ปลูกผม FUE

ปลูกผม FUE คืออะไร ? รวม 8 ข้อควรรู้ก่อนปลูกผมแบบ FUE

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) คือการปลูกผมแบบย้ายเซลล์รากผมแต่ละเส้น ไปปลูกยังบริเวณที่มีผมบาง ศีรษะล้าน ทำให้เกิดแผลเป็นขนาดที่เล็กมาก โดยวิธนำรากผมออกมาจะใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็ก เมื่อได้กราฟต์ผมเพียงพอก็จะทำการย้ายเซลล์ไปยังจุดที่ปลูกใหม่โดยการใช้เข็มเจาะนำร่องก่อนใช้เครื่องมือ Forceps (คีมปลูกผมแบบปลายแหลม) ย้ายกราฟต์ผมไปปักยังรูที่ได้เปิดเข็มไว้

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

รวม 8 ข้อควรรู้สำหรับเทคนิคปลูกผม FUE

1. การปลูกผมแบบ FUE เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปัญหาผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์ หรือจากฮอร์โมน
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาศีรษะล้าน ผมบางหรือผมเส้นเล็ก เพราะถ้าใช้วิธีปลูกผมแบบ FUT (การปลูกผมที่ใช้วิธีตัดแต่งหนังศีรษะ) จะสามารถสังเกตเห็นแผลเป็นได้ง่าย 
  • เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยในการพักฟื้น เพราะการปลูกแบบ FUE ไม่ต้องผ่าตัด และมีแผลขนาดเล็ก หลังปลูกเมื่อแผลเริ่มแห้งก็สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ (ส่วนใหญ่พักฟื้นเพียง 2-3 วันเท่านั้น)

2. จุดเด่นของการปลูกผมแบบ FUE มีอะไรบ้าง

  1. แผลเป็นขนาดเล็ก เพราะหัวเจาะสำหรับเก็บรากผมมีขนาดเพียง 0.65 – 1 mm. 
  2. ใช้เวลาพักฟื้นน้อย เพราะไม่ต้องมีการผ่าตัด 
  3. สามารถลดโอกาสเกิดความเสียหายของกราฟต์ผม ในขั้นตอนเก็บกราฟต์รากผมได้
  4. ดูแลแผลได้ง่าย ลดโอกาสเกิดการติดเชื้อหลังปลูกผม
ปลูกผม FUE ศัลยกรรมปลูกผม fue ถาวร

3. ขั้นตอนในการปลูกผมแบบ FUE

  1. ปรึกษาแพทย์พร้อมกับประเมินความพร้อมของเส้นผมว่ามีความแข็งแรงพร้อมสำหรับการฟื้นฟูหลังปลูกผมหรือไม่
  2. เมื่อได้นัดหมายวันปลูกผมเรียบร้อยแล้ว วันปลูกผู้ช่วยแพทย์จะทำการสระผมให้สะอาด จากนั้นคุณหมอจะทำการออกแบบแนวกราฟต์ผมใหม่ให้เข้ากับใบหน้า 
  3. จากนั้นจะทำการโกนศีรษะบริเวณด้านหลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปลูกผม และเริ่มทำการฉีดยาชาที่ผสมน้ำเกลือ เพื่อให้หนังศีรษะมีความนิ่มและสามารถเก็บกราฟต์ผมได้ง่าย
  4. จากนั้นแพทย์จะเริ่มทำการเก็บกราฟต์รากผมแบบกระจายทั่วบริเวณจนครบจำนวนกราฟต์ผมที่ต้องการ
  5. นำกราฟต์ผมไปแช่ในน้ำยาแช่กราฟต์ เพื่อคงสภาพเซลล์รากผมเมื่ออยู่ภายนอกร่างกาย เพิ่มโอกาสการรอดของกราฟต์ผม
  6. จากนั้นเริ่มทำการปลูกผมในบริเวณที่ออกแบบแนวผมใหม่ไว้ โดยเริ่มจากการฉีดยาชาและใช้หัวเจาะขนาดเล็กพิเศษในการเจาะนำร่องเพื่อเตรียมใส่รากผมใหม่
  7. หลังจากทำการเจาะรูแล้ว แพทย์จะใช้เครื่องมือ Forceps (คีมปลูกผม) คีบรากผมลงไปปลูกยังบริเวณที่กำหนดจนครบทั่วบริเวณ

