เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อจะเริ่มมีการสลายตามอายุ ส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อย เหี่ยว ไม่กระชับเหมือนเดิม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ขาดการดูแล บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ที่ใบหน้าจะเริ่มขาดความกระชับเร็วกว่าปกติ ซึ่งหากอยากให้ใบหน้าดูเด็กกว่าใบ มีความตึง ผิวไม่หย่อนมากไปกว่าเดิม ทุกวันนี้ก็มีหัตถการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับผิว อย่างการ ดึงหน้า (Face Lock หรือบางท่านอาจจะรู้จักในชื่อ Face Lift) ที่ถือเป็นการทำศัลยกรรมในกลุ่มยกกระชับที่เห็นผลชัด และอยู่ได้นานที่สุด
การผ่าตัดดึงหน้า (Face Lock) คือ การผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหน้าจากเดิมที่มีความหย่อนคล้อย ให้ผิวกระชับ และลดรอยเหี่ยวย่น หรือลดร่องรอยของความสูงวัย อย่างบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ถุงใต้ตา ให้กระชับและตึงมากยิ่งขึ้น หลังทำใบหน้าจะดูเด็กลงทันที เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ แก้มห้อย โดยการผ่าตัดจะทำการตัดผิวหนังส่วนเกินออก และเย็บแผลซ่อนตะเข็บในบริเวณที่สังเกตได้ยาก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเนียน ธรรมชาติ และแทบจะมองไม่เห็นแผลหลังผ่าตัด
ในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อดึงหน้านั้น สามารถแบ่งเป็นใบหน้า 4 ส่วนหลัก ๆ ได้ดังนี้
สำหรับการดึงหน้าในส่วนนี้ จะเป็นใบหน้าช่วงบนบริเวณหน้าผากถึงคิ้ว เหมาะกับคนที่มีรอยย่น หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก คิ้วตก หรือช่วงผิวหนังเหนือคิ้วมีความหย่อน ทำให้ตาดูง่วง และมีอายุ
การดึงหน้าบริเวณใบหน้าส่วน Upper จะเหมาะกับกลุ่มที่มีปัญหาริ้วรอยตีนกาเยอะ มีถุงใต้ตา จะทำการดึงในบริเวณช่วงหางตายาวไปถึงขมับ ทำให้ช่วงโหนกแก้มยกขึ้น หน้าดูอิ่มมากขึ้น
การดึงหน้าบริเวณใบหน้าส่วนกลางจะเน้นไปที่การยกกระชับหน้าแก้มที่ห้อยลง ร่องแก้มลึก ทำให้ใบหน้าดูละมุนมากยิ่งขึ้น
การดึงหน้าในบริเวณ Lower จะเน้นไปที่การดึงหน้าบริเวณหน้าแก้มที่ห้อยไปยังบริเวณริมฝีปาก ทำให้เกิดร่องน้ำหมาก รวมไปถึงผิวที่ไม่กระชับทำให้เกิดเหนียงรอบใบหน้า
นอกจากการดึงหน้าใน 4 ส่วนหลัก ๆ แล้ว การผ่าตัดยกกระชับยังนิยมทำควบคู่ไปกัน การดึงคอ เพราะช่วงคอเป็นส่วนที่ต่อจากใบหน้า หากผิวคอดูเหี่ยวย่น ก็จะทำให้ดูมีอายุขึ้นได้ค่ะ
หลังจากดึงหน้าทันที ควรมีการพักฟื้นอย่างน้อย 2-3 วัน โดยงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้หน้ามีการกระทบกระเทือน ระหว่างนี้ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำ ส่วนการใช้ผ้า Support รัดกรอบหน้า แนะนำว่าให้ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัดอาจจะพบอาการชาบนใบหน้าได้ แต่จะลดน้อยลงหลังจากผ่าตัดภายใน 2-3 เดือน และอาการต่างๆ จะหายสนิทภายใน 6 เดือน
หลายคนอาจจะสงสัย ว่าการดึงหน้าอยู่ได้นานไหม ? กี่ปีจึงจะสามารถทำซ้ำได้ ซึ่งคำตอบคือหลังจากที่ทำการผ่าตัดไปแล้ว ลักษณะของผิวหน้าเราจะดูอ่อนวัยมากขึ้น หลังจากนั้นผิวหน้าเราก็จะค่อยๆ หย่อนคล้อยไปตามวัยปกติ โดยส่วนมากหลังทำ 5-10 ปี ก็จะมาปรึกษา เพื่อทำการดึงหน้าใหม่อีกรอบค่ะ
แน่นอนว่าหลังทำการผ่าตัดหากมีการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น มีการนวดเพื่อกระชับ นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การทานอาหารช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือการทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนสม่ำเสมอ ก็จะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ของการดึงหน้าได้นานมากขึ้นค่ะ
