ดึงหน้า - face lock

ดึงหน้า (Face Lock) คืออะไร ? หน้าเหี่ยวมาก ช่วยได้ไหม หลังทำอยู่ได้กี่ปี ?

เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อจะเริ่มมีการสลายตามอายุ ส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อย เหี่ยว ไม่กระชับเหมือนเดิม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ขาดการดูแล บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ที่ใบหน้าจะเริ่มขาดความกระชับเร็วกว่าปกติ ซึ่งหากอยากให้ใบหน้าดูเด็กกว่าใบ มีความตึง ผิวไม่หย่อนมากไปกว่าเดิม ทุกวันนี้ก็มีหัตถการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับผิว อย่างการ ดึงหน้า (Face Lock หรือบางท่านอาจจะรู้จักในชื่อ Face Lift) ที่ถือเป็นการทำศัลยกรรมในกลุ่มยกกระชับที่เห็นผลชัด และอยู่ได้นานที่สุด

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

การศัลยกรรมดึงหน้าคืออะไร ?

การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lock) คือ การผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหน้าจากเดิมที่มีความหย่อนคล้อย ให้ผิวกระชับ และลดรอยเหี่ยวย่น หรือลดร่องรอยของความสูงวัย อย่างบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ถุงใต้ตา ให้กระชับและตึงมากยิ่งขึ้น หลังทำใบหน้าจะดูเด็กลงทันที เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ แก้มห้อย โดยการผ่าตัดจะทำการตัดผิวหนังส่วนเกินออก และเย็บแผลซ่อนตะเข็บในบริเวณที่สังเกตได้ยาก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเนียน ธรรมชาติ และแทบจะมองไม่เห็นแผลหลังผ่าตัด

ดึงหน้า คืออะไร

ข้อดีของการดึงหน้า

  • สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที
  • ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปหน้าเฉพาะจุดเช่น ยกคิ้ว หรือ ยกหางตา

ข้อเสียของการดึงหน้า

  • มีรอยแผลหลังผ่าตัด แต่ส่วนมากจะมีการซ่อนรอยแผลไม่ให้สังเกตเห็นได้ชัด
  • หลังทำอาจจะมีอาการบวม 
  • ต้องมีการดูแลแผลอย่างเคร่งครัด

การผ่าตัดดึงหน้า สามารถดึงในจุดไหนได้บ้าง

ในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อดึงหน้านั้น สามารถแบ่งเป็นใบหน้า 4 ส่วนหลัก ๆ ได้ดังนี้

ดึงหน้าจุดไหนได้บ้าง

Forehead Lift หน้าผาก

สำหรับการดึงหน้าในส่วนนี้ จะเป็นใบหน้าช่วงบนบริเวณหน้าผากถึงคิ้ว เหมาะกับคนที่มีรอยย่น หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก คิ้วตก หรือช่วงผิวหนังเหนือคิ้วมีความหย่อน ทำให้ตาดูง่วง และมีอายุ

Upper หน้าส่วนบนและหางตา

การดึงหน้าบริเวณใบหน้าส่วน Upper จะเหมาะกับกลุ่มที่มีปัญหาริ้วรอยตีนกาเยอะ มีถุงใต้ตา จะทำการดึงในบริเวณช่วงหางตายาวไปถึงขมับ ทำให้ช่วงโหนกแก้มยกขึ้น หน้าดูอิ่มมากขึ้น

Middle หน้าส่วนกลาง

การดึงหน้าบริเวณใบหน้าส่วนกลางจะเน้นไปที่การยกกระชับหน้าแก้มที่ห้อยลง ร่องแก้มลึก ทำให้ใบหน้าดูละมุนมากยิ่งขึ้น

Lower หน้าส่วนล่าง

การดึงหน้าในบริเวณ Lower จะเน้นไปที่การดึงหน้าบริเวณหน้าแก้มที่ห้อยไปยังบริเวณริมฝีปาก ทำให้เกิดร่องน้ำหมาก รวมไปถึงผิวที่ไม่กระชับทำให้เกิดเหนียงรอบใบหน้า

