ทำตาสองชั้น คืออะไร ? มีกี่เทคนิค แต่ละเทคนิคเหมาะกับช่วยแก้ปัญหาใดบ้าง
เทรนด์ตาสองชั้นยังคงเป็นศัลยกรรมยอดฮิตที่คนนิยมทำมากที่สุด เพราะดวงตาถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ให้กับใบหน้า การมีดวงตาที่กลมสวยรับกับรูปหน้าจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ การ ทำตาสองชั้น จะช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ตาสองชั้นหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน ช่วยให้ดวงตาดูสดใส มีชีวิตชีวา เพิ่มชั้นตาให้ดูสวยกลมโต รับกลับใบหน้าได้อย่างกลมกลืน
การศัลยกรรมปรับแต่งดวงตาไม่ได้มีแค่ตาสองชั้นเท่านั้น ยังสามารถปรับแต่งหนังตาส่วนเกิน ปรับแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก ปรับแก้หนังตาตก ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินร่วมกับคนไข้ว่าควรจะปรับแก้อย่างไร จึงจะทำให้ดวงตาสวย ชั้นตาสวย และเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคนมากที่สุด
ทำตาสองชั้น คืออะไร ?
การทำตา 2 ชั้น คือการทำศัลยกรรมปรับแต่งแก้ไขชั้นหนังตาเพื่อแก้ไขปัญหาหรือจุดบกพร่องต่าง ๆ ให้ชั้นตาสวยงาม เทคนิคการทำตา 2 ชั้นมีตั้งแต่ การทำศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีด แบบเย็บจุด รวมไปถึงการตัดแต่งชั้นไขมันบริเวณเปลือกตา แก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาชั้นเดียวหรือมีตาสองชั้นแบบหลบใน เมื่อทำออกมาแล้วชั้นตาจะชัดเสริมให้ดวงตากลมโตมากขึ้น ปรับให้ใบหน้าดูอ่อนหวานละมุน
นอกจากทำศัลยกรรมตาสองชั้นเพื่อเสริมความงามแล้ว ยังทำเพื่อแก้ปัญหาผู้ที่มีหนังตาตก หนังตาหย่อนคล้อย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าอายุจริง สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาให้ยกขึ้น จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ปัญหาของชั้นตาแบบต่าง ๆ
เพราะ การทำศัลยกรรม เกี่ยวกับดวงตาไม่ได้มีแค่ทำตาสองชั้นเท่านั้น ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับชั้นตา เปลือกตาอีกมากมาย ดังนั้นก่อนจะทำศัลยกรรมดวงตาจึงขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีปัญหาเกี่ยวกับชั้นตาอย่างไรบ้าง
- ปัญหาหนังตาตก ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริง ส่งผลให้ดวงตาดูเศร้าอยู่ตลอดเวลา
- ปัญหาชั้นตาหลบใน ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเกี่ยวกับการแต่งหน้า การมีชั้นตาหลบในทำให้แต่งตาได้ลำบาก
- ปัญหาหนังตาชั้นเดียว ส่งผลให้ดวงตาดูเล็ก ตาตี่ ตาหมวย บางคนรู้สึกว่าอยากให้ดวงตาดูกลมโตมากกว่านี้
- ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน คือคนที่มีตาสองชั้น แต่ชั้นตาไม่เท่ากัน เมื่อลืมตาจะเห็นได้ชัดเจน
- ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลืมตาได้ไม่สุด ดวงตาดูหม่นไม่สดใส
เทคนิคการทำศัลยกรรมตกแต่งดวงตา
การทำศัลยกรรมตกแต่งดวงตา มีเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้
- การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว
- การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
- การตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน
- การย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก
- แก้ไขปัญหาหางตาตก
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ข้อควรรู้ก่อนทำ ตา 2 ชั้น ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ทำตาสองชั้นแต่ละเทคนิคคืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว
วิธีนี้จะคล้ายกับการทำตา 2 ชั้นแบบแผลเล็ก จะแพทย์จะกรีดแผลที่ยาวกว่าเพื่อให้สามารถเย็บชั้นตาได้ตลอดแนว แต่ไม่ได้มีการตัดหนังตาส่วนเกินออก เทคนิคนี้เหมาะกับช่วงอายุวัยรุ่น คนที่อยากศัลยกรรมตาสองชั้นหวาน ๆ หรือคนที่หนังตาไม่หย่อนคล้อย ซึ่งการผ่าตัดแบบกรีดแผลยาวนี้จะสามารถเอาไขมันในเปลือกตาออกได้มากขึ้น และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาหางตาตกมากกว่าการผ่าตัดแบบแผลเล็ก
ข้อดีเทคนิคแบบกรีดยาว
- ลดโอกาสการเกิดหางตาตก
- ได้ชั้นตาสวย เห็นชั้นตาชัดเจน อยู่ได้ถาวรหรือจนกว่าผิวจะหย่อนคล้อยไปตามอายุ
- เก็บหนังตาและเอาไขมันส่วนเกินออกได้มาก โดยเฉพาะในคนที่เปลือกตามีไขมันมาก
- ตาสองชั้นดูสวยเป็นธรรมชาติ
ข้อเสียเทคนิคแบบกรีดยาว
- มีอาการบวมช้ำ รอยแผลยาว และเห็นได้ชัด
- ไม่เหมาะกับเคสที่มีหนังตาตกมาก หรือมีความหย่อนคล้อยมาก เพราะเป็นการเอาไขมันส่วนเกินออก แต่ไม่ได้เป็นการตัดเอาหนังตาส่วนเกินออกด้วย
ตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น คือ การผ่าตัดเปิดเปลือกตาเป็นแผลขนาดเล็ก โดยการกรีดแผลแนวยาวบริเวณกลางเปลือกตา ประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร จากนั้นก็ทำการเย็บเปลือกตา โดยเย็บเพียง 2-3 จุดเท่านั้น เหมาะกับคนที่มีไขมันเปลือกตาไม่หนา , คนที่มีตาชั้นเดียว หรือคนที่มีปัญหาชั้นตาไม่เยอะ อยากได้ชั้นตาใหม่
ข้อดีเทคนิคแบบกรีดสั้น
- ใช้เวลาผ่าตัดน้อย พักฟื้นไม่นาน
- ได้ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสาวเอเชีย
- แผลเล็ก บวมช้ำน้อย
ข้อเสียของการทำตาแบบกรีดสั้น
- การผ่าตัดชั้นตาที่มีปัญหามาก จะมีข้อจำกัด
- หากมีปัญหาไขมันเปลือกตาเยอะ หลังผ่านไประยะหนึ่งชั้นตาจะตกลงมา ทำให้ตาดูง่วง
- ชั้นตาที่ได้จะดูธรรมชาติเกินไป ไม่เหมาะกับคนที่อยากได้ชั้นตาแบบตะโกน
การตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน
เป็นการทำตา 2 ชั้นแบบกรีดยาวและมีการตัดหนังตาส่วนเกินออกด้วย เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่มีไขมันเปลือกตามาก หรือคนที่ชั้นตาไม่ชัดและอยากทำให้ชัดมากขึ้น ซึ่งการตัดแต่งหนังตาส่วนเกินมีข้อดีคือสามารถแก้ไขปัญหาหนังตาตกได้ดี สามารถกำหนดรูปร่างแนวชั้นตาได้ตามต้องการ ทำได้ตั้งแต่ช่วงอายุวัยรุ่นไปจนถึงวัยสูงอายุ แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่แผลจะบวมมากกว่าเทคนิคอื่น ๆ เพราะเป็นการตัดหนังตาออก และใช้เวลาในการผ่าตัดที่นานกว่าด้วยเช่นกัน
