ปลูกผม DHI

เจาะลึกปลูกผม DHI รีวิวผลลัพธ์ วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียก่อนและหลังปลูก

การปลูกผมแบบ DHI (Direct Hair Implantation) เป็นการปลูกผมที่ใช้ต่อยอดมาจากเทคนิค FUE ซึ่งจะใช้วิธีนำกราฟต์ผมออกมาทีละกราฟต์เหมือนกับ FUE แต่ในขั้นตอนปลูกใช้ปากกาปลูกผม Implanter Pen ในการเจาะหนังศีรษะพร้อมกับปลูกได้ในครั้งเดียว ทำให้ได้แผลที่เล็กและบวมช้ำน้อยกว่าเทคนิคปลูกผมแบบ FUE นั่นเอง

การโหลดกราฟต์ผมลงปากกาปลูกผม
เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

ขั้นตอนการปลูกผม DHI

เทคนิคปลูกผม DHI
  • ขั้นตอนแรกหลังจากที่ทำความสะอาดและเตรียมศีรษะเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการฉีดยาชาผสมน้ำเกลือและยาห้ามเลือดบริเวณศีรษะเพื่อให้สามารถเก็บกราฟต์ผมได้ง่าย
  • การเก็บกราฟต์ผมจะเริ่มจากใช้เครื่องมือหัวเจาะเล็กพิเศษ เจาะไปยังจุดที่จะทำการเก็บรากผม จากนั้นใช้ Forceps เก็บกราฟต์ผมออกมา
  • เมื่อได้กราฟต์รากผมแล้ว จะนำไปแช่ในน้ำยาคงสภาพเซลล์เพื่อให้เซลล์รากผมนั้นสมบูรณ์ที่สุด
  • จากนั้นจะทำการปลูกผมใหม่ยังบริเวณที่กำหนด โดยนำเอารากผมโหลดใส่ปากกาปลูกผมและนำไปปลูกยังบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้านบาง

การปลูกผมแบบ DHI มีข้อดีอย่างไร

การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI แตกต่างจาก FUE ตรงที่การใช้เครื่องมือในการปลูกกราฟต์ผมที่ต่างกัน นั่นทำให้การปลูกผมแบบ DHI มีข้อดีดังนี้

  1. แผลบวมน้อย เพราะสามารถทำการเจาะหนังศีรษะพร้อมกับปลูกได้ในครั้งเดียว ทำให้กราฟต์ผมที่ทำการปลูกใหม่นั้น บวมช้ำน้อย
  2. ใช้เวลาในการปลูกที่รวดเร็วขึ้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น
  3. สามารถควบคุมทิศทางเส้นผมเกิดใหม่ได้ดีขึ้น จากการใช้เครื่องมือปากกาปลูกผมในการปลูก
  4. พักฟื้นและรักษาแผลได้ง่ายขึ้น เพราะปากแผลมีขนาดเล็กเพียง 0.6 – 0.8 mm. เท่านั้น
  5. เพิ่มโอกาสการรอดของเส้นผม เพราะได้ลดขั้นตอนการสัมผัสรากผมที่ไม่จำเป็นจากการใช้เครื่องมือ Implanter ในการปลูก

ข้อเสียของการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI

  1. ราคาสูงเมื่อเทียบกับการปลูกผม FUE
  2. ต้องปลูกกับแพทย์ที่มีความชำนาญในการใช้ปากกาปลูกผม จึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปลูกผม DHI

ข้อควรรู้สำหรับการปลูกผม DHI

1. ปลูกผม DHI เจ็บไหม

การปลูกผมส่วนที่จะเจ็บคือบริเวณศีรษะ 2 จุด ได้แก่ บริเวณท้ายทอย (Doner Area) ที่ทำการเก็บกราฟต์ผม และจุดที่ปลูกผมใหม่ ซึ่งทั้ง 2 ขั้นตอนแพทย์จะทำการฉีดยาชาก่อนทำหัตถการ ระหว่างปลูกจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังจากที่ปลูกเสร็จเรียบร้อยเมื่อยาชาหมดฤทธิ์จะรู้สึกปวดศีรษะอยู่บ้าง แต่สามารถทานยาเพื่อลดความปวดได้ โดยจะปวดศีรษะประมาณ 4-5 วันค่ะ

2. ผลลัพธ์ปลูกผม DHI อยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์การปลูกผมนั้นสามารถอยู่ได้ถาวร เพราะเส้นผมที่ปลูกใหม่นั้นเป็นรากผมที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนที่ทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้าน (อ่านบทความ : ผมร่วงเพราะฮอร์โมน รักษายังไง ? มารู้จักฮอร์โมน DHT ทำร้ายผมอย่างไรบ้าง) แต่หากอยากให้ผลลัพธ์หลังปลูกนั้นเส้นผมแข็งแรง หนา และลดปัญหาผมบางได้ก็ต้องดูแลเส้นผมหลังปลูกอย่างเคร่งครัด