นอกจากการดึงหน้าใน 4 ส่วนหลัก ๆ  แล้ว การผ่าตัดยกกระชับยังนิยมทำควบคู่ไปกัน การดึงคอ เพราะช่วงคอเป็นส่วนที่ต่อจากใบหน้า หากผิวคอดูเหี่ยวย่น ก็จะทำให้ดูมีอายุขึ้นได้ค่ะ

  • การดึงคอ (Neck Lift) การทำศัลยกรรมดึงคือ นิยมทำพร้อม ๆ กับการดึงหน้า เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคอมีรอยพับ เหี่ยวย่น หย่อนคล้อย หรือมีเหนียงมากบริเวณใต้คางจนเห็นได้ชัด

ดึงหน้า ต้องพักฟื้นนานไหม? หลังดึงหน้า สามารถอยู่ได้กี่ปี ?

หลังจากดึงหน้าทันที ควรมีการพักฟื้นอย่างน้อย 2-3 วัน โดยงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้หน้ามีการกระทบกระเทือน ระหว่างนี้ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำ ส่วนการใช้ผ้า Support รัดกรอบหน้า แนะนำว่าให้ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัดอาจจะพบอาการชาบนใบหน้าได้ แต่จะลดน้อยลงหลังจากผ่าตัดภายใน 2-3 เดือน และอาการต่างๆ จะหายสนิทภายใน 6 เดือน 

หลายคนอาจจะสงสัย ว่าการดึงหน้าอยู่ได้นานไหม ? กี่ปีจึงจะสามารถทำซ้ำได้ ซึ่งคำตอบคือหลังจากที่ทำการผ่าตัดไปแล้ว ลักษณะของผิวหน้าเราจะดูอ่อนวัยมากขึ้น หลังจากนั้นผิวหน้าเราก็จะค่อยๆ หย่อนคล้อยไปตามวัยปกติ โดยส่วนมากหลังทำ 5-10 ปี ก็จะมาปรึกษา เพื่อทำการดึงหน้าใหม่อีกรอบค่ะ

แน่นอนว่าหลังทำการผ่าตัดหากมีการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น มีการนวดเพื่อกระชับ นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การทานอาหารช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือการทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนสม่ำเสมอ ก็จะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ของการดึงหน้าได้นานมากขึ้นค่ะ

การกึงหน้า เหมาะกับใคร

ดึงหน้า (Face Lift) เจ็บไหม

การดึงหน้า เป็นการทำหัตถการเพื่อยกกระชับในผิวหน้าชั้นลึก (SMAS) การผ่าตัดสามารถทำได้ทั้งวิธีดมยาสลบหรือฉีดยาชา ซึ่งหากใช้ยาชา จะเจ็บเล็กน้อยตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังจากทำเสร็จยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการปวดตึงใบหน้าที่สามารถบรรเทาอาการได้โดยการทานยาแก้ปวด โดยอาการปวดบวมตึงจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-4 วัน 

ผ่าตัด Face Lift ดึงหน้า ราคาเท่าไหร่

ราคาในการผ่าตัดดึงหน้านั้น เมื่อเทียบกับผลลัพธ์หลังทำที่ได้แล้ว ถือว่าไม่แพงอย่างที่คิด เพราะผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-10 ปี และสามารถเลือกทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาได้ โดยราคาเริ่มต้นที่ All About Clinic จะอยู่ที่ 30,000 บาทเป็นต้นไปค่ะ ท่านสามารถสอบถามโปรโมชั่นปัจจุบันได้ ที่ช่องทาง Line @aacthailand หรือหน้าโปรโมชั่น All About Clinic

ความเสี่ยงของการดึงหน้า ที่อาจเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง

การทำหัตถการทุกชนิด ล้วนมีความเสี่ยง ไม่เว้นแม้แต่การผ่าตัดดึงหน้า โดยความเสี่ยงหรืออาการแทรกซ้อนที่สามารถพบได้หลังผ่าตัด มีดังนี้

