปได้เอง เมื่อไหมเกิดการเซตตัวและเข้าที่แล้ว

  • อาการไหมขาด

หากเกิดอาการไหมขาดอาจจะรู้สึกว่าไหมดีดหน้า หรือมีอาการเจ็บแปล๊บบริเวณที่ทำการร้อยไหมไป และอาจจะทำให้เกิดเป็นรอยช้ำม่วง ๆ ได้ ซึ่งอาการนี้มักมีสาเหตุมาจากการที่แพทย์ใช้เส้นไหมละลายที่ไม่มีคุณภาพ ใช้ไหมที่เส้นเล็กเกินไป หรือเลือกใช้ไหมผิดประเภทในจุดที่ทำการร้อยไหม รวมทั้งการแสดงสีหน้ามาก ๆ หรืออ้าปากกว้างเกินไปจนดึงรั้งไหม ซึ่งแพทย์ก็จะแนะนำในช่วงแรก ๆ หลังทำว่า ไม่ควรอ้าปากกว้าง หรือแปรงฟันแรง ๆ

  • หน้าเป็นคลื่น

เป็นปัญหาหลังร้อยไหมที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนไข้ทุกคน ซึ่งใบหน้าจะมีลักษณะเป็นคลื่น สัมผัสแล้วรู้สึกว่าผิวไม่เสมอกัน มีสาเหตุมาจากการดึงไหม แต่จะสามารถหายไปเองได้ เมื่อไหมเข้าที่เรียบร้อยแล้ว

  • หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว

เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการบวมของยาชา หรือการดึงไหมที่ยกหน้าขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่นาน โดยจะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ และสามารถหายไปได้เองภายใน 2 ชั่วโมงเท่านั้น

  • อาการไหมเคลื่อน

สำหรับอาการไหมเคลื่อนมักเกิดจากสาเหตุคล้าย ๆ กับอาการไหมขาด หลังจากที่มีการแสดงสีหน้าแรง ๆ หรือมีการเคี้ยวอาหารแรงจนเกินไป จะทำให้ผิวค่อย ๆ หย่อนคล้อยลงมาจากเดิมเล็กน้อย หรืออาจมีอาการเจ็บและมีอาการเขียวช้ำบริเวณที่ร้อยไหมได้

  • หลังทำแล้วใบหน้าไม่ยก

ในส่วนของปัญหาหลังทำแล้วหน้าไม่ยก ไม่เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของใบหน้า อาจเกิดจากการใช้ชนิดไหมหรือจำนวนเส้นไหมที่ไม่เหมาะสมกับปัญหาของผิวหน้า เส้นไหมไม่มีคุณภาพ ไม่มีความแข็งแรงในการดึงผิว รวมถึงความไม่ชำนาญของแพทย์ ก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

  • หน้าบุ๋ม หรือหน้ายุบ

ปัญหาหน้าบุ๋ม หรือหน้ายุบลงไป เกิดจากแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ไม่มีความชำนาญ อาจทำการดึงเส้นไหมตึงเกินไป ซึ่งหากคนไข้บางเคสมีผิวที่หย่อนคล้อยเยอะ ผิวก็จะถูกดึงรั้งมาก จึงทำให้เกิดรอยบุ๋มหรือเป็นร่องขึ้น และการดึงตึงเกินไปก็จะเสี่ยงต่อการเกิดไหมขาดได้ง่าย ทั้งนี้อาการหน้าบุ๋มจะสามารถหายไปเองได้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป

  • อาการแพ้ไหม

อาการแพ้ไหมที่ใช้ในการร้อยไหม จะทำให้ผิวมีลักษณะบวมแดง หรือมีตุ่มแดงเกิดขึ้นในบริเวณที่ร้อยไหม และอาจมีอาการคันบริเวณตุ่ม ซึ่งหากมีอาการแพ้ที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการปวดเรื้อรัง เส้นประสาทเสียหาย หรือมีเลือดออก จึงควรกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการและทำการรักษา

หน้าบวมหลังร้อยไหม เกิดจากสาเหตุอะไร

โดยปกติแล้วหลังทำการร้อยไหม หน้าจะมีอาการบวมมากขึ้น แล้วจะเริ่มยุบลงเองประมาณ 14 วัน และจะเข้าที่หรือเห็นผลชัดเจนประมาณ 2 เดือน แต่หากมีอาการบวมอยู่ แก้มยังไม่ยุบลง อาจเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้

  • มีเนื้อแก้มเยอะ

คนที่มีแก้มเยอะ อาจจะทำให้ดึงไหมตึงมากเกินไป หรือดึงไหมเยอะ ส่งผลให้เนื้อแก้มไปกองตรงโหนกแก้ม ทำให้หน้าดูใหญ่ หรือดูบวมมากขึ้น และอาจบวมนานเกิน 1 เดือน แล้วต้องรอให้ไหมเริ่มคลายลงประมาณ 2-3 เดือน ใบหน้าถึงจะค่อย ๆ ดีขึ้น ดังนั้นคนไข้ที่มีเนื้อแก้มเยอะ แพทย์จะแนะนำให้ทำการฉีดเมโสแฟตก่อนทำการร้อยไหม