ข้อดีเทคนิคตัดหนังตาส่วนเกิน
- ช่วยเก็บหนังตาส่วนเกินออก และช่วยแก้ไขหนังตาตกได้ดี
- ช่วยแก้ปัญหาให้คนที่มีไขมันและกล้ามเนื้อเปลือกตาหนา ๆ ได้
- ตัดแต่งหนังตาส่วนเกินที่ตกบังชั้นตา ทำให้เห็นชั้นตาชัดขึ้น
- ตาสองชั้นสวยดูชัดเจน และเป็นธรรมชาติ
- กำหนดแนวชั้นตาได้ตามความต้องการ
- ช่วยให้หนังตาไม่ตกซ้ำในระยะยาว
ข้อเสียเทคนิคตัดหนังตาส่วนเกิน
- ทำให้มีอาการบวมและนานกว่าวิธีอื่น ๆ
- ใช้ระยะเวลาผ่าตัดนานและใช้เวลาในการเข้าที่นานกว่าวิธีอื่น
- รอยแผลเป็นยาวตลอดแนวตา
- มีการกรีดตายาว ต้องนำเอาไขมันและตัดหนังตาส่วนเกินออก ทำให้กระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตา
การย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก
สำหรับคนที่มีเบ้าตาลึก แพทย์จะต้องมีการประเมินถึงวิธีการแก้ไขก่อน เพราะปัญหาเบ้าตาลึกของแต่ละเคสจะมีวิธีการแก้ไขที่ต่างกัน คนที่เบ้าตาลึกจะไม่สามารถทำตาสองชั้นแบบปกติได้ เพราะหลังทำเบ้าตาจะยังลึกเหมือนเดิมทำให้ไม่เห็นชั้นตา โดยการย้ายไขมันเพื่อแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกนั้น แพทย์จะใช้ไขมันบริเวณที่ใกล้เคียงกับเปลือกตาของคนไข้เอง ซึ่งมีความปลอดภัยสูงเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม นอกจากนี้การแก้ปัญหาเบ้าตาลึกจะทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้นอีกด้วย
ข้อดีเทคนิคย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก
- ทำให้ชั้นตาที่ได้ดูอิ่มขึ้น เต็มขึ้น
- ใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้น ไม่ทำให้ดูโทรม หรือดูเหนื่อยล้า
- มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นการเติมไขมันจากร่างกายของตัวเราเอง
- ช่วยให้หน้าเด็กขึ้น
ข้อเสียเทคนิคย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก
- มีอาการบวมนานกว่าการทำตาสองชั้นแบบทั่ว ๆ ไป
- สำหรับคนที่เคยทำตามาก่อน อาจทำให้ไม่เหลือไขมันให้ย้ายมากเท่าที่ควร
แก้ไขปัญหาหางตาตก
หางตาตกเกิดจากอายุที่มากขึ้น และสามารถเกิดจากคิ้วที่ตกได้อีกด้วย ดังนั้นการผ่าตัดยกคิ้วขึ้นหลังจากทำตา 2 ชั้นจะช่วยให้หางตาไม่ตกอีกเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่ทำการผ่าตัดยกคิ้ว อาจจะทำให้หางตากลับมาตกได้อีก
ข้อดีเทคนิคแก้ไขหางตาตก
- แก้ปัญหาเปลือกตาหนา หนังตาตก ชั้นตาหลบใน
- ช่วยทำให้ชั้นตาชัดเจนมากขึ้น
- ช่วยให้หางตายกขึ้น ทำให้ดวงตาดูเฉี่ยวคม
- ทำให้คิ้วและดวงตามีระยะห่างที่เหมาะสม
- ช่วยลดความหย่อนคล้อยบริเวณหนังตาได้ดี
- ใบหน้าดูสดใสและดูอ่อนเยาว์
ข้อเสียเทคนิคแก้ไขหางตาตก
- คนที่เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน จะไม่สามารถผ่าตัดแก้ไขหางตาตกรวมกับการยกคิ้วได้
- อาจมีรอยแผลเป็นจาง ๆ บริเวณใต้ท้องคิ้ว
ทำตาสองชั้นสวย ๆ ทรงไหนดี แบบไหนที่เหมาะกับเรา