1. อาการชา

หลังผ่าตัดบางท่านอาจจะพบอาการชาที่ผิวหน้าได้ โดยอาการชาจะพบ 2-3 เดือน เพราะเส้นประสาทภายในผิวหน้าได้รับการกระทบกระเทือนและยังไม่ได้สมานหรือฟื้นฟูตัวอย่างเต็มที่ แต่อาการจะดีขึ้นและหายไปเองประมาณ 6 เดือนหลังผ่าตัด

2. มีเลือดออกหรืออาการห้อเลือดบริเวณแผล

หลังผ่าตัดอาจจะพบเลือดตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการ เพราะในบางเคสอาจจะต้องทำการระบายเลือดที่ตกค้างออกเพิ่มเติม

3. หน้าตึง,ไม่เท่ากัน รู้สึกหน้าเบี้ยวเมื่อยิ้ม หรือแสดงสีหน้า

เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบางส่วนยังฟื้นฟูไม่เต็มที่ ทำให้เวลายิ้มหรือเลิกคิ้วใบหน้าไม่เท่ากัน หรือดูไม่ธรรมชาติ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 เดือน

4. การเกิดแผลเป็น

ในบางเคสอาจจะพบแผลเป็นคีลอยด์ตรงแผลผ่าตัดได้ เพราะผิวคนเอเชียจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้ง่าย การรักษาสามารถใช้วิธีการฉีดยา ผ่าตัด หรือเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นได้

5. การติดเชื้อ

การติดเชื้อเป็นอาการที่สามารถพบได้ แต่ไม่มาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในภาวะที่ภูมิคุ้มกันปกติ  มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่า 1%

6. ผมร่วง

บางท่านอาจจะพบว่ามีผมร่วงบริเวณที่ทำการผ่าตัด เกิดจากการดึงผิวที่มากเกินไป ส่วนมากอาการผมร่วงจะดีขึ้นเองภายใน 3-4 เดือน เส้นผมจะงอกขึ้นมาใหม่ แต่หากพบว่าภายใน 12 เดือน ผมบริเวณแผลผ่าตัดไม่งอกขึ้น สามารถปลูกผมทับรอยแผลเป็นได้ค่ะ

ผลข้างเคียงหลังดึงหน้าที่พบได้

เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า ใช้วิธีการแบบไหนได้บ้าง

การผ่าตัดดึงหน้าในแต่ละส่วน ทั้ง หน้าส่วนบน , หน้าส่วนกลาง , หน้าส่วนล่าง  หรือ การดึงคอ มีวิธีการผ่าตัดและซ่อนแผลแต่ละจุดที่ไม่เหมือนกัน แต่หลัก ๆ แล้ว สามารถแบ่งประเภท และเทคนิคการผ่าตัดออกได้ดังนี้

1. การผ่าตัดดึงหน้าแบบปกติ

สำหรับวิธีนี้จะเป็นการเปิดแผลยาว เพื่อดึงหน้าในบริเวณที่กำหนดไว้ ลักษณะแผลจะกรีดยาวไปตามกรอบหน้า บริเวณช่วงไรผม, แนวขมับ หรือหน้าใบหู โดยการซ่อนแผลจะพิจารณาว่าหน้าผากสูง หรือกว้างไปหรือไม่ หากมีปัญหาหัวเถิก หน้าผากสูงจะทำการซ่อนแผลตรงไรผม

2. การผ่าตัดดึงหน้าแบบแผลเล็ก

การผ่าตัดแบบแผลเล็ก จะเป็นการผ่าตัดดึงหน้าแบบเฉพาะส่วน เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อยมาก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณขมับถึงเหนือหู และช่วงกรอบหน้าเลยติ่งหูลงมา จากนั้นจะทำการเลาะไปถึงเนื้อเยื่อในชั้น SMAS และทำการจัดวางตำแหน่งให้มีความตึง แล้วจึงเย็บปิดแผล หลังผ่าแผลจะมีขนาดที่เล็ก สังเกตเห็นได้ยาก

