หากท่านเป็นอีกคนที่ประสบปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากฮอร์โมน กรรมพันธุ์ หรือปัญหาอื่น ๆ การปลูกผมก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ดี โดยการปลูกผมปัจจุบันได้พัฒนาเทคนิคในการปลูกให้ตอบโจทย์มากขึ้น พักฟื้นไว แผลเป็นน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผม ผู้หญิง หรือ ปลูกผมชาย ก็สามารถทำการปลูกผมได้เช่นกัน ส่วนเทคนิคการปลูกผมที่นิยมใช้ในวงการแพทย์ หลัก ๆ จะมีอยู่ 2 เทคนิคด้วยกัน คือ เทคนิค FUE และ เทคนิค ปลูกผม DHI ซึ่งวันนี้เราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับเทคนิคปลูกผมแบบ DHI กัน ว่าคือเทคนิคปลูกผมแบบไหน ต่างจากรูปแบบอื่นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ
การปลูกผมแบบ DHI จริง ๆ แล้วก็คือวิธีปลูกผมแบบเดียวกับ FUE ที่ใช้เทคนิคในการปลูกผมแบบที่ใช้การเจาะกราฟผมออกมาทีละกราฟ ซึ่งวิธีการนี้จะต่างจากการปลูกผมแบบ FUT ที่ใช้วิธีตัดหนังศีรษะออกมาเป็นทางยาว และนำมาตัดแต่งทีละกราฟ ซึ่งการปลูกผมแบบ DHI นี้จะใช้วิธีการที่เหมือนกับ FUE (จะเรียกว่าเป็นเทคนิคเดียวกันก็ได้) แต่การใช้เครื่องมือจะแตกต่างกัน คือ DHI จะใช้เครื่องมือ DHI Implanter ในการปลูก ส่วน FUE จะใช้เครื่องมือ Forceps ในการปลูกค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว
อย่างที่บอกไปเบื้องต้น ว่าการปลูกผมทั้งสองรูปแบบนี้ คือ เทคนิคแบบเดียวกันที่มีการเจาะกราฟรากผมทีละกราฟแล้วมาปลูกยังบริเวณที่ต้องการ แต่ต่างกันที่เครื่องมือที่ใช้ในการปลูก ซึ่งเครื่องมือที่ต่างกันนี้ทำให้วิธีการปลูกผม และผลลัพธ์หลังปลูกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้ค่ะ
เป็นเครื่องมือปลูกผมที่มีลักษณะคล้ายแหนบที่มีปลายแหลม จะใช้ในการคีบกราฟผมและนำไปปลูกตรงรูรากผมที่ได้เจาะไว้แล้ว ส่วนขั้นตอนในการเก็บกราฟผมและเจาะรูเพื่อปลูกจะใช้อุปกรณ์หัวเจาะที่มีขนาดเล็กในการเจาะรู ดังนั้น ขั้นตอนในการ ปลูกผม FUE แบบใช้ Forceps จึงจะมีการเจาะหนังศีรษะครั้งแรกสำหรับเจาะรูเตรียมไว้ปลูก และอีกรอบก็เป็นขั้นตอนที่ใช้ Forceps คีบกราฟผมลงไปปลูกยังรูที่เตรียมไว้นั่นเองค่ะ
DHI Implanter (เครื่องมือในการปลูกผม DHI) เป็นปากกาปลูกผมที่ประกอบไปด้วยเข็มเจาะ ที่ปลายเข็มจะมีลักษณะเป็นรูกลวงสำหรับเตรียมกราฟผมไว้ปลูก ซึ่งตัวเข็มเจาะของ Implanter จะช่วยย่นระยะเวลาในการปลูกได้ เมื่อเทียบกับการปลูกด้วย Forceps เพราะสามารถเจาะรูหนังศีรษะและปลูกพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งตัวปากกา จะสามารถปรับความยาว-สั้นของเข็มเจาะได้ จึงง่ายต่อการควบคุมทิศทางของเส้นผม
สำหรับการปลูกผมแบบ Long Hair จะเป็นการที่นำเอากราฟผมมาปลูกโดยที่ไม่ต้องมีการตัดเส้นผมให้สั้น วิธีนี้จะทำให้ไม่เห็นแผลหลังปลูกผม เส้นผมที่นำไปปลูกใหม่จะยาวกลมกลืนไปกับแนวผมเดิม เหมาะกับผู้ที่อยากปลูกผมแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน หรือไม่อยากตัดผมสั้น การปลูกผมแบบ Long Hair ก็จะตอบโจทย์ โดยการปลูกผมแบบ Long Hair ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกโดยใช้เทคนิค FUE หรือ DHI แต่การปลูกผมในรูปแบบ Long Hair ก็จะมีข้อดี – ข้อเสียที่ต่างจากการปลูกผมแบบ Short Hair ดังนี้
และที่ All About Clinic ของเรา ก็มีบริการปลูกผมที่ครบครัน ทั้งเทคนิค FUE และ DHI การปลูกผมของเราจะเน้นปลูกให้สวยรับกับกรอบหน้าลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นก่อนปลูกจึงมีการออกแบบ Hair Line ใหม่จนกว่าจะพอใจ นอกจากนี้เรายังมีบริการบำรุงรักษาเส้นผมและหนังศีรษะ อย่างการทำ โปรแกรมบำรุงเส้นผม Anti HairLoss Program เรียกได้ว่าครบครันตอบโจทย์กลุ่มผู้มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน อย่างแท้จริง
ส่วนบริการอื่น ๆ เราก็พร้อมที่จะดูแล ไม่ว่าจะเป็น เสริมจมูก Open , Semi Open หรือ เทคนิค Close เลือกทรงสวยได้ไม่มีโป๊ะ หรือจะเป็นบริการศัลยกรรมอื่น ๆ อย่าง เสริมคาง ตาสองชั้น ปากกระจับ หรือว่าสนใจบริการดูแลผิวพรรณปรับรูปหน้าฉีดผิวขาว ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
และที่ All About Clinic ของเรา ก็มีบริการปลูกผมที่ครบครัน ทั้งเทคนิค FUE, DHI และเทคนิค Lean ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่เฉพาะที่ AAC โดยในการปลูกจะใช้เครื่องมือ Lean Implanter ที่สามารถปลูกได้รวดเร็ว แผลเล็ก และมีการตัดแต่งเนื้อเยื่อกราฟร่วมด้วย เพื่อให้กราฟผมมีความ Lean มากขึ้น สามารถปลูกได้แน่นกว่าเดิม และที่สำคัญการปลูกผมของเราจะเน้นปลูกให้สวยรับกับกรอบหน้าลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นก่อนปลูกจึงมีการออกแบบ Hair Line ใหม่จนกว่าจะพอใจ นอกจากนี้เรายังมีบริการบำรุงรักษาเส้นผมและหนังศีรษะ อย่างการทำ Premium PRP และโปรแกรมบำรุงเส้นผม Anti HairLoss Program เรียกได้ว่าครบครันตอบโจทย์กลุ่มผู้มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน อย่างแท้จริง
ส่วนบริการอื่น ๆ เราก็พร้อมที่จะดูแล ไม่ว่าจะเป็น เสริมจมูก Open , Semi Open หรือ เทคนิค Close เลือกทรงสวยได้ไม่มีโป๊ะ หรือจะเป็นบริการศัลยกรรมอื่น ๆ อย่าง เสริมคาง ตาสองชั้น ปากกระจับ หรือว่าสนใจบริการดูแลผิวพรรณปรับรูปหน้าฉีดผิวขาว ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย