Exosome หรือ เอ็กโซโซม นวัตกรรมฟื้นฟูผิวตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงในวงการความงามในปีนี้ ซึ่งเอ็กโซโซมเป็นสารที่ถูกแยกออกมาจาก Stem cell โดยมีจุดเด่นที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้เข้าถึงเซลล์ต่าง ๆ ได้ดีกว่าและฟื้นบำรุงได้ลึกกว่าสเต็มเซลล์ พร้อมยังมีประโยชน์ในการรักษาและฟื้นฟูผิวหน้า กู้คืนผิวเสียให้กลับมาแข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ และสดใสมากขึ้น การใช้ exosome ฉีดหน้า จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหย่อนคล้อยและลดเลือนริ้วรอย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้สุขภาพผิวดูดีขึ้น และที่สำคัญยังเป็นนวัตกรรมที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยสำหรับผิวหน้าของทุกสภาพผิว
Exosome คือ สารที่แยกออกมาจากสเต็มเซลล์ (Stem cell) ที่เป็นโมเลกุลอนุภาคนาโนขนาดเล็ก ซึ่งจะมีลักษณะเป็นวงกลมขนาดเพียง 30-100 นาโนเมตร เล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1/1000 เท่า และเป็นเทคโนโลยีที่มีองค์ประกอบของสารชีวโมเลกุล 1,000 ชนิด เช่น Cytokines, Growth factors, Micro RNA, Genetic information และโปรตีนขนาดเล็กอีกหลายชนิดมากกว่าใน PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นเป็นพันเท่า ซึ่งจะช่วยให้เซลล์สามารถเข้าซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์บริเวณที่เสื่อมสภาพได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีน (Epigenetic) รวมทั้งยังช่วยต้านและยับยั้งกลไกการอักเสบ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เติมความชุ่มชื้น ชะลอความชราของเซลล์ ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยกระตุ้นและซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ในระบบรากผมและหนังศีรษะให้ทำงานได้อย่างดีขึ้นมากด้วย
อย่างที่ได้ทราบไปแล้วว่า Exosome Skin booster แยกออกมาจากสเต็มเซลล์ ซึ่งการทำงานของสเต็มเซลล์นั้นก็จะมีการปล่อยสารที่ชื่อว่า Exosome หรือเอ็กโซโซม ออกมา โดยที่จะตรงเข้าไปช่วยฟื้นฟูเซลล์โดยรอบให้กลับมาสดใสและอ่อนเยาว์อีกครั้ง แต่การใช้สเต็มเซลล์ก็มีข้อจำกัดของปริมาณเอ็กโซโซมที่ถูกปล่อยออกมา และไม่รู้เลยว่าจะปล่อยออกมาเท่าไหร่ จึงได้เกิดเทคโนโลยีการสกัดเอ็กโซโซมออกจากสเต็มเซลล์ ซึ่งมีข้อดีที่จะช่วยกำหนดปริมาณที่จะใช้ในการฟื้นฟูจุดต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย และด้วยขนาดอนุภาคเล็กระดับนาโน เมื่อฉีดเข้าไปแล้วสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ จะสามารถเข้าไปในเซลล์โดยตรง เพื่อซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูการสร้างเซลล์ใหม่ได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีน (Epigenetic) โดยจะไปกระตุ้นสเต็มเซลล์รากผม สเต็มเซลล์เม็ดสี พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
สำหรับ Exosome therapy นั้น จะมีสารสำคัญที่ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลมากมายกว่า 1,000 ชนิด เช่น กรดไขมัน กรดอะมิโน โปรตีน และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิว โดยมีสารสำคัญหลัก ๆ ดังนี้
เป็นสารกลุ่มโปรตีนหรือโมเลกุลขนาดเล็กที่เกิดขึ้นภายในร่างกายโดยเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งจะมีหน้าที่เป็นตัวกำหนดการเจริญเติบโตของเซลล์ และปรับปรุงสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมถึงช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว ลดอาการอักเสบ ปรับภูมิคุ้มกันผิว และรักษาบาดแผลให้หายเร็วขึ้น
สารโปรตีนขนาดเล็กมีผลในการกระตุ้นและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ การสร้างเซลล์ใหม่ และเพิ่มจำนวนเซลล์ ทำให้เซลล์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่จะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และช่วยชะลอวัยให้กับผิว
miRNA ย่อมาจาก MicroRNA เป็นสายโมเลกุล RNA ขนาดเล็ก ที่จะช่วยปรับระดับการทำงานของยีนและควบคุมระดับ mRNA ภายในเซลล์ให้เป็นปกติ โดยกระตุ้นยีนที่ดีเพื่อสร้างโปรตีน และยับยั้งยีนที่ทำงานผิดปกติ เพื่อให้เซลล์อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต และมีประสิทธิภาพในการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวในระดับลึกถึงเซลล์ได้ดี