รูปทรงตาสองชั้นในปัจจุบันมีด้วยกันหลากหลายสไตล์ ซึ่งแต่ละทรงก็จะเหมาะกับรูปหน้าที่แตกต่างกัน ผู้ที่สนใจทำตา 2 ชั้น สามารถเลือกทรงให้เหมาะกับตัวเองหรือทรงที่ชอบได้ โดยมีสไตล์ที่แนะนำดังนี้
1. ตาสองชั้นสไตล์ฝรั่ง
เป็นตาสองชั้นแบบชาวตะวันตก หรือที่เรียกกันว่า ตาสองชั้นสายฝอ ซึ่งจะมีลักษณะที่โดดเด่น คือ เห็นชั้นตาชัดเจน ตาดูโตเรียวยาว มีความคมชัด ชั้นตาสูง เบ้าตาลึก หัวตาเปิดกว้าง ชั้นตาโค้งรับกับดวงตา และดูมีไขมันที่ตาน้อย ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ดวงตาสวยเฉี่ยว เสริมบุคลิกภาพให้ดูเป็นคนที่มีความมั่นใจ ดูมีเสน่ห์ดึงดู
เหมาะกับใคร :
- คนที่ชอบแต่งหน้าสไตล์สายฝอ หรือคนที่ชอบแต่งหน้าจัด
- คนที่มีชั้นตาตกหรือชั้นตาหลบใน
- คนที่มีระยะห่างระหว่างคิ้วกับดวงตากว้าง
- คนที่มีดวงตาค่อนข้างใหญ่
2. ตาสองชั้นสไตล์เกาหลี
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ตาสองชั้นสายเกา ซึ่งจะเป็นตาที่เหมาะกับโครงหน้าของสาวเอเชียเป็นอย่างมาก โดยมีลักษณะเด่นของชั้นตาที่ดูธรรมชาติ มีชั้นตาเล็ก ๆ เห็นชัดเจน แต่จะไม่เน้นความหนาของชั้นตามมากนัก ขนาดชั้นตาจะมีความสมดุลกับดวงตา ซึ่งจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูหวานละมุน น่ารัก อ่อนโยน ดูซอฟท์ลงกว่าแบบสายฝอ นอกจากนี้หากอยากให้ได้ตาดูหวานจะนิยมทำ ดอลลี่อาย ใต้ตาเพิ่ม เพื่อให้ตาสวยสไตล์เกาหลี
เหมาะกับใคร :
- คนที่ชอบแต่งหน้าสไตล์เกาหลี หรือแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติ
- คนที่ชั้นตาน้อย หรือมีตาชั้นเดียว
- คนที่มีดวงตาไม่ใหญ่มากนัก
3. ตาสองชั้นสไตล์ไทย
มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า ตาสองชั้นทรงอัลมอนด์ ซึ่งจะมีลักษณะดวงตาวงรีคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ ดวงตาดูกลมโต แต่จะมีความยาวรี หัวตาเรียว เบ้าตาไม่ลึก ชั้นตาดูชัด หางตาจะมีลักษณะชี้ขึ้นนิด ๆ ทรงนี้จะช่วยเสริมให้ดวงตาดูมีพลัง บุคลิกดูน่าเกรงขาม มีอำนาจ และน่าค้นหา
เหมาะกับใคร :
- คนที่มีโครงสร้างใบหน้าค่อนข้างชัด
- คนที่มีดวงตากลมโต
- คนที่ตาดูดุ ต้องการเพิ่มความหวานให้กับใบหน้า
- คนที่ชอบแต่งหน้าหลาย ๆ สไตล์
- คนที่เปลือกตามีชั้นไขมันเยอะ
4. ตาสองชั้นหางหงส์
เป็นตาสองชั้นที่มีลักษณะหางตาเชิดขึ้น ดวงตาเรียวยาวคล้ายกับหางหงส์ ซึ่งทรงตานี้จะช่วยปรับให้หนังตาไม่ตก รูปตาดูยาวขึ้น เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติ หางตาดูโฉบเฉี่ยว ดวงตาดูโต ดูมีเสน่ห์ชวนมอง และดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น
เหมาะกับใคร :
- คนที่ต้องการแก้ไขหางตาสั้นทื่อ หรือตาดูกลมมน
- คนที่ต้องการให้ดวงตาดูสมส่วนมากขึ้น
- คนที่ต้องการให้หางตาดูเฉี่ยวและเรียวยาว
- คนที่มีชั้นตาหลบในหรือตาชั้นเดียว
5. ตาสองชั้นสไตล์บาร์บี้