การดึงหน้า เป็นการทำหัตถการเพื่อยกกระชับในผิวหน้าชั้นลึก (SMAS) การผ่าตัดสามารถทำได้ทั้งวิธีดมยาสลบหรือฉีดยาชา ซึ่งหากใช้ยาชา จะเจ็บเล็กน้อยตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังจากทำเสร็จยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการปวดตึงใบหน้าที่สามารถบรรเทาอาการได้โดยการทานยาแก้ปวด โดยอาการปวดบวมตึงจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-4 วัน
ราคาในการผ่าตัดดึงหน้านั้น เมื่อเทียบกับผลลัพธ์หลังทำที่ได้แล้ว ถือว่าไม่แพงอย่างที่คิด เพราะผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-10 ปี และสามารถเลือกทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาได้ โดยราคาเริ่มต้นที่ All About Clinic จะอยู่ที่ 30,000 บาทเป็นต้นไปค่ะ ท่านสามารถสอบถามโปรโมชั่นปัจจุบันได้ ที่ช่องทาง Line @aacthailand หรือหน้าโปรโมชั่น All About Clinic
การทำหัตถการทุกชนิด ล้วนมีความเสี่ยง ไม่เว้นแม้แต่การผ่าตัดดึงหน้า โดยความเสี่ยงหรืออาการแทรกซ้อนที่สามารถพบได้หลังผ่าตัด มีดังนี้
หลังผ่าตัดบางท่านอาจจะพบอาการชาที่ผิวหน้าได้ โดยอาการชาจะพบ 2-3 เดือน เพราะเส้นประสาทภายในผิวหน้าได้รับการกระทบกระเทือนและยังไม่ได้สมานหรือฟื้นฟูตัวอย่างเต็มที่ แต่อาการจะดีขึ้นและหายไปเองประมาณ 6 เดือนหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดอาจจะพบเลือดตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการ เพราะในบางเคสอาจจะต้องทำการระบายเลือดที่ตกค้างออกเพิ่มเติม
เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบางส่วนยังฟื้นฟูไม่เต็มที่ ทำให้เวลายิ้มหรือเลิกคิ้วใบหน้าไม่เท่ากัน หรือดูไม่ธรรมชาติ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 เดือน
ในบางเคสอาจจะพบแผลเป็นคีลอยด์ตรงแผลผ่าตัดได้ เพราะผิวคนเอเชียจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้ง่าย การรักษาสามารถใช้วิธีการฉีดยา ผ่าตัด หรือเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นได้
การติดเชื้อเป็นอาการที่สามารถพบได้ แต่ไม่มาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในภาวะที่ภูมิคุ้มกันปกติ มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่า 1%
บางท่านอาจจะพบว่ามีผมร่วงบริเวณที่ทำการผ่าตัด เกิดจากการดึงผิวที่มากเกินไป ส่วนมากอาการผมร่วงจะดีขึ้นเองภายใน 3-4 เดือน เส้นผมจะงอกขึ้นมาใหม่ แต่หากพบว่าภายใน 12 เดือน ผมบริเวณแผลผ่าตัดไม่งอกขึ้น สามารถปลูกผมทับรอยแผลเป็นได้ค่ะ
การผ่าตัดดึงหน้าในแต่ละส่วน ทั้ง หน้าส่วนบน , หน้าส่วนกลาง , หน้าส่วนล่าง หรือ การดึงคอ มีวิธีการผ่าตัดและซ่อนแผลแต่ละจุดที่ไม่เหมือนกัน แต่หลัก ๆ แล้ว สามารถแบ่งประเภท และเทคนิคการผ่าตัดออกได้ดังนี้
สำหรับวิธีนี้จะเป็นการเปิดแผลยาว เพื่อดึงหน้าในบริเวณที่กำหนดไว้ ลักษณะแผลจะกรีดยาวไปตามกรอบหน้า บริเวณช่วงไรผม, แนวขมับ หรือหน้าใบหู โดยการซ่อนแผลจะพิจารณาว่าหน้าผากสูง หรือกว้างไปหรือไม่ หากมีปัญหาหัวเถิก หน้าผากสูงจะทำการซ่อนแผลตรงไรผม
การผ่าตัดแบบแผลเล็ก จะเป็นการผ่าตัดดึงหน้าแบบเฉพาะส่วน เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อยมาก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณขมับถึงเหนือหู และช่วงกรอบหน้าเลยติ่งหูลงมา จากนั้นจะทำการเลาะไปถึงเนื้อเยื่อในชั้น SMAS และทำการจัดวางตำแหน่งให้มีความตึง แล้วจึงเย็บปิดแผล หลังผ่าแผลจะมีขนาดที่เล็ก สังเกตเห็นได้ยาก
วิธีนี้จะมีแผลเป็นที่น้อยกว่า แผลเล็ก พักฟื้นเร็วกว่าวิธีแรก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 เซนติเมตร 3-4 จุด และทำการผ่าตัดโดยการส่องกล้องเข้าไป แล้วจึงทำการดึงกล้ามเนื้อชั้นในชั้น SMAS ที่มีความหย่อนคล้อย กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ก่อนจะทำการยึดด้วย Endotine ซึ่งเป็นวัสดุมีลักษณะเหมือนเข็มหมุดขนาดเล็ก ซึ่งทำหน้าที่ช่วยยกกระชับ ยึดผิวหนัง และร่างกายสามารถสลายได้เอง โดยไม่มีผลข้างเคียง