เป็นสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ ที่สเต็มเซลล์สร้างขึ้น เพื่อใช้ในการรักษาและปรับสมดุลภายในเซลล์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรดไขมัน กรดอะมิโน โปรตีน เป็นต้น โดยสารเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการทำงานของเซลล์และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ที่จะมีผลต่อการเจริญเติบโต การฟื้นฟู ปรับปรุงสุขภาพของผิวให้ดูสมบูรณ์ และมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับการรักษาด้วย exosome ฉีดหน้า ซึ่งจะสามารถฉีดได้ทั้งใบหน้าและหนังศีรษะ โดยการฉีดบริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก ใต้ตา รอบดวงตา ระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม แก้ม กรอบหน้า หรือฉีดได้ทั่วใบหน้าเลย รวมถึงสามารถฉีดบริเวณลำคอก็ได้เช่นกัน และในส่วนของการฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง จะช่วยทำให้รากผมและเส้นผมมีความแข็งแรงและหนานแน่นมากขึ้นได้ด้วย
เป็น Exosome skin booster จากบริษัทประเทศเกาหลีใต้อย่าง Regenbogen ซึ่ง EXOXE จะมีความเข้มข้นของ Exosome 6,000 ล้าน Particles จาก Source Amniotic Fluid สกินบูสเตอร์เจ้าแรกในเกาหลี ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยแก้ความบกพร่องของสภาพผิวได้อย่างคลอบคลุม
ASCE+ SRLV Lypophilized Powder เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เด่นในเรื่องของ Exosome มากเช่นกัน โดยเป็นนวัตกรรมการสกัด ExoSCRT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับโลกที่จัดทำเพื่อแยกเอ็กโซโซมบริสุทธิ์ ทำให้สารมีโมเลกุลที่เล็กและสามารถซึมเข้าผิวได้ไว และมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการสกัดจากแลป ExoCoBio เฉพาะที่เกาหลี ซึ่งจะเหมาะกับผู้เป็นผิวแพ้ง่าย ผิวอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ฟื้นฟูผิวและปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์
เป็นนวัตกรรมการสกัด Exosome เดียวกันกับ ASCE+ เพื่อแยกเอ็กโซโซมบริสุทธิ์ โดยมีความเข้มข้นของเอ็กโซโซมถึง 5 ล้าน โดดเด่นทั้งช่วยบำรุงใบหน้าและเส้นผม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผิว รอยลึกดูจางลง และเป็นอาหารให้เส้นผมดูเงางาม พร้อมกระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่อีกด้วย
P198 ExoHealer Mega Exosome Filcore SB มีจำนวนเอ็กโชโซมมากถึง 245.7 billion Particles ที่จะซ่อมแซมได้ลึกระดับเซลล์ แก้ปัญหาเซลล์เสื่อม ลดการอักเสบ กระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว และฟื้นฟูได้ลึกจากภายในสู่ภายนอก
เอ็กโซโซมเป็นสารที่ถูกปล่อยออกมาจากสเต็มเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีอนุภาคขนาดเล็กระดับนาโน โดยมีขนาดเล็กกว่าเซลล์โดยทั่วไปถึง 1/1,000 เท่า และมีขนาดของอนุภาคเพียง 30-100 นาโนเมตร และมีสารประกอบหลักสำคัญ เช่น Cytokines, Growth factors, Micro RNA, Biological compounds และโปรตีนขนาดเล็กอีกมากมาย ที่จะช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพิ่มจำนวนเซลล์ ปรับภูมิคุ้มกันผิว ต่อต้านการแพ้ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ และเป็น Anti-aging ของผิว ทำให้เซลล์ผิวดูเด็กลงและช่วยชะลอวัย โดยการเป็นสารสกัดจากเต็มเซลล์ที่เข้มข้นถึง 6000 ล้าน Particles จึงช่วยฟื้นฟูได้ดีที่สุด
สำหรับ Rejuran จะเป็นสารสกัดเข้มข้นจากปลาแซลมอน ที่นำมาสกัดสารที่เรียกว่า Polynucleotide (PN) ซึ่งจะเป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด โดยจะช่วยเร่งขบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้น กระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม
โดยที่ทั้งสองนวัตกรรมนี้ จะมีความแตกต่างกันที่สารประกอบหลัก โดยที่รีจูรันจะมีสารประกอบหลักอย่าง โพลีนิวคลีโอไทด์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และเอ็กโซโซมจะมีจุดเด่นที่อนุภาคขนาดเล็กในระดับนาโน ทำให้สามารถเข้าไปบำรุงและฟื้นฟูผิวได้ลึกกว่าการใช้สเต็มเซลล์หรือรักษาวิธีอื่น ๆ และช่วยในเรื่องของการสร้างเซลล์ใหม่ให้กลับมาแข็งแรง ในส่วนของรีจูรันนั้นจะช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่มีอยู่ให้แข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของทั้งเอ็กโซโซมและรีจูรันนี้ยังเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารสังเคราะห์ จึงปราศจากสารเคมี ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้ต่ำมาก จึงมีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้ท่านสามารถทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
การเตรียมตัวก่อนฉีดเอ็กโซโซม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีดังนี้
หลังจากทำการฉีดเอ็กโซโซมแล้ว คนไข้จะต้องดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลนาน โดยมีวิธีดูแลตัวเองดังนี้
Exosome ราคาเท่าไหร่ คงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนสนใจทำเกิดความสงสัย ซึ่งราคาของเอ็กโซโซมก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคลินิก โดยราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณของตัวยาที่ใช้ หรือปัญหาของคนไข้ที่ต้องการแก้ไข รวมถึงขั้นตอนเฉพาะ และความชำนาญของแพทย์แต่ละคลินิกหรือสถานพยาบาลด้วย ซึ่งที่ All About Clinic ของเรานี้ คุณก็สามารถติดตามโปรโมชั่น และส่วนลดต่าง ๆ ตลอดทั้งเดือนได้ที่ : รวมโปรโมชั่น All About Clinic หรือสอบถามได้ทาง inbox facebook ของคลินิก และ Line @AACTHAILAND
สำหรับข้อดีของการรักษาด้วยเอ็กโซโซมนั้น จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่แสบ ไม่เจ็บ ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเห็นผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังสามารถทำรวมกับการรักษาอื่น ๆ ได้ เช่น ทำควบคู่กับการรักษาเลเซอร์อย่างอื่น โดยการฉีดเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการเลเซอร์ในครั้งถัดไป ซึ่งจะส่งผลให้การตอบสนองต่อการเลเซอร์ดีขึ้น และสามารถทำพร้อมทรีตเมนต์ผมอื่น ๆ หรือทำหลัง ปลูกผมถาวร แล้ว เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับรากผมมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้วคนไข้จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวที่นุ่มชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้นใน 3-7 วัน หลังทำเพียงครั้งแรก และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นหากทำอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป ทั้งนี้ระยะเวลาเห็นผลก็จะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล โดยจะขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และร่างกายของคนคนไข้แต่ละคนค่ะ
ในส่วนของการฉีดบริเวณศีรษะจะเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-7 วันหลังฉีด คนไข้จะรู้สึกว่ามีอาการผมร่วงลดลง และผมจะเริ่มงอกขึ้นใหม่ภายใน 1-3 เดือน จนเห็นผมหนาและแข็งแรง ประมาณ 2-4 เดือนค่ะ
การฉีดเอ็กโซโซมควรทำอย่างน้อย 3-5 ครั้ง โดยห่างกันทุก 1 เดือน ซึ่งแต่ละครั้งผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี โดยขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงการดูแลผิวหลังฉีดด้วย ซึ่งหลังจากทำครบ 3-5 ครั้งแล้ว สามารถทำต่อเนื่องได้ทุก ๆ 6-12 เดือน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์และคงการรักษาที่มีประสิทธิภาพไว้ ทั้งนี้ จำนวนครั้งในการรักษาจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและปัญหาของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังฉีด โดยก่อนฉีดแพทย์จะทำการแปะยาชา ระหว่างฉีดจะไม่รู้สึกเจ็บ ตัวยาไม่แสบผิว และอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยคือ จะมีรอยแดง และตุ่มขึ้นบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะสามารถหายไปได้เองในระยะเวลาไม่นาน และในวันรุ่งขึ้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเลยค่ะ
อ่านบทความล่าสุด
รับสิทธิ์ส่วนลด 60% ทุกบริการ