ปัญหาผมร่วงถือเป็นเรื่องกวนใจที่เกิดขึ้นได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยปกติแล้วผมของคนเราจะร่วงเฉลี่ยวันละประมาณ 50-100 เส้นซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับบางคนที่หวีผม สางผม แล้วผมร่วงเยอะมากจนผิดปกติ อาจจะต้องหาแนวทางการรักษาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้นในอนาคต แต่การรักษานั้นอาจจะไม่ต้องถึงขั้นพบแพทย์เสมอไป เพราะคุณสามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้ง่าย ๆ ด้วย 6 วิธีที่เรานำมาฝากกันค่ะ
แต่ก่อนจะไปพบกับวิธีการรักษา เราก็ต้องรู้ สาเหตุของผมร่วง กันก่อนจริงไหมคะ ถึงแม้ว่าบางสาเหตุเช่น ผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ผมร่วงที่เกิดจากโรคทางผิวหนังต่าง ๆ นั้นจะเป็นปัญหาที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าบางครั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราก็เสี่ยงต่อการทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน ใครที่เผลอทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ต้องรีบหยุดก่อนที่จะสายเกินแก้นะคะ
เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภทเจลหรือแว็กซ์ที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์และปิโตรเลียม ซึ่งจะทำให้ผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย ผมเปราะบางและหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนาและหนักยังทำให้การทำความสะอาดเส้นผมเป็นเรื่องลำบาก ซึ่งอาจจะมีสารเคมีตกค้างสะสมในเส้นผมได้
การที่เราหวีหรือเช็ดผมแรง ๆ ตอนที่ผมเปียกนั้น ถือเป็นการทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัวค่ะ เนื่องจากว่าเส้นผมของเราจะเปราะบางและอ่อนแอมากเมื่อเปียกชื้น นอกจากนี้หากเราเช็ดผมอย่างรุนแรงก็อาจจะทำให้สารเคลือบผมและโปรตีนในเส้นผมบางประเภทถูกทำลายได้ ดังนั้นจึงควรหวีผมและเช็ดผมกันอย่างเบามือเพื่อสุขภาพผมที่ดีของเรากันนะคะ
หลายคนอาจมีความเชื่อว่าการสระผมด้วยน้ำอุ่น ๆ จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยคลายเครียด แต่ความจริงการใช้น้ำอุ่นสระผมนั้นไม่ดีต่อสุขภาพของเส้นผมเลยค่ะ น้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้เส้นผมถูกทำลาย ทำให้หนังศีรษะแห้งผมเสียแตกปลาย จนผมมีสภาพอ่อนแอและหลุดร่วงในที่สุด ดังนั้นควรหันมาใช้น้ำอุณภูมิปกติในการสระผมกันดีกว่านะคะ
อย่างที่บอกไปว่าช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอที่สุดคือตอนที่ผมยังเปียกชื้น การเข้านอนโดยที่ยังไม่เช็ดผมให้แห้งนั้นจะทำให้เส้นผมที่เปราะบางถูกการกดทับจนบิดหัก นอกจากนี้ผมที่เปียกชื้นยังอาจทำให้เกิดเชื้อราบนหมอน เมื่อเกิดการสะสมมาก ๆ เข้าก็จะทำให้หมอนของเรามีกลิ่นอับชื้น ซึ่งจะส่งผลให้หนังศีรษะของเราอับชื้นและเกิดเชื้อราได้อีกด้วยค่ะ
เส้นผมของเราไม่ค่อยถูกกับความร้อน โดยเฉพาะความร้อนที่มาจากการเป่าผม หนีบผม หรือการทำผมแบบต่าง ๆ เพราะความร้อนจะไปทำลายสารเคลือบผมและโปรตีนที่หล่อเลี้ยงเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียและขาดร่วงได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม โดยอาจจะเป่าผมโดยการใช้ลมเย็น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันความร้อน บำรุงผมก่อนที่จะเป่าหรือหนีบผม
หรือหากใครที่ต้องเผชิญกับการทำผมอยู่เป็นประจำ เราแนะนำให้บำรุงผมด้วยโปรแกรมบำรุงผมที่จะช่วยป้องกันและฟื้นฟูสภาพเส้นผมอย่างล้ำลึก เช่นการทำ PRP หรือ Anti Hairloss Program ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผมเสียจากสาเหตุต่าง ๆ และยังช่วยปกป้องเส้นผม เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับผมอยู่เสมอค่ะ
ผมร่วงป้องกันได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกันดังนี้
เพราะเส้นผมต้องการการบำรุงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งการบำรุงผมจากภายในก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกรับประทานอาหาร สำหรับอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมและช่วยลดผมขาดร่วงนั้นได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กล้วย อะโวคาโด ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี และโปรตีนที่ช่วยบำรุงผม นอกจากนี้อาหารจำพวกไข่ นม ธัญพืชที่มีโปรตีนสูงก็มีประโยชน์ต่อเส้นผมเช่นกันค่ะ