ลักษณะทรงตา 2 ชั้นนี้จะเป็นดวงตาที่กลมโตและยาว มีชั้นตาที่ชัดเจน ดวงตาโค้งสวยเป็นเส้นขนานตั้งแต่หัวตาถึงหางตาคล้ายกับตุ๊กตาบาร์บี้นั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูน่ารัก ดูมีเสน่ห์ ดวงตาดูสดใส มีความแบ๊ว และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
เหมาะกับใคร :
- คนที่ต้องการดวงตากลมโต ดวงตาดูสดใส
- คนที่ชอบแต่งหน้าสไตล์น่ารัก ๆ และชอบแต่งตัวสไตล์ตุ๊กตาบาร์บี้
- คนที่มีชั้นตาหลบในหรือตาชั้นเดียว
- คนที่มีชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน หรือมีหนังตาตก
รีวิวตาสองชั้น All About Clinic
ข้อควรรู้ก่อนทำตาสองชั้น
ขั้นตอนการทำตาสองชั้น
- แพทย์จะทำการประเมินปัญหา และออกแบบชั้นตา
- ฉีดยาชาบริเวณเปลือกตา
- ทำการกรีดเปิดแผล ปรับแต่งไขมันและหนังตาส่วนเกิน
- เย็บกล้ามเนื้อด้านในด้วยไหมละลาย เพื่อสร้างชั้นตา
- เย็บแผลที่กรีดบริเวณชั้นหนังตาด้านนอก
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- กรณีที่ต้องดมยาสลบ ให้งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- กรณีที่ไม่ใช้ยาสลบแต่ฉีดยาชา สามารถทานอาหารเบา ๆ ก่อนเวลาผ่าตัดประมาณ 4-6 ชั่วโมงได้
- หลังจากการผ่าตัดคนไข้จะต้องหลีกเลี่ยงแผลไม่ให้สัมผัสกับน้ำ จึงทำให้สระผมไม่สะดวก ดังนั้นก่อนวันผ่าตัดจึงควรสระผมก่อนให้เรียบร้อย
- งดแต่งหน้า ให้ล้างหน้ามาให้สะอาด
- งดรับประทานยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวเช่นแอสไพริน ประมาณ 7 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
วิธีดูแลตัวเองหลังจากทำตา 2 ชั้น
- นอนยกหัวสูง
ห้ามล้างหน้า ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม - งดเล่นโทรศัพท์เพื่อลดอาการบวมของแผล
- งดสูบบุหรี่, งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
- ห้ามรับประทานอาหารประเภทของหมักดอง เพราะอาจทำให้แผลหายช้าและอักเสบได้
- กรณีที่คนไข้ใส่คอนแทคเลนส์ ควรเปลี่ยนไปสวมแว่นตาก่อนจนกว่าแผลจะหายบวม
- ช่วง 1-2 วันแรกประคบเย็นรอบดวงตาและหน้าผากเพื่อลดอาการบวม หลังจากนั้
- ช่วง 3-5 วันให้ประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดรอยช้ำ
- งดแต่งหน้า
- เข้าพบแพทย์ตามนัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ทำตาแล้วไม่สวย เกิดจากอะไร
ปัญหาการกรีดตาสองชั้นแล้วต้องแก้ไข เพราะผลลัพธ์ออกมาไม่สวย ไม่เป็นเหมือนที่คาดหวังไว้ เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- เลือกทรงชั้นตาที่ไม่เข้ากับใบหน้า ทำให้ทำออกมาแล้วดูแปลก ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
- เลือกเทคนิคการผ่าตัดไม่เหมาะสมกับรูปหน้าและชั้นตา ไม่เหมาะกับสภาพผิวตนเอง
- กรีดแผลในการผ่าตัดไม่เท่ากัน เช่นข้างหนึ่งกรีดแผลยาวกว่าอีกข้าง เมื่อทำออกมาแล้วจึงทำให้ชั้นตาไม่สวยเท่าที่ควร
- การเย็บแผลที่ไม่ดี เพราะหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น การเย็บแผลส่งผลต่อความสวยงามของชั้นตาด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเย็บแผลไม่ดี ผลลัพธ์ก็จะออกมาไม่สวย ดูแปลกไป
ทำตาที่ไหนดี ?
