สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ท่านไหนที่กำลังสนใจการปลูกผม เพื่อแก้ปัญหาศีรษะล้าน หน้าผากกว้าง วันนี้เรามีอีกมุมหนึ่งของการปลูกผมที่สามารถพบได้หลังการทำหัตถการที่คลินิก หรือโรงพยาบาลบางที่ไม่เคยบอกคุณ ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้โดยรวมก็ไม่ใช่ข้อเสียซะทีเดียว แต่จะเป็นการที่เราต้องปฏิบัติหรือดูแลเส้นผมอย่างเคร่งครัดกว่าปกติ ดังนั้นก่อนตัดสินใจปลูกผม แนะนำว่าควรศึกษาขั้นตอนหรือแนวทางการดูแลผมให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ
ในกรณีผมล้าน หน้าผากกว้างขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากฮอร์โมน DHT หลังจากปลูกผมในบริเวณที่หน้าผากเว้ากว้างแล้ว ยังต้องมีการรักษาด้วยตัวยาปรับสภาพฮอร์โมน และบำรุงผมที่บางในจุดอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เส้นผมทั้งศีรษะมีความแข็งแรงมากขึ้น และถูกทำลายโดยฮอร์โมน DHT ลดลง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผมร่วงเพราะฮอร์โมน รักษายังไง ? ทำความรู้จักฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุของผมร่วง
ขั้นตอนปลูกผมนั้น จะใช้รากผมบริเวณหลังศีรษะมาปลูกแซมบริเวณด้านหน้า ดังนั้นหลังปลูกจะมีแผลสองจุดใหญ่ๆ คือบริเวณศีรษะด้านหลังที่เจาะกราฟผมออกมา และบริเวณด้านหน้าทำให้เวลานอนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องยกหัวสูง 45 องศาขณะนอน แถมบางทีอาจจะเกิดความปวดจากการที่นอนทับแผลด้านหลังศีรษะอีกด้วย แต่อาการเจ็บมากๆ จะพบเพียง 2-3 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ
การปลูกผม จริงๆ แล้วคือการย้ายรากผมจากบริเวณหนึ่ง ไปปลูกยังบริเวณที่ต้องการ ไม่ใช่การสร้างเส้นผมใหม่ ดังนั้นหากเดิมมีผมที่บางอยู่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือศีรษะด้านหน้าไม่ล้าน แต่ปริมาณผมด้านหลังก็จะลดลง นอกจากว่าจะใช้ขนในบริเวณอื่นมาทำการปลูก ก็จะช่วยให้ผมมีความหนาขึ้นนั่นเอง
สำหรับคนที่พบปัญหาผมบางเพราะฮอร์โมน หรือกรรมพันธุ์ หลังปลูกผมต้องบำรุงดูแลเป็นประจำ เช่น ทำ PRP หรือเลเซอร์บำรุงผม โดยจำเป็นต้องบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะมีโอกาสที่ผมขึ้นได้ไม่เต็มที่และยังดูผมบางเหมือนเดิม แนะนำว่าก่อนปลูกควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามการแนวทางการบำรุงและดูแลผมก่อนจองคิวปลูกค่ะ
หลังปลูกผมศีรษะบริเวณที่ปลูกทั้งด้านหน้าและช่วงท้ายทอยจะอ่อนแอเป็นพิเศษ ดังนั้นหลังปลูกนอกจากจะต้องใช้ผ้าพันแผลปิดบริเวณศีรษะแล้ว ยังต้องสวมหมวกเฉพาะสำหรับปลูกผม เพื่อป้องกันแสงแดด ฝุ่นควัน ภายนอก ไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อได้นั่นเอง ดังนั้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใส่หมวกตลอดเวลาจึงอาจไม่ค่อยสะดวกมากเท่านัก
เมื่อทำการปลูกผมแล้ว จำเป็นต้องงดการออกกำลังกายหนัก การว่ายน้ำ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเหงื่อออกที่หนังศีรษะได้ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลบริเวณที่ปลูกเกิดความอับชื้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยหลังจากปลูก 1 เดือน แผลแห้งก็สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
จากทั้ง 6 ข้อด้านบน ก็เป็นข้อจำกัดของการปลูกผมที่ควรต้องรู้ก่อนจองคิวปลูก เพราะการปลูกผมนั้นเป็นหัตถการที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นจึงควรรู้ข้อจำกัดและข้อปฏิบัติพร้อมกับประเมินว่าท่านพร้อมในการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมหลังปลูกได้อย่างเต็มที่หรือไม่ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังปลูกนั้นออกมาได้ผลดีที่สุด โดยผลลัพธ์เต็มที่นั้นจะเห็นผลเมื่อทำการปลูกไปแล้ว 18 เดือน เส้นผมที่ปลูกใหม่จะแข็งแรง และขึ้นได้อย่างเต็มที่
ถ้าถามว่าเมื่อเทียบกับข้อเสียของการปลูกผมแล้วคุ้มไหม ก็ต้องบอกเลยว่าทั้ง 6 ข้อด้านบนนั้นไม่ถือว่าเป็นข้อเสียซะทีเดียว แต่เป็นการปฏิบัติตัวดูแลหลังปลูกผม ซึ่งทุก ๆ หัตถการเสริมความงาม เช่น ฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ หรือเสริมจมูกก็ล้วนแต่ต้องมีการดูแลตัวเองที่ต่างออกไปจากรูทีนปกติอยู่แล้ว แต่สุดท้ายถ้าผลลัพธ์หลังปลูกออกมาพึงพอใจก็ถือว่าคุ้มไม่น้อยค่ะ