สมุนไพรหลายชนิดมีประโยชน์ในการบำรุงผมให้แข็งแรงและเงางาม ถ้าเรานำมาใช้อย่างถูกวิธีค่ะ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์บำรุงผมหลายประเภทมักจะมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ โดยการสกัดจากน้ำ ผล หรือน้ำมัน ซึ่งเราก็สามารถนำมาใช้หมักผมโดยตรงได้เหมือนกันค่ะ เช่นมะกรูด หอมหัวใหญ่ ว่านหางจระเข้ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหนังศีรษะให้สุขภาพดี หรืออัญชันที่นำมาหมักผมเพื่อความเงางามของเส้นผม เมื่อนำมาหมักผมเป็นประจำจะช่วยลดผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วยค่ะ
5 สมุนไพรบำรุงเส้นผม
บางทีพฤติกรรมที่เราทำในชีวิตประจำวันนี่เองที่เป็นตัวการทำร้ายเส้นผมให้ขาดร่วง เราสามารถแก้ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ค่ะ การสระผมที่ช่วยรักษาเส้นผมให้แข็งแรงอยู่เสมอเริ่มตั้งแต่ การใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติในการสระผม การหวีผมเพื่อกำจัดผมเสียให้หลุดออกไปก่อนจะเริ่มสระ รวมไปถึงการใช้แชมพูที่มีม่วนผสมของสมุนไพร และการเช็ดผมหรือเป่าผมหลังสระก็ควรทำอย่างเบามือและอ่อนโยน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมถูกทำร้ายและขาดร่วง นอกจากนี้ยังไม่ควรสระผมบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้หนังศีรษะแห้ง และจะทำให้สารเคลือบผมบางชนิดทำงานได้ไม่เต็มที่ด้วยค่ะ
น้ำมันมะกอกถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมบำรุงผมสุดฮิตของใครหลายคน เพราะเป็นสิ่งที่หาง่าย และมีสรรพคุณบำรุงเส้นผมที่เป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่มีผมแห้งเสีย เพราะจะช่วยลดการขาดร่วงของเส้นผม บำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผมให้เงางาม ซึ่งหลายคนมักนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการหมักผม โดยอาจจะนำไปผสมกับน้ำผึ้ง อะโวคาโด น้ำมันมะพร้าว แล้วน้ำมาหมักผมทิ้งไว้ก่อนสระออก ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์จะช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
อย่างที่ทราบกันว่าความร้อนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผมแห้งเสียและขาดร่วง ดังนั้นการป้องกันผมร่วงที่ดีที่สุดจึงควรเริ่มจากการเลี่ยงไม่ให้ผมสัมผัสกับความร้อนมากเกินไปค่ะ โดยความร้อนนี้อาจมาจากแสงแดด การทำผม ไดร์ผมและหนีบผม เราสามารถเลี่ยงได้ด้วยการสวมหมวกเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เลือกใช้ลมเย็นเป่าผมแทนลมร้อน รวมไปถึงการสระผมก็ควรเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นสระผมด้วยเช่นกันค่ะ
สาเหตุของความร้อนที่ทำให้ผมเสีย
หลายคนอาจไม่ทราบว่าความจริงแล้วความเครียดเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วงได้เช่นกัน โดยเมื่อเราเริ่มเครียด รากผมของเราจะเข้าสู่ระยะพักตัวจนเกิดภาวะหลุดร่วงไปในที่สุด นอกจากนี้เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายเรายังสามารถกระตุ้นให้รู้สึกอยากดึงเส้นผมของตัวเองเพื่อคลายเครียดอีกด้วย แต่ผมร่วงที่สาเหตุมาจากความเครียดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นถาวร ถ้าเราสามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้อาการเหล่านี้ก็จะหายไป ดังนั้นการทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผมร่วงได้เช่นกัน
นอกจากวิธีแก้ปัญหาผมร่วงที่ทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ตามที่เราให้คำแนะนำไปข้างต้นแล้ว ในบางกรณีภาวะผมร่วงอาจไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการเหล่านั้น แต่จะต้องปรึกษาแพทย์และทำการรักษา สำหรับการรักษาผมร่วงด้วยวิธีทางการแพทย์ที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากกว่าและได้รับความนิยมมากในปัจจุบันได้แก่ การทำ PRP การทำ Anti Hairloss Program และการปลูกผม
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
ดูผลลัพธ์ปลูกผมเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวปลูกผม
ปัญหาผมร่วง ผมบาง ยิ่งรู้วิธีรักษาหรือหาแนวทางป้องกันไว้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีกับตัวเราเท่านั้น เพราะถ้าหากปล่อยเอาไว้นานเกินไปปัญหาอาจลุกลามจนนำไปสู่ภาวะศีรษะล้านได้ นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหยุดปัญหาผมร่วงแล้ว การรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเองก็มีความสำคัญเช่นกัน
ที่ All About Clinic เรามีบริการบำรุงและรักษาเส้นผมอย่างครบวงจร ด้วยการดูแลจากทีมแพทย์มากประสบการณ์ หากท่านใดที่มีปัญหาผมร่วงหรือปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะอื่น ๆ สามารถเข้ามาปรึกษากับเราได้ทุกช่องทาง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่มีค่าบริการใด ๆ
ปรึกษาคุณหมอออนไลน์ได้ทาง Line @AACCENTER