PRP คือ อะไร

PRP คืออะไร ทำความรู้จักกับโปรแกรมรักษาผมร่วง ซ่อมแซมผิวเสีย ด้วย PRP

บำรุงผิวพรรณและเส้นผมด้วย นวัตกรรม PRP หรือนวัตกรรม Platelet Rich Plasma คือโปรแกรมสำหรับฟื้นฟูเซลล์ผิวและรากผมด้วยเกล็ดเลือดที่มาจากร่างกายตัวเอง ผ่านหลักการนำเกล็ดเลือดมาปั่นแยกด้วยเครื่องเหวี่ยงสารจนได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นกว่าปกติ 3-4 เท่า ก่อนจะนำมาฉีดกลับเข้าไปในร่างกายหรือหนังศีรษะ มีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงทั้งเส้นผมและผิวพรรณ โดยจะช่วยเสริมสร้างการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ทำให้ผมหนาแข็งแรง และยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวแห้งให้กลับมาชุ่มชื้นมีสุขภาพดี

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

PRP คืออะไร สามารถช่วยแก้ปัญหาด้านใดได้บ้าง ?

การทำ PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือ กระบวนการนำเกล็ดเลือดมาปั่นแยกด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร จนเลือดแยกชั้นเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งในการปั่นแยกนี้จะทำให้ได้เกล็ดเลือดที่เข้มข้นกว่าเกล็ดเลือดทั่วไปถึง 3-4 เท่า เรียกว่า PRP 

หลังจากนำเลือดมาสกัดเรียบร้อยแล้ว เราจะนำมาผสมกับตัวยาที่ช่วยรักษาปัญหาโดยตรงแต่ละด้าน หากเคสไหนที่มีปัญหาค่อนข้างมากเราก็จะนำเซลล์รากผมมาสกัดเพิ่ม ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปฉีดที่บริเวณผิวพรรณหรือหนังศีรษะ โดยเกล็ดเลือดที่ฉีดเข้าไปจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ ช่วยฟื้นฟูผมเสีย ซ่อมแซมผิว ด้วยนวัตกรรม PRP ที่ช่วยบำรุงเส้นผมโดยวิธีที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเลือดที่นำมาปั่นแยกแล้วฉีดกลับเข้าไปก็คือเลือดของผู้ที่จะเข้ารับการฉีดนั่นเอง

PRP คือ

การทำ PRP ผม สามารถลดผมร่วงได้อย่างไร ?

การทำ PRP คืออาหารบำรุงผมที่มีคุณประโยชน์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะมากมาย มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะเป็นการแก้ปัญหาผมขาดร่วงที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่เสียเวลานาน และราคาไม่แพง โดยเกล็ดเลือดที่ฉีดเข้าไปจะไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผม ทำให้รากผมแข็งแรง ผมดูหนาขึ้น กระตุ้นผมเกิดใหม่ และช่วยชะลอการขาดหลุดร่วงของเส้นผม นอกจากนี้ในกรณีของผู้ที่ปลูกผม การทำ PRP ยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในการปลูกผมที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะตัว PRP ที่มีสารสกัดบำรุงแบบเข้มข้นจะช่วยบำรุงหนังศีรษะ ให้ร่างกายสามารถดึงเอาสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เข้าโปรแกรมรักษาผมร่วง

ทั้งนี้หากต้องการให้ผลลัพธ์การทำ PRP ผม สามารถลดผมร่วง บำรุงเส้นผมได้อย่างถาวร แนะนำให้ทำ PRP ผม อย่างต่อเนื่อง เพื่อยืดอายุไขของเซลล์รากผม โดยช่วงแรกแรกแนะนำให้ทำ PRP ร่วมกับการทานวิตามิน หรือรับการรักษาควบคู่ไปกับโปรแกรม Anti Hair Loss ที่ทางคลินิกได้ออกแบบให้สามารถแก้ไขปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้เฉพาะบุคคล

รีวิว PRP ผม

รีวิว PRP
รีวิว PRP
รีวิว PRP

PRP หน้าใส กระตุ้นคอลลาเจน เพื่อผิวสวย ดูสุขภาพดี

PRP สามารถช่วยบำรุงผิวได้ด้วยเช่นกัน โดยจะช่วยในการกระตุ้น การฟื้นฟูของเซลล์ผิวหนัง สร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ซ่อมแซมผิวส่วนที่เสื่อมสภาพให้แข็งแรง เพิ่มความอ่อนเยาว์ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง รอยเหี่ยวย่น รอยแผลเป็น และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผลลัพธ์หลังฉีด PRP ผิวหน้าจะเริ่มกระตุ้นคอลลาเจนใต้เซลล์ผิวหลัง และผิวหน้าจะเริ่มใสแบบชัดเจนในช่วง 3 เดือน และจะเริ่มกระชับ ดูสุขภาพดียิ่งขึ้นเมื่อมีการทำ PRP อย่างต่อเนื่องค่ะ

ขั้นตอนการทำ PRP และการเตรียมตัว

  1. ก่อนอื่นต้องประเมินปริมาณของเลือดที่จะใช้ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่คนไข้ต้องการฉีด โดยขั้นตอนนี้หมอจะเป็นผู้ประเมิน
  2. นำเลือดที่ได้มาเข้าสู่กระบวนการปั่นแยก PRP
  3. คัดเลือกเกล็ดเลือดที่มีความสมบูรณ์ เพื่อนำมาใช้ในการฉีดเข้าสู่ร่างกายคนไข้ต่อไป
  4. นำเกล็ดเลือดที่สมบูรณ์มาฉีดเข้าที่ผิวหน้าหรือหนังศีรษะ เพื่อฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย

การเตรียมตัวก่อนทำ PRP

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
  2. ก่อนทำ 2-3 วัน ห้ามรับประทานยากลุ่ม ASA หรือ NSIAD 
  3. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อย 2 ลิตร
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การดูแลตัวเองหลังทำ PRP

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
  2. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย
  3. หากฉีด PRP ผม ห้ามให้ผมโดนน้ำประมาณ 24 ชั่วโมง
  4. หากฉีดบริเวณผิวหน้า ช่วง 4-5 ชั่วโมงแรกหลังฉีดควรงดการล้างหน้า
  5. เลี่ยงการเจอแดด

การทำ PRP มีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

การทำ PRP นั้น เป็นนวัตกรรมการดูแลตัวเองในอีกระดับ ไม่ว่าท่านจะมีปัญหาเรื่องเส้นผมที่ไม่แข็งแรง หรือผิวพรรณไม่สดใส การทำ PRP ก็ตอบโจทย์และช่วยให้ท่านกลับมามีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งดูสุขภาพดี เส้นผมแข็งแรง ลดปัญหาผมร่วงผมบาง แต่สำหรับท่านใดที่พบปัญหาผมบาง หัวล้านจากกรรมพันธุ์นั้น อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงแนวทางแก้ปัญหาด้วยหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยข้อดีของการทำ PRP นั้นมีดังนี้

  • ช่วยให้รากผมแข็งแรง
  • กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม
  • ช่วยชะลอการขาดหลุดร่วงของเส้นผม
  • ฟื้นฟูผมบางกลางศีรษะให้หนาแน่น โดยไม่ต้องย้ายรากผม
  • ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ผิวใสฉ่ำน้ำ
  • ช่วยเรื่องหลุมสิว รอยแผลเป็นให้จางลง
  • เพิ่มคอลลาเจนให้ผิว

PRP เหมาะกับใครบ้าง

สำหรับโปรแกรม PRP คือ โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสภาพปัญหาผิวและเส้นผมที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น

  • คนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพหนังศีรษะ
  • คนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง
  • คนที่มีปัญหาผมเส้นเล็ก
  • คนที่ปลูกผม ควรทำ PRP เพื่อกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม
  • คนที่ผิวมีรอยเหี่ยวย่น
  • คนที่มีปัญหาริ้วรอย
  • คนที่มีปัญหาผิวแห้ง

การทำ PRP ราคาเริ่มต้นกี่บาท ?