  • ดึงไหมผิดแนว

การดึงไหมที่ผิวแนว เช่น ร้อยไหมเพื่อดึงร่องแก้มหรือแก้มตอบ โดยการดึงไหมขึ้นไปจะทำให้โหนกแก้มดูมีเนื้อเยอะขึ้น แก้มดูใหญ่ ใบหน้าก็จะดูบวมขึ้นด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วการร้อยไหมจะเป็นการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใกล้ ๆ มุมปาก และกรอบหน้ามากกว่า ทำให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึงได้ดียิ่งขึ้น

  • บวมเลือด, บวมน้ำ

อาการบวมเลือด เกิดจากการมีเลือดออกในชั้นผิว (hematoma) ส่วนอาการบวมน้ำนั้น จะเกิดจากการมีน้ำคั่งในชั้นผิวจากการอักเสบ (edema) ทำให้หลังร้อยไหมไปจะทำให้ใบหน้าดูบวม แต่อาการเหล่านี้จะสามารถยุบหายไปได้เองประมาณ 2-3 อาทิตย์ ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย

ร้อยไหม ฟิลเลอร์ ทำควบคู่กัน ช่วยยกกระชับหน้าได้ดีจริงไหม

การร้อยไหม เป็นหัตถการที่ใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงสอดเข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยเงี่ยงไหมจะทำการยึดเกาะกับชั้นผิวและดึงยกกระชับขึ้น ซึ่งจะเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับการยกกระชับผิว ยกหน้า ปรับรูปหน้าให้วีเชฟ ให้เรียวสวยได้รูป และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีเนื้อแก้มหย่อน ๆ หากทำการร้อยไหมจะช่วยยกผิวให้เต่งตึงขึ้นได้อย่างชัดเจน

ในส่วนของหัตถการ ฟิลเลอร์ นั้น จะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง ให้กลับมาดูอิ่มฟู กระชับ เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกในบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้าที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม พร้อมทั้งช่วยเสริมในส่วนที่ต้องการ เช่น หน้าผาก หรือขมับ และสามารถฉีดบริเวณคาง เพื่อปรับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าเรียวสวย กรอบหน้าคมชัด เหนียงลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ทั้ง 2 หัตถการนี้สามารถทำควบคู่กันได้ โดยการเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า และร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิว ซึ่งจะช่วยทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวสวย ผิวหน้าเรียบเนียน ดูนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัส และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ร้อยไหม ฟิลเลอร์

สำหรับผู้ที่สนใจอยากร้อยไหมมิ้นท์ หรือมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย อยากปรับรูปหน้า และลดริ้วรอย สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ All About Clinic  ของเราได้ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : Line @AACTHAILAND ค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

การร้อยไหมมิ้นท์จะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที แต่จะเข้าที่และชัดเจนที่สุดประมาณ​ 1-2 เดือน หลังจากร่างกายได้มีการพักฟื้นแล้ว โดยไหม MINT เป็นไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งจะสลายไปเองเมื่อมีระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6-8 เดือน แต่จะยังคงสภาพผิวกระชับต่อเนื่องได้นานถึง 12-18 เดือน เนื่องจากเส้นไหมมีความพิเศษที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ยาวนาน และสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในชั้นผิวหนังเพื่อช่วยพยุงผิวได้นานขึ้น ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์ก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหรือการใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ รวมถึงความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย

สำหรับการร้อยไหมสามารถทำควบคู่ไปกับการโบท็อกได้ โดยที่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากจะมีการทำงานกันคนละอย่างและคนละชั้นผิว ท่านสามารถทำวันเดียวกันได้เลยค่ะ

หลังจากการร้อยไหม ไม่ควรคว่ำหน้าหรือนอนตะแคง ประมาณ 1-3 วันแรก เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บในบริเวณที่ทำการร้อยไหม หรืออาจให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากมีสัมผัสผิวกับหมอน ขอแนะนำให้นอนหงายแทนค่ะ

หลังจากร้อยไหมไม่ควรทาครีมบำรุงภายใน 24  ชั่วโมง หรือแต่งหน้าในทันที เนื่องจากอาจจะทำให้ติดเชื้อบริเวณที่มีรอยเข็มได้ ซึ่งควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากนั้นสามารถทาครีมและแต่งหน้าได้ตามปกติ นอกจากนี้หลังจากร้อยไหมไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ในบริเวณตำแหน่งที่ร้อยไหมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ด้วยค่ะ

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม แก้มหย่อนคล้อย หรือต้องการจะยกกระชับใบหน้า
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า และไม่มีเวลาพักฟื้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง ผิวเรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด และต้องการเก็บกรอบหน้าให้ดูคมชัด
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก ตาตก มุมปากตก ร้อยไหมมิ้นท์ช่วยแก้ปัญหาในบริเวณจุดต่าง ๆ เหล่านี้ให้ยกกระชับขึ้นได้

สำหรับการร้อยไหมจะไม่ได้ช่วยลดแก้มหรือลดไขมันที่มีอยู่บนใบหน้า แต่การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูเต่งตึงและเรียวมากยิ่งขึ้น

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)