เมื่ออยากทำศัลยกรรมดวงตา หลายคนคงมีคำถามว่าจะทำตา ที่ไหนดี ที่ All About Clinic เรามีบริการเกี่ยวกับการศัลยกรรมดวงตาที่รองรับทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการทำตา 2 ชั้นแบบกรีดยาว การตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน การตัดแต่งไขมันเปลือกตาบนและล่าง การย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก และการทำตา 2 ชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตกด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีรีวิวเป็นเครื่องการันตีหลายพันเคส รวมถึงอุปกรณ์และคลินิกที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล จึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาใช้บริการกับเราแล้วจะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังแน่นอน
ศัลยกรรมตาสองชั้น ราคาเท่าไหร่ ?
คนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องทำตา 2 ชั้นคงกำลังสงสัยเรื่องราคา ว่าการ ทำตาสองชั้น ราคาเท่าไหร่ ต้องบอกว่าราคาของการทำศัลยกรรมตาสองชั้นนั้นจะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่น ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละเคส เช่นเทคนิคที่ใช้ ปัญหาของชั้นตา หนังตาของคนไข้ เป็นต้น ส่วนราคาการทำศัลยกรรมตาที่ All About Clinic ท่านสามารถสอบถามได้ผ่านช่องทางติดต่อด้านล่างนี้เลย
คำถามที่พบบ่อย
หากถามว่าอยู่ถาวรไหม ชั้นตาที่ได้ทำการเย็บไปจะยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ เมื่อเราอายุมากขึ้น หนังตาของเราก็จะหย่อนคล้อยลงมาตามกาลเวลา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติค่ะ
ท่านจะสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหลังจากผ่าตัดไปแล้วประมาณ 7 วัน แต่สำหรับขั้นตอนการการล้างคราบเครื่องสำอางออกจากบริเวณรอบดวงตา ควรทำอย่างระมัดระวังและเบาที่สุด เพื่อไม่ให้ชั้นตาบอบช้ำหรือหลุดออก
การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ชั้นตาสวย เห็นชั้นตาชัดเจน เช่น ผู้ที่มีชั้นตาไม่เท่ากัน หนังตาตก ตาเศร้าดูปรือๆ
การผ่าตัดตาสองชั้นจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที แต่ถ้ามีการผ่าตัดเทคนิคอื่นเพิ่มเติม เช่น การเปิดหัวตา การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. และหลังจากนั้นแพทย์จะให้คนไข้นอนพักเพื่อดูอาการและบาดแผลก่อนให้กลับบ้านค่ะ
ควรที่จะเสริมจมูกก่อนทำตา เนื่องจากเนื้อจมูกบริเวณสันจมูกจะถูกดึงขึ้น ซึ่งจะถูกดึงบริเวณหัวตาด้วย ดังนั้นถ้าหากทำตาก่อน ชั้นตาที่ทำไปก็อาจจะเปลี่ยนได้