3. การผ่าตัดโดยวิธีการส่องกล้อง (Endoscopic forehead lift)

วิธีนี้จะมีแผลเป็นที่น้อยกว่า แผลเล็ก พักฟื้นเร็วกว่าวิธีแรก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 เซนติเมตร 3-4 จุด และทำการผ่าตัดโดยการส่องกล้องเข้าไป แล้วจึงทำการดึงกล้ามเนื้อชั้นในชั้น SMAS ที่มีความหย่อนคล้อย กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ก่อนจะทำการยึดด้วย Endotine ซึ่งเป็นวัสดุมีลักษณะเหมือนเข็มหมุดขนาดเล็ก ซึ่งทำหน้าที่ช่วยยกกระชับ ยึดผิวหนัง และร่างกายสามารถสลายได้เอง โดยไม่มีผลข้างเคียง

หลังจากนั้น แพทย์จะทำการตัดแต่งผิวหนังส่วนนอก ให้มีความกระชับ และทำการเย็บปิดแผลตามลำดับค่ะ วิธีนี้จะทำให้แผลหลังผ่าตัดมีขนาดเล็ก และซ่อนอยู่บริเวณไรผม พักฟื้นน้อย และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

ข้อควรรู้  : Endotine เป็นวัสดุประเภท Bio-Plastic ที่ทำมาจากพืช ที่หลักการทำงานจะเหมือนกับเส้นไหม ที่ใช้ร้อยไหม คือมีเงี่ยงสำหรับเกี่ยวเพื่อยกกระชับแต่จะมีขนาดใหญ่กว่า สามารถย่อยสลายได้เหมือนไหมละลาย

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมยกกระชับ (Face Lock) และการดูแลหลังทำ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • งดทานยา, วิตามินเสริม หรือยาในกลุ่มยาแก้ปวด ลดไข้ ที่มีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ยาแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วันก่อนผ่าตัด
  • งดดื่มน้ำ และรับประทานอาหารก่อนผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง (สำหรับการผ่าตัดที่ใช้วิธีดมยาสลบ)
  • ควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดแต่งหน้าหรือทาสกินแคร์ก่อนเข้าผ่าตัด หากทาเล็บมาควรล้างเล็บออกก่อน
  • หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะโรคที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
เตรียมตัวก่อนดึงหน้า

การดูแลหลังทำการผ่าตัด

  • หลังผ่าตัดให้ทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม เป็นเวลา 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นสลับเย็นได้ถึง 2 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกาย หรืองดกิจกรรมทุกชนิดที่มีการกระทบกระเทือนต่อใบหน้า เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
  • นอนหมอนสูงเป็นเวลา 2  สัปดาห์ 
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อนเป็นเวลานานๆ 2 เดือน
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ

การดูแลแผลผ่าตัด

  • ระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำก่อนตัดไหม 
  • ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผลและบริเวณโดยรอบ จากนั้นทายา หรือขี้ผึ้งตามที่แพทย์แนะนำ
  • หลังผ่าตัด 7-14 วัน หากแผลแห้งก็สามารถเข้าไปตัดไหมได้ หรือเข้าไปตามนัดที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัด เพื่อตัดไหม และนัดติดตามผล

เปรียบเทียบหัตถการ ดึงหน้า vs ร้อยไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน

ในบรรดาหัตถการที่ช่วยยกกระชับ การร้อยไหม และการดึงหน้า ถือเป็นหัตถการที่เห็นผลหลังทำได้ทันที วิธีการจะเน้นไปที่มีการใช้วัสดุสอดเข้าไปใต้ผิวหน้า และทำการดึงเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับขึ้น โดยเราจะพาไปดูและเปรียบเทียบกันว่า ระหว่างการดึงหน้ากับร้อยไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน

ดึงหน้า กับ ร้อยไหม แบบไหนดีกว่ากัน

ดึงหน้า

การยกกระชับ : ยกกระชับได้ดีกว่า ผลลัพธ์ 5-10 ปี

ข้อดี 

  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
  • ช่วยยกกระชับผิวแบบเห็นได้ชัด
  • ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น
  • สามารถเลือกทำเฉพาะจุดได้

ข้อเสีย

  • มีแผลเป็นหลังทำ
  • ต้องผ่าตัด จึงต้องดูแลแผล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

 

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อยจากวัย

ร้อยไหม

การยกกระชับ : ยกกระชับได้ในระดับนึง ผลลัพธ์ 6-18 เดือน

ข้อดี 

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
  • ช่วยลดริ้วรอยกระตุ้นคอลลาเจน

ข้อเสีย

  • ต้องทำซ้ำบ่อย
  • หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากจะไม่ได้ผลเทียบเท่าการดึงหน้า

 

เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อยคล้อยไม่หนักมาก มีริ้วรอย ร่องตื้น ต้องการกระชับผิวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน

ผ่าตัดดึงหน้า ศัลยกรรมลดอายุที่ไหนดี

การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและชำนาญจากแพทย์สูงมาก เพราะบริเวณใบหน้ามีเส้นประสาทและกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ จำนวนมาก หากทำการผ่าตัดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจจะเจอปัญหาและผลกระทบตามมา เช่น ใบหน้าผิดรูป, การติดเชื้อ เกิดแผลเป็นรั้ง หรือใบหน้าไม่กระชับเท่าที่ควร เนื่องจากการดึงผิดชั้น

ดังนั้นหากต้องการดึงหน้า เพื่อลดอายุ จึงควรตรวจสอบว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์มีความชำนาญ อย่างที่ All About Clinic เรามีอาจารย์แพทย์ที่ชำนาญทางด้านศัลยกรรม  โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับดึงหน้า Face Lock โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้เลย

คำถามที่พบบ่อย

ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับว่าทำการผ่าตัดกี่จุดบ้าง ความยากง่ายของการผ่าตัด และการทำหัตถการรายการอื่น ๆ ร่วมด้วย หากเลือกทำเฉพาะจุดเล็ก ๆ ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ 2-3 ชั่วโมง หากยกกระชับทั้งหน้าก็จะใช้เวลานานขึ้นอยู่ที่ 4-5 ชั่วโมง ทั้งนี้แพทย์จะประเมินระยะเวลาในการผ่าตัดให้ก่อนค่ะ

สามารถทำได้ค่ะ แต่หากปัญหาหย่อนคล้อยอยู่ในบริเวณที่ไกลจากจุดเปิดแผลมาก จะไม่สามารถยกกระชับได้เต็มประสิทธิภาพเท่าการใช้ Endotine เพราะวัสดุ Endotine สามารถช่วยดึงผิวในจุดที่มีการเข้าถึงยากและช่วยยกกระชับผิวได้ดีกว่าการผ่าตัดปกติ

ปัจจุบันการดึงหน้า ไม่ได้เป็นหัตถการเฉพาะเพื่อลดวัยเท่านั้น แต่ยังสามารถทำการผ่าตัดเพื่อความสวยงามอย่างการผ่าตัดยกคิ้ว หรือยกหางตาแบบ Foxy Eyes เพื่อเพิ่มความเฉี่ยวให้กับใบหน้าได้ 

แต่ถ้าเน้นไปที่การผ่าตัดเพื่อให้หน้าเรียว ไม่ได้มีปัญหาผิวเหี่ยวไม่ยกกระชับนั้น การทำหัตถการอย่างร้อยไหม ฉีดแฟต โบท็อก หรือใช้คลื่นทำความร้อนใต้ผิวหนัง อย่าง ไฮฟู่ Ulthera ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะทำให้หน้าเรียวและราคาไม่สูง

บทความแนะนำ : รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียงกรอบหน้าชัด เห็นผลจริง เห็นผลไว มีอะไรบ้าง