3. การดูแลหลังปลูกผม DHI ต้องทำอย่างไร

ในการดูแลหลังปลูกผมนั้น หลังปลูกในช่วงแรกจะต้องดูแลรักษาแผลให้แห้งและสะอาด งดแคะแกะเกาแผลปลูกผมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน หลังจากที่แผลแห้งสนิทแล้ว ทางคลินิกจะนัดเข้ามาเคลียร์สะเก็ดแผล

หลังจากนั้นการดูแลจะเป็นเน้นไปที่การบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงซึ่งเป็นการดูแลระยะยาว เช่น

  • การสระผมให้ถูกวิธีและเบามือ งดเกาศีรษะแรง ๆ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะกับปัญหาของหนังศีรษะ
  • งดพฤติกรรมที่ส่งผลให้เส้นผมแห้ง หรือเสียสุขภาพ เช่น ใช้ความร้อนสูง ย้อมหรือดัดผมบ่อย ๆ หรือการปล่อยให้ผมเปียก หนังศีรษะอับชื้น
  • การทานยาปรับฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการเติบโตของเส้นผม

4. ปลูกผม DHI ที่ไหนดี รีวิวคลินิกปลูกผม

การเลือกปลูกผมนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาอันดับแรกคือความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะการปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องใช้เส้นผมซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในการนำมาปลูกใหม่ ดังนั้นการปลูกผมจึงควรปลูกไม่เกิน 1-2 ครั้ง จะดีที่สุด

ซึ่ง All About Clinic เองก็มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านการปลูกผมมาอย่างยาวนานอย่างหมอพอล ที่เชี่ยวชาญการปลูกผมทั้งเทคนิค FUE , DHI และเทคนิค Lean ซึ่งคุณหมอได้คิดค้นต่อยอดมาเพื่อให้สามารถปลูกผมได้ชิดเรียงตัวสวย และแผลเป็นเล็กกว่าเทคนิคอื่น ๆ

รีวิวปลูกผม DHI

ปลูกผม DHI กับ FUE ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน

การปลูกผมทั้งสองเทคนิค หลัก ๆ แล้วในขั้นตอนการเก็บกราฟต์จะใช้วิธีเดียวกัน คือเก็บกราฟต์ผมจากศีรษะด้านหลังทีละกราฟต์ละกราฟต์ด้วยปากกาหัวเจาะขนาดเล็ก แต่ความต่างกันของทั้งสองเทคนิคจะอยู่ที่ขั้นตอนการปักกราฟต์ผมใหม่ เพราะใช้เครื่องมือปลูกผมที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • FUE ปลูกผมโดยใช้ Forceps

สำหรับขั้นตอนการปลูกกราฟต์ใหม่ จะใช้เข็มเจาะขนาดเล็กพิเศษทำการเจาะก่อนจะใช้ตัว Forceps (คีมปลูกผมขนาดเล็ก) ในการคีบกราฟต์ผมใหม่ลงไปปลูก

บทความที่เกี่ยวข้อง : ปลูกผม FUE คืออะไร ? รวม 8 ข้อควรรู้ก่อนปลูกผมแบบ FUE

  • DHI ปลูกผมโดยใช้ปากกาปลูกผม Implanter Pen

ส่วนเทคนิค DHI ก็จะมีการนำกราฟต์ผมที่สมบูรณ์แล้วโหลดใส่ปากกาปลูกผม จากนั้นก็ใช้เข็มเจาะของปากกาในการเจาะและปักรากผมใหม่ในครั้งเดียว

เลือกปลูกด้วยเทคนิคไหนดีกว่ากัน ?

ถ้าถามว่าเทคนิคไหนดีกว่ากันระหว่าง FUE กับ DHI แน่นอนว่าเทคนิค DHI นั้นจะได้เปรียบกว่าในเรื่องการใช้เครื่องมือปลูกที่ทันสมัยกว่า แต่ถ้าถามถึงผลลัพธ์ก็จะต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ต้องปลูกโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทั้งสอง ความต่างจริง ๆ จะเป็นขั้นตอนระหว่างการปลูก คือ DHI จะใช้เวลาปลูกน้อยกว่า ทำให้รากผมอยู่นอกร่างกายน้อยกว่า จึงเพิ่มโอกาสฟื้นฟูเส้นผมปลูกใหม่ได้ง่ายขึ้น

แต่สำหรับใครที่ปรึกษาแพทย์แล้วเส้นผมมีความแข็งแรงพร้อมปลูก และไม่ได้มีปัญหาศีรษะล้านแบบหนัก ๆ การปลูกแบบ FUE ที่ราคาเซฟกว่าก็ช่วยให้สามารถจัดสรรงบไปดูแลฟื้นฟูหลังปลูกผมได้เหมือนกัน

ราคาปลูกผม DHI แพงไหม ?

ราคาปลูกผม DHI ที่ All About Clinic เริ่มต้นที่ 79 บาท/ กราฟต์ ซึ่งส่วนใหญ่การปลูกผมจะคำนวณเป็นจำนวนกราฟต์ เช่น 1,000 / 1,500 หรือ 2,000 กราฟต์ แนะนำว่าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก่อนปลูกได้ ทางไลน์ @aacthailand

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
เลเซอร์ขน หน้าใส ลดผมร่วง