Home » หลังฉีด ฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ปาก
last update :

หลังฉีด ฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรบ้าง ?

ไม่ว่าในปี 2025 เทรนด์ความงามจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่โปรแกรมฉีด ฟิลเลอร์ปาก ยังคงได้รับความนิยมอยู่ ถือเป็น 1 ในหัตถการที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะ ฟิลเลอร์ สามารถปรับแต่งรูปทรงของริมฝีปาก ให้เป็นไปตามกระแสแฟชันและความวามได้ตามที่ต้องการ ที่สำคัญเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ใช้เวลาในการทำน้อย และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากที่ทำ ในครั้งนี้ทาง All About Clinic จะมาแนะนำเคล็ดลับการดูแลตัวเอง ว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรบ้าง ? และทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

ทำไม ฟิลเลอร์ปาก ถึงได้รับความนิยม ?

ด้วยเทคโนโลยีการผลิต ที่ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพ มีความบริสุทธิ์สูง สามารถใช้ฉีดได้อย่างปลอดภัย และเทคนิคการฉีดที่พัฒนาขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ที่สวยงามน่าพึงพอใจ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หลังทำ และยังมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้ การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยม

  • การฉีดฟิลเลอร์ สามารถแก้ปัญหาริมฝีบางได้ ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ปากเป็นทรงสวยขึ้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยแก้ไขปัญหา ริมฝีปากไม่เท่ากัน ปรับรูปปากให้ดูสมส่วนขึ้นได้
  • ฟิลเลอร์ ใช้ฉีดเพื่อแก้ไขปัญหารูปปากคว่ำได้ ด้วยการฉีดยกมุมปากขึ้น ช่วยปรับให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น
  • ฟิลเลอร์ยังช่วยแก้ไขปัญหา ริมฝีบางแห้ง แตก ลอกเป็ขุย เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ริมฝีปากจึงดูสุขภาพดี
  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะทำให้เห็นผลลัพธ์ เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน หลังจากที่ฉีด
  • ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้เอง จึงมีความปลอดภัยสูง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ต้องเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อประเมินใบหน้า วิเคราะห์ปัญหา และเลือกทรงปากที่เหมาะสม
  2. เลือกฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด ซึ่งฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปากจะมีด้วยกันหลายรุ่น หลายยี่ห้อ มีหลายราคาให้เลือก ฟิลเลอร์ที่ใช้จะต้องผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา และต้องตรวจสอบได้
  3. ทำความสะอาดใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ขณะทำหัตถการ
  4. ใช้ยาชา และประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการเจ็บขณะที่ฉีด สำหรับใครที่กลัวเจ็บ สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่ผสมยาชาได้
  5. หลังจากฉีดแล้วจะต้องมาติดตามอาการ Follow Up ตามที่แพทย์นัด

แนะนำฟิลเลอร์ฉีดปาก

  • e.p.t.q : ฟิลเลอร์ e.p.t.q รุ่นที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดปาก จะเป็นรุ่น S100 ฟิลเลอร์เนื้อละอียด บำรุงให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ฉีดแล้วจะยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
  • Yvoire : ฟิลเลอร์ Yvoire ที่นำมาฉีดปากจะเป็นกล่องสีม่วง หรือรุ่น Volume Plus ช่วยทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม เป็นทรง ฉีดแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
  • Restylane : ฟิลเลอร์ Restylane ที่นำมาฉีดปาก จะเป็นรุ่น Kysse ที่ออกแบบมาสำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ ฉีดเพิ่มความอวบอิ่มให้กับปาก และบำรุงให้ปากชุ่มชื้น ฉีดแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Neuramis : ฟิลเลอร์นิวรามิส รุ่นที่เหมาะนำมาฉีดปากจะเป็น
  • Neuramis Deep แต่มีข้อจำกัดคือ เนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างมีความหนืด ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ด้านฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฉีดแล้วอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อน สามารถทำตามได้ง่าย ๆ โดยหากพบอาการบวม หลังจากที่ฉีดปาก ไม่ต้องกังวล เพราะไม่ใช่อาการข้างเคียงที่อันตราย พบได้ตามปกติ ลดอาการบวมนี้ได้ด้วยการประคบเย็น และทานยาลดบวมได้ แต่อาจจะต้องงดการนอนตะแคงไปก่อนในช่วง 3 วันแรก หลังจากที่ฉีดปากไป หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้อน รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อนด้วย

  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือการเข้าห้องอบไอน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • งดแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง

ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีด ฟิลเลอร์ปาก ห้ามทำอะไรบ้าง ? สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเป็นสิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาด หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้ว เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี ได้จามที่ต้องการ และลดอาการแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น ได้แก่

ห้ามจัดแต่งทรงปากเอง

ห้ามบีบนวด กด ริมฝีปาก หลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ และการสัมผัสที่ริมฝีปากหลังจากฉีด มีโอกาสที่เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ จะเข้าสู่ร่างกายทางรอยเข็มที่ฉีด

ห้ามรับประทานอาหารร้อนจัด

ทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนตรงบริเวณริมฝีปากเพิ่มขึ้น ทำให้ปากบวมเพิ่มมากขึ้น และอุณหภูมิที่สูง ยังส่งผลทำให้ฟิลเลอร์อ่อนตัวลง และสามารถเคลื่อนตัวไปยังบริเวณอื่นได้ ทำให้ไม่ได้รูปทรงปากตามที่ต้องการ

การฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างปลอดภัย นอกจากจะต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ถูกต้อง และแม่นยำ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดบนใบหน้า และสำหรับค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ AAC จะเริ่มต้นที่ 4,900 บาท ถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามโปรโมชันในแต่ละเดือน สามารถติดตามได้ที่ Line @aacthailand