โปรแกรมฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยม อย่างมาก เพราะเป็นการแก้ไข ปัญหาใต้ตาคล้ำ ได้อย่างตรงจุด แต่ก็มีด้วยกันหลายเคส ที่ฉีดไปแล้ว ใต้ตาเป็นก้อน ยิ่งเวลาที่ยิ้มยิ่งสังเกตเห็นได้ชัด แล้วอะไรคือสาเหตุของ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน อันตรายหรือไม่ ? และต้องแก้ไขอย่างไร ต้องติดตามรายละเอียดในบทความนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การใช้สารเติมเต็มที่เป็น กรอไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่มีคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว การฉีดฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ทดแทนโครงสร้างชั้นผิวส่วนที่ยุบตัว และขาดหายไป ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง อิ่มฟูอีกครั้ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยแก้ไขปัญหาบริเวณรอบ ๆ ดวงตาดังนี้
ลักษณะของ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน จะสังเกตเห็นก้อนบวม ๆ อยู่ที่บริเวณใต้ตา หรืออาจจะเห็นก้อนฟิลเลอร์เป็นลำ และอาจจะเห็นได้ว่าผิวบริเวณนั้นมีสีคล้ำกว่าบริเวณรอบ ๆ บางเคสอาจจะสังเกตเห็นได้หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้ไม่นาน แต่บางเคสก็อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เกิดจากฟิลเลอร์ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งอื่น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน มีด้วยกันดังนี้
การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้ฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ใช่ HA อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ เกิดการอักเสบ ทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อน เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะไม่สลายตัวตามธรรมชาติ จึงทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว ไหลย้อยเป็นก้อน ผิดรูป
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ถึงแม้จะเลือกฟิลเลอร์ที่เป็น HA อาจจะเกิดจากการที่ใช้ฟิลเลอร์ผิดรุ่น เนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับผิว ที่บริเวณใต้ตา เช่น อาจจะใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฉีดลงผิวใต้ตาชั้นตื้น ซึ่งผิวที่บริเวณใต้ตาบางกว่าจุดอื่นบนใบหน้า จะต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ละเอียด เนียนกลืนไปกับผิว ในการฉีดลงผิวชั้นตื้น
เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง มักเกิดในเคสที่ฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์ลงชั้นผิวที่ไม่ถูกต้อง การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม วิเคราะห์ปัญหาไม่ตรงจุด เช่น เคสมีปัญหากระดูกบนใบหน้าทรุด ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งลงในผิวชั้นลึก แต่แพทย์เลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดที่ผิวชั้นตื้น ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว และจับตัวกันเป็นก้อนได้
การที่แพทย์ไม่มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์ ทำให้คำนวณปริมาณฟิลเลอร์ได้ไม่เหมาะสม ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวรวมกันเป็นก้อน
การคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ ที่ใช้สำหรับฉีดที่บริเวณใต้ตา จะขึ้นอยู่กับปัญหาบริเวณใต้ตาที่พบ แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ ปัญหาผิวบริเวณใต้ตา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาโครงสร้างกระดูกบนใบหน้าที่ยุบตัว เนื้อเยื่อและไขมันในชั้นผิวยุบตัวลง ปัญหาริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตา ใต้ตาคล้ำ ตาลึก รวมไปถึงร่องใต้ตา จากนั้นจึงทำการประเมินว่าจะต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหน และต้องใช้ ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ cc ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1-4 ซีซี
บริเวณใต้ตา เป็นจุดที่มีเส้นเลือด และเส้นประสาทอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิด การอุดตัน ในเส้นเลือดสูงมาก การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะอันตรายมากถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ รู้จักโครงสร้าง กายวิภาคของใบหน้าที่ไม่ดีพอ อาจจะทำให้ฉีดพลาดเข้าเส้นเลือด ส่งผลทำให้เส้นเลือดอุดตัน เกิดเนื้อตาย เนื้อเน่า และอาจจะทำให้ตาบอดได้ หากอยากฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างปลอดภัย จะต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่เป็นสารเติมเต็มประเภท HA ที่ผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา และต้องฉีดโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่มีความชำนาญ มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์
วิธีการแก้ไข ฟิลเลอร์เป็นก้อน จะแบ่งออกตามชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด เพราะ ฟิลเลอร์ที่เป็น HA จะสลายออกได้หมด ไม่มีสิ่งตกค้าง แต่ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ชนิดอื่น หรือซิลิโคนเหลว จะไม่สามารถสลายตัวได้ และไม่สามารถนำเอาฟิลเลอร์ออกมาได้ทั้งหมด (ได้มากที่สุดเพียง 60-70 เปอร์เซ็นต์)
ปัญหา ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ถ้าหากใช้ ฟิลเลอร์แท้ สามารถแก้ไขได้อย่างปลอดภัย ด้วยการฉีดสลาย ซึ่งการใช้ เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส สามารถใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์ HA ได้ทุกจุด หากไม่พอใจในผลลัพธ์หลังจาก ก็สามารถฉีดสลายได้เช่นกัน โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง แต่สำหรับใครที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว แล้วเป็นก้อน หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายมาก ยิ่งแก้ไขได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพื่อป้องกันไม่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ผสานกับเนื้อเยื่อ เพราะถ้าหากปล่อยไว้ ฟิลเลอร์จะจับตัวเป็นก้อน ผิวขรุขระ และผิวย้วย จนทำให้ใบหน้าผิดรูปได้