4. การดูแลหลังปลูกผมแบบ FUE

การดูแลหลังจากที่ปลูกผมแล้ว ทางคลินิกจะมีคำแนะนำในการดูแลแผลและกราฟต์ผม พร้อมกับนัดหมายติดตามผลลัพธ์ รวมถึงการดูแลเคลียร์สะเก็ดแผลและการเลเซอร์กระตุ้นรากผมที่จะช่วยให้เส้นผมปลูกใหม่นั้นแข็งแรงได้เร็วขึ้น 

  • ในช่วง 14 วันแรก ให้ระมัดระวังการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ งดแคะ แกะ หรือเกาบริเวณที่ทำการปลูกผม
  • ดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์ หลีกเลี่ยงแดดจัดและฝุ่น ควัน โดยแนะนำให้สวมหมวกคลุมศีรษะจากทางคลินิกอย่างเคร่งครัด
  • งดอาหารแสลงอาหารรสจัดเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเกิดการติดเชื้อได้ รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เพราะส่งผลให้เกิดการไหลเวียนโลหิตที่ผิดปกติได้ จนอาจจะทำให้เซลล์รากผมเติบโตได้ไม่เต็มที่

5. ราคาปลูกผมแบบ FUE

ส่วนราคาปลูกผมแบบ FUE นั้น แต่ละคลินิกจะจัดราคาโปรโมชั่นทั้งนี้แนะนำให้สอบถามเงื่อนไขราคาโปรโมชั้่นให้ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่ราคาปลูกผมจะประเมินจากจำนวนกราฟต์ผมที่ทำการปลูก โดยที่ All About Clinic ราคาปลูกผม FUE เริ่มที่ 69 บาท / กราฟต์

6. ผลลัพธ์หลังปลูกผม

  • 14 วันหลังปลูกผมหลังจากสะเก็ดแผลเริ่มหลุด จะมีรอยแดงเหลืออยู่เล็กน้อยและจะเริ่มเห็นการงอกของเส้นผมออกมามากขึ้น 2-3 มิลลิเมตร
  • 1 เดือนหลังปลูก เส้นผมจะเริ่มเข้าสู่ภาวะ Shock Loss โดยจะเริ่มหลุดร่วงและบางลง
    (อ่านบทความ : อาการ shock loss หลังปลูกผม คืออะไร ปลูกผมถาวรแล้วผมยังจะร่วงอีกไหม)
  • 3 เดือนหลังปลูกผม ผมที่ปลูกจะเริ่มงอกขึ้นใหม่แบบบาง ๆ คล้ายกับไรผม
  • 6 เดือนหลังปลูกผม เส้นผมจะเริ่มยาวหนาและแข็งแรงขึ้น
  • 12 เดือนหลังปลูกผม เส้นผมที่ปลูกใหม่จะเริ่มยาวและหนาอย่างเต็มที่

7. การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE มีผลข้างเคียงหรือไม่

การปลูกผมแบบ FUE เป็นการปลูกผมที่เกิดผลข้างเคียงได้น้อยมาก เพราะแผลมีขนาดเล็กจึงแห้งสนิทง่าย การเกิดผลข้างเคียงหลังปลูกจึงมีเล็กน้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น

  • มีอาการปวดศีรษะหลังปลูก ส่วนใหญ่มีอาการประมาณ 4-5 วัน
  • แผลอาจจะบวมช้ำหรือหายช้ากว่าการปลูกผมเทคนิค DHI 
  • การดูแลผมที่ปลูกใหม่ต้องดูแลระยะยาวตามแผนการรักษา เช่น หากสาเหตุผมร่วงเกิดจากฮอร์โมนสูง ก็อาจจะต้องกินยาปรับฮอร์โมนต่อเนื่อง เพื่อให้ผมทั้งศีรษะหนาและดกดำอย่างเต็มที่

