การมีริมฝีปากที่อวบอิ่มเรียบเนียน ชุ่มชื้นแลดูสุขภาพดี ย่อมเป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนปรารถนาจริงไหมคะ ถึงแม้ในอดีตคนไทยจะนิยมมีริมฝีปากที่บางและเล็ก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้เทรนด์การมีริมฝีปากอิ่มน้ำเป็นทรงสวยนั้นกลายเป็นที่นิยมกันมาก ๆ ซึ่งนวัตกรรมที่ช่วยในการสร้างริมฝีปากอวบอิ่มแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้น ฟิลเลอร์ปาก เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง ขอบปากไม่ชัด ให้กลายเป็นริมฝีปากที่เป็นทรงกระจับ ดูอิ่มฟูและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเลยค่ะ
แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคย ฉีดฟิลเลอร์ มาก่อนก็อาจจะมีข้อสงสัยต่าง ๆ มากมาย ว่าฟิลเลอร์มีอันตรายหรือไม่ ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน มีขั้นตอนการเตรียมตัวทำอย่างไรบ้าง บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาฝากกันค่ะ
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถปั้นเป็นรูปทรงตามต้องการได้ ในทางการแพทย์จะนิยมนำมาฉีดเพื่อเติมเต็มเฉพาะจุดเช่น ใต้ตา ริมฝีปาก คาง เพื่อปรับรูปหน้าให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น การฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นหัตถการที่ไม่อันตราย และสามารถฉีดสลายได้ด้วยค่ะ แต่สิ่งที่ควรระวังสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ก็คือ ประสบการณ์ของแพทย์ที่อาจจะไม่เชี่ยวชาญพอ และคุณภาพของฟิลเลอร์ที่แต่ละคลินิกเลือกใช้ค่ะ
เนื่องจากบริเวณริมฝีปากนั้นประกอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ดังนั้นหากแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ ไม่รู้เทคนิคในการฉีด ก็อาจจะทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดเหล่านั้นจนเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้แพทย์ควรต้องเข้าใจในโครงสร้างผิว เข้าใจเรื่ององค์ประกอบของใบหน้าคนไข้ ว่ารูปหน้าแบบใดควรจะฉีดฟิลเลอร์ ปากรูปทรงใด จึงจะรับกับใบหน้าและออกมาดูดีมากที่สุด ส่วนเรื่องคุณภาพของฟิลเลอร์นั้นแน่นอนว่าหากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม ย่อมต้องเกิดผลลัพธ์ที่อันตรายตามมาแน่นอน
ถึงแม้การฉีดฟิลเลอร์จะไม่มีข้อเสียหรือผลข้างเคียงใด ๆ แต่หากได้รับฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐานนั้นถือว่าอันตรายมากทีเดียว วันนี้เราจึงนำวิธีเช็คฟิลเลอร์แท้เบื้องต้นมาฝากทุกคนกันค่ะ
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ผิวอักเสบ และเนื่องจากเป็นสารที่สลายเองตามธรรมชาติไม่ได้จึงต้องแก้ไขด้วยการขูดออกเท่านั้น ดังนั้นก่อนจะเลือกฉีดฟิลเลอร์จึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ
ความเป็นสายเกา มักจะซ่อนความหวานละมุน ความอ่อนเยาว์และน่าทะนุถนอมเอาไว้ รูปปากทรงเกาหลีที่เป็นที่นิยมกันถูกเรียกว่า Cherry Lips คือจะมีลักษณะคล้ายผลเชอร์รี่สองลูกซ้อนกัน โดยบริเวณริมฝีปากล่างและบนจะมีความอวบอิ่มมากกว่าด้านข้าง และริมฝีปากล่างจะหนากว่าปากบน เป็นรูปทรงที่เหมาะกับรูปหน้าคนเอเชียเป็นอย่างมากค่ะ
ถ้าพูดถึงความเซ็กซี่ร้อนแรง แน่นอนว่าเทรนด์ปากสายฝอเองก็มาแรงไม่แพ้กัน โดยทรงปากจะมีลักษณะอวบอิ่มทั้งริมฝีปากบนและล่าง แต่ริมฝีปากบนจะมีความเจ่อเล็กน้อย ช่วยเพิ่มลุคเซ็กซี่เล็ก ๆ การฉีดปากแบบนี้จะทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มเรียบเนียน ง่ายต่อการแต่งหน้า เป็นอีกหนึ่งรูปปากที่สาว ๆ นิยมฉีดกันเป็นอย่างมาก
หลายคนที่อยากมีรูปปากกระจับเป็นทรงชัด อยากมีปากอวบอิ่มแบบสาวสุขภาพดี แต่ยังไม่กล้าฉีดปากเพราะกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่ ต้องบอกว่าอาจจะรู้สึกเจ็บบ้างเพียงเล็กน้อยค่ะ เนื่องจากบริเวณริมฝีปากนั้นเป็นบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก แต่ปกติแล้วแพทย์จะมีการแปะยาชาก่อนฉีดทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมากค่ะ ซึ่งหลังฉีดไปแล้วจะมีการอาการบวมหลังฉีดเป็นเรื่องปกตินะคะ แต่อาการบวมเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไป และรูปปากที่ฉีดจะเริ่มเข้าที่ใน 7-14 วันค่ะ
ระยะเวลาของการคงตัวของฟิลเลอร์นั้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อค่ะ ส่วนใหญ่การฉีดฟิลเลอร์ปากจะนิยมใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm และ Restylane ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง ปั้นรูปทรงได้ตามต้องการ เมื่อฉีดไปแล้วผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน เลยค่ะ แต่หากฉีดไปแล้วคนไข้ต้องการเปลี่ยนรูปทรง ก็สามารถกลับมาฉีดสลายได้เช่นกันค่ะ
ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวปรับรูปหน้าและผิวพรรณ
ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติคงตัวอยู่กับเราได้นานถึง 12 เดือน แต่ระหว่างนั้นก็สามารถสลายไปได้เช่นกัน หากเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ ดังนั้นเมื่อฉีดไปแล้วจึงควรดูแลตัวเองและมีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์
สำหรับคนที่ยังไม่เคยฉีด ฟิลเลอร์ปาก มาก่อนเลย ก็ควรจะระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยและผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างมากค่ะ การฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่เจ็บและไม่เป็นอันตรายก็จริง แต่ยังไงก็ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือด้วยนะคะ หลัก ๆ แล้วควรจะดูรีวิวของคลินิกเพื่อประกอบการตัดสินใจ และมั่นใจว่าคลินิกจะต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพและสามารถตรวจสอบได้ด้วยค่ะ
สนใจฉีดฟิลเลอร์ปากที่ All About Clinic ปรึกษาคุณหมอออนไลน์ได้ทาง Line @AACCENTER