สำหรับราคาในการทำ PRP ผิวหน้าและทำ PRP ผม จะแตกต่างกัน โดย PRP หน้าใส ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 บาท ส่วน PRP ผม ราคาเริ่มต้นที่ 3,999 ซึ่งท่านสามารถเลือกทำได้แบบเป็นครั้งหรือเป็นแพคเกจโปรโมชั่นปัจจุบันก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ที่ All About Clinic ยังมีโปรแกรม Premium PRP Plus ที่ราคาเริ่มต้น 5,000 บาท โดยโปรแกรมนี้จะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และรวดเร็ว เห็นผลชัดเจน 

Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ PRP

โปรแกรมการฟื้นบำรุงด้วย PRP คือหัตถการที่ควรทำหลายครั้งติดต่อกัน เพื่อผลลัพธ์ที่จะมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยส่วนมากแล้วทางคลินิกมักจะจัดโปรโมชั่นเป็นราคาคอร์ส คอร์สละ 5 ครั้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 50,000 บาท ทุกขั้นตอนมีการประเมินและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่จะสร้างความพึงพอใจอย่างแน่นอน

การทำ PRP คือการฉีดเกล็ดเลือดเข้าไปในร่างกายของคนไข้ แต่ต้องบอกว่าขั้นตอนการทำนั้นไม่เจ็บเลย เพราะแพทย์จะมีการประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการปวดขณะที่ฉีด ทั้งยังเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน ไม่มีการผ่าตัดหรือเปิดแผลใด ๆ เป็นการทำโปรแกรมบำรุงเส้นผมและผิวพรรณที่สะดวกและเห็นผลลัพธ์ได้ดีมาก ๆ

การทำ PRP ไม่ได้เห็นผลชัดเจนตั้งแต่ทำครั้งแรก แต่ควรทำเป็นประจำเพื่อที่ร่างกายจะได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ โดยจะเริ่มเห็นผลถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อทำไปแล้วประมาณ 3-6 เดือน หากต้องการให้เห็นผลในระยะยาวควรทำต่อกันอีกเรื่อย ๆ

การทำ PRP เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมาก แทบไม่เป็นอันตรายเลยเพราะเกล็ดเลือดที่นำมาฉีดเข้าร่างกายนั้น ก็เป็นเลือดจากร่างกายของคนไข้เอง จึงมั่นใจได้เลยถึงเรื่องความปลอดภัย และโอกาสเกิดการแพ้หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ก็น้อยมากเช่นกัน

หลังจากทำ PRP ครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้วก็จะเห็นผลระยะยาว โดยจะอยู่ได้ 1-3 ปีตามอายุขัยของเส้นผม จะไม่เห็นผลถาวร เนื่องจากเซลล์รากผมดั้งเดิมไม่ใช่รากผมถาวร มีโอกาสเสื่อมสภาพได้ แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการทำ PRP อีกครั้งได้

การทำ PRP จะช่วยบำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง ชะลออาการผมร่วง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม และช่วยฟื้นฟูผมให้กลับมาหนาโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดย้ายรากผม นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว แก้ปัญหาผิวแห้ง รอยเหี่ยวย่น และรอยแผลเป็นได้

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวสามารถทำได้ ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคเกล็ดเลือดจาง หรือ ITP (โรคเกล็ดเลือดจางเป็นคนละโรคกับโรคเลือดจาง) โดยโรคเลือดจางสามารถทำได้ เนื่องจากเป็นโรคที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ แต่ไม่ใช่เกล็ดเลือด

ในส่วนของโรคมะเร็งก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่มีข้อจำกัดคือ เนื่องจากคนไข้ประสบปัญหาผมร่วงจากการทำคีโม ซึ่งเป็นภาวะที่เรียกว่า Anagen effluvium คุณหมอจึงแนะนำให้ท่านทำคีโมให้ครบก่อน แล้วค่อยมากระตุ้น PRP จะเห็นผลได้ดีกว่าในระยะยาว

ไม่สามารถใช้เลือดหรือเกล็ดเลือดของผู้อื่นแทนได้ ต้องใช้เลือดของตัวเองเท่านั้น เพื่อป้องกันความสะอาดและโรคติดต่อต่าง ๆ ที่สามารถติดต่อผ่านทางกระแสเลือดได้ รวมทั้งการเข้ากันของกรุ๊ปเลือดด้วยค่ะ