8. เทคนิคปลูกผม FUE ดีไหม

ถ้าถามว่าปลูกผมแบบ FUE ดีไหม ก็บอกได้เลยว่าการปลุกผมแบบ FUE นั้นยังเป็นหนึ่งในเทคนิคปลูกผมที่ยอดนิยมอยู่ ด้วยราคาที่จับต้องได้ รวมถึงเป็นเทคนิคที่ทำให้เกิดแผลเป็นขนาดเล็ก แต่การใช้เวลาในการปลูกผมก็จะนานหน่อย อยู่ที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ถือว่าค่อนข้างได้ผล

 

แต่สำหรับคนที่มีงบประมาณ ก็จะแนะนำให้ศึกษาการปลูกผมแบบเทคนิค DHI เพราะเป็นเทคนิคปลูกผมที่ใช้เครื่องมือปลูกที่ทันสมัย รวมถึงลดขั้นตอนและวิธีการปลูกที่ซ้ำซ้อนออก จึงช่วยประหยัดเวลาและลดความบวมช้ำของหนังศีรษะได้มากกว่าเทคนิค FUE

เทคนิคปลูกอื่น ๆ นอกจากเทคนิค FUE มีอะไรบ้าง

เทคนิค FUT

  • เทคนิคนี้จะเป็นการปลูกผมที่ใช้วิธีตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกเป็นแนวยาว และนำไปตัดแต่งให้ได้กราฟต์ผมแต่ละกราฟต์ก่อนจะนำไปปลูก ซึ่งปัจจุบันเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมน้อย เพราะมีการผ่าตัดแผลขนาดใหญกว่าเทคนิคอื่น และสังเกตเห็นแผลเป็นได้ง่าย

เทคนิค DHI

  • เทคนิคปลูกผมที่ใช้ปากกาปลูกผมหัวเจาะขนาดเล็กพิเศษ (Implanter Pen) ในการปลูกผม จะต่างกันที่เทคนิค FUE จะใช้คีมปลูกผมแทนปากกา โดยความเหมือนของทั้งสองเทคนิคคือในขั้นตอนการเก็บกราฟต์ผมนั่นจะใช้เครื่องมือหัวเจาะในการเก็บกราฟต์ผมเหมือนกัน แต่ต่างที่เครื่องมือในขั้นตอนปลูก ซึ่งของเทคนิค DHI นั้นจะปลูกได้รวดเร็วและบวมช้ำน้อยกว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่าเทคนิค FUE ด้วยเช่นกัน

เทคนิค Lean

  • ส่วนเทคนิค Lean หลายท่านอาจจะไม่คุ้นชื่อ เพราะนี่เป็นเทคนิคที่หมอพอล All About Clinic ได้ต่อยอดจากเทคนิค DHI โดยเพิ่มขั้นตอนการตัดแต่งไขมันส่วนเกินของกราฟต์ผมทีละกราฟต์ก่อนนำไปปลูกใหม่ ทำให้สามารถปลูกผมได้ชิดและลดความบวมช้ำได้มากที่สุดจากทั้ง 4 เทคนิค

รีวิวปลูกผม All About Clinic

ถ้าสนใจปลูกผมแบบ FUE สามารถปรึกษาได้ช่องทางไหน ?

สำหรับใครที่สนใจการปลูกผมแบบ FUE สามารถติดต่อนัดหมายพบแพทย์เพื่อประเมินความพร้อมเส้นผมก่อนได้ฟรี ทางไลน์ @aacthailand (ตรวจสอบตารางแพทย์ได้ที่นี่) โดยสาขาที่ตั้งของทางคลินิกมีดังนี้

  • สาขากรุงเทพ ฯ ติด BTS พระโขนงทางออก 1
  • สาขาขอนแก่น ติดมินิบิ๊กซี เยื้องหมู่บ้านบุศรินทร์ ก่อนถึงวงเวียนบึงหนองโคตร
  • สาขาอุดรธานี ตั้งอยู่หัวมุมแยกสี่ศรัทธา ห่างจากตึกคอม 300 เมตร
  • สาขาโคราช ตั้งอยู่ถนนมิตรภาพ ห่างจาก The Mall โคราช 1 กิโลเมตร
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
เลเซอร์ขน หน้าใส ลดผมร่วง