หลังจากนั้น แพทย์จะทำการตัดแต่งผิวหนังส่วนนอก ให้มีความกระชับ และทำการเย็บปิดแผลตามลำดับค่ะ วิธีนี้จะทำให้แผลหลังผ่าตัดมีขนาดเล็ก และซ่อนอยู่บริเวณไรผม พักฟื้นน้อย และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
ข้อควรรู้ : Endotine เป็นวัสดุประเภท Bio-Plastic ที่ทำมาจากพืช ที่หลักการทำงานจะเหมือนกับเส้นไหม ที่ใช้ร้อยไหม คือมีเงี่ยงสำหรับเกี่ยวเพื่อยกกระชับแต่จะมีขนาดใหญ่กว่า สามารถย่อยสลายได้เหมือนไหมละลาย
บทความที่น่าสนใจ : ร้อยไหม เจ็บไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร รวมเรื่องที่ต้องรู้ก่อนร้อยไหม
ในบรรดาหัตถการที่ช่วยยกกระชับ การร้อยไหม และการดึงหน้า ถือเป็นหัตถการที่เห็นผลหลังทำได้ทันที วิธีการจะเน้นไปที่มีการใช้วัสดุสอดเข้าไปใต้ผิวหน้า และทำการดึงเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับขึ้น โดยเราจะพาไปดูและเปรียบเทียบกันว่า ระหว่างการดึงหน้ากับร้อยไหม แบบไหนคุ้มกว่ากัน
การยกกระชับ : ยกกระชับได้ดีกว่า ผลลัพธ์ 5-10 ปี
ข้อดี
ข้อเสีย
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีปัญหาผิวเหี่ยว หย่อนคล้อยจากวัย
การยกกระชับ : ยกกระชับได้ในระดับนึง ผลลัพธ์ 6-18 เดือน
ข้อดี
ข้อเสีย
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อยคล้อยไม่หนักมาก มีริ้วรอย ร่องตื้น ต้องการกระชับผิวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและชำนาญจากแพทย์สูงมาก เพราะบริเวณใบหน้ามีเส้นประสาทและกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ จำนวนมาก หากทำการผ่าตัดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจจะเจอปัญหาและผลกระทบตามมา เช่น ใบหน้าผิดรูป, การติดเชื้อ เกิดแผลเป็นรั้ง หรือใบหน้าไม่กระชับเท่าที่ควร เนื่องจากการดึงผิดชั้น
ดังนั้นหากต้องการดึงหน้า เพื่อลดอายุ จึงควรตรวจสอบว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์มีความชำนาญ อย่างที่ All About Clinic เรามีอาจารย์แพทย์ที่ชำนาญทางด้านศัลยกรรม โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับดึงหน้า Face Lock โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้เลย
ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับว่าทำการผ่าตัดกี่จุดบ้าง ความยากง่ายของการผ่าตัด และการทำหัตถการรายการอื่น ๆ ร่วมด้วย หากเลือกทำเฉพาะจุดเล็ก ๆ ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ 2-3 ชั่วโมง หากยกกระชับทั้งหน้าก็จะใช้เวลานานขึ้นอยู่ที่ 4-5 ชั่วโมง ทั้งนี้แพทย์จะประเมินระยะเวลาในการผ่าตัดให้ก่อนค่ะ
สามารถทำได้ค่ะ แต่หากปัญหาหย่อนคล้อยอยู่ในบริเวณที่ไกลจากจุดเปิดแผลมาก จะไม่สามารถยกกระชับได้เต็มประสิทธิภาพเท่าการใช้ Endotine เพราะวัสดุ Endotine สามารถช่วยดึงผิวในจุดที่มีการเข้าถึงยากและช่วยยกกระชับผิวได้ดีกว่าการผ่าตัดปกติ
ปัจจุบันการดึงหน้า ไม่ได้เป็นหัตถการเฉพาะเพื่อลดวัยเท่านั้น แต่ยังสามารถทำการผ่าตัดเพื่อความสวยงามอย่างการผ่าตัดยกคิ้ว หรือยกหางตาแบบ Foxy Eyes เพื่อเพิ่มความเฉี่ยวให้กับใบหน้าได้
แต่ถ้าเน้นไปที่การผ่าตัดเพื่อให้หน้าเรียว ไม่ได้มีปัญหาผิวเหี่ยวไม่ยกกระชับนั้น การทำหัตถการอย่างร้อยไหม ฉีดแฟต โบท็อก หรือใช้คลื่นทำความร้อนใต้ผิวหนัง อย่าง ไฮฟู่ Ulthera ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะทำให้หน้าเรียวและราคาไม่สูง
บทความแนะนำ : รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียงกรอบหน้าชัด เห็นผลจริง เห็นผลไว มีอะไรบ้าง