7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง
Home » 7 วิตามินบำรุงเส้นผม ยี่ห้อไหนดี ลดผมร่วง บำรุงผมให้สุขภาพดี 2023

7 วิตามินบำรุงเส้นผม ยี่ห้อไหนดี ลดผมร่วง บำรุงผมให้สุขภาพดี 2023

          ปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมแห้งเสีย ชี้ฟู ถือว่าเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลาย ๆ คนไม่น้อยเลย เพราะเส้นผมนับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของใบหน้า ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้น หลายคนจึงพยายามหาวิธีดูแลเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หรือการทำทรีตเมนต์ผม แต่ผมก็อาจจะยังมีผมร่วงหรือยังไม่ดีขึ้น วันนี้เรา All About Clinic จึงจะมาแนะนำอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดีอย่างการเลือกทาน วิตามินบำรุงเส้นผม ซึ่งจะช่วยบำรุงจากภายใน เสริมให้รากผมแข็งแรง ส่วนจะเลือกวิตามินบำรุงเส้นผมยี่ห้อไหนดี ที่เป็นที่นิยมและมีความปลอดภัย ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

วิตามินและแร่ธาตุบำรุงผม มีชนิดไหนบ้าง ?

การเกิดปัญหาผมร่วงที่เป็นสาเหตุทำให้ผมบางและศีรษะล้าน สามารถเกิดจากที่ร่างกายขาดวิตามินหรือสารอาหารต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากภายในร่างกาย หากรักษาเพียงแค่การเปลี่ยนแชมพู หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมภายนอกก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควร ดังนั้น เราจึงจะพาไปดูว่า อาการผมร่วงขาดวิตามินอะไร และเราควรต้องเลือกรับประทานวิตามินบำรุงเส้นผมชนิดไหนบ้าง  ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุของผมร่วงมักเกิดจากการขาดวิตามิน ดังต่อไปนี้

  • ไบโอติน (Biotin) หรือวิตามิน B7 หรือวิตามิน H ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเคราติน (Keratin) ทำให้เส้นผมและเล็บดูสุขภาพดี แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย 
  • วิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยบำรุงเส้นผม ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ให้หนังศีรษะแข็งแรงมากขึ้น และช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนังได้ 
  • วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยซ่อมแซมรากเส้นผมให้แข็งแรง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ลดผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย และช่วยเสริมสร้างโปรตีนและคอลลาเจนอีกด้วย
  • สังกะสี (Zinc) ช่วยในการสร้างเคราตินในเส้นผม ทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง ไม่เปราะหรือขาดร่วงง่าย
  • ธาตุเหล็ก (Iron) ช่วยในการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี ทำให้ลดอาการผมร่วง รากผมแข็งแรง และช่วยสร้างโปรตีนในเส้นผมไม่ขาดเปราะง่าย 
  • วิตามินบี (Vitamin B) ช่วยเสริมความแข็งแรงของรากผม และช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กที่เป็นสารอาหารของเส้นผมได้ดีขึ้น

แนะนำ 7 วิตามินบำรุงเส้นผม ยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2023

1. Blackmores Biotin H+

วิตามินบำรุงผม แบบเม็ด ยี่ห้อ Blackmore เป็นแบรนด์จากประเทศออสเตรเลียที่มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือวิตามินที่หลากหลาย และเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย โดยยี่ห้อนี้จะมีส่วนประกอบของไบโอติน, วิตามิน C, วิตามิน E ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ และมีสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง มิลเลท ฮอสเทล และชาขาว ซึ่งจะช่วยในการบำรุงผิวหนังและเส้นผมให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วง เพิ่มความเงางาม และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

2. Mega We Care Regenez

อีกหนึ่งยี่ห้อวิตามินลดผมร่วงที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ซึ่งแบรนด์นี้มีการใส่ปริมาณสารอาหารไบโอตินที่มากถึง 1,000 ไมโครกรัม/ 1 แคปซูล ซึ่งเป็นปริมาณสูงที่เหมาะสมกับร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่มีดีต่อเส้นผม เช่น สังกะสี ฮอลเทลสกัด วิตามินบี วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี ธาตุเหล็ก และทองแดง ซึ่งจะช่วยลดอาการผมหลุดร่วง ผมบาง ผมแห้ง ชี้ฟู บำรุงผมและเล็บให้แข็งแรงไม่ฉีกหักง่าย และยังช่วยฟื้นฟูผมเสียที่ผ่านการทำสี ความร้อน และสารเคมีได้ด้วย

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

3. Vistra L-Cysteine Plus Biotin

สำหรับวิตามินบำรุงผมยี่ห้อนี้ จะมีส่วนประกอบสำคัญที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมอย่างมาก เช่น ไบโอติน, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, สังกะสี, ธาตุเหล็ก และส่วนประกอบหลักอย่าง แอล-ซิสเทอีน (L-Cysteine) ซึ่งเป็นโปรตีนกรดอะมิโนที่จะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง ลดผมร่วง ผมหนาเงางาม และลดอาการอักเสบของหนังศีรษะได้ดี

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

4. Nature's Bounty Hair, Skin & Nails Gummies

เป็นวิตามินบำรุงศีรษะ ที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา ที่มาในรูปแบบของกัมมี่เยลลี่ที่จะมีรสชาติต่าง ๆ เช่น ส้ม และสตรอว์เบอร์รี สามารถเคี้ยวได้ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีส่วนผสมของไบโอติน วิตามิน C และวิตามิน E ที่จะช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บให้มีความแข็งแรง ป้องกันผมหงอก ซ่อมแซมรากผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมกับช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใส ยืดหยุ่น และไม่ทำให้ผิวเหี่ยวไว 

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

5. DHC Biotin

ยี่ห้อนี้เป็นวิตามินบำรุงผมแบบซองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีข้อดีในเรื่องของการพกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางบ่อย ๆ และเป็นวิตามินแบบ Time-Release ที่จะมีการละลายช้า ๆ ให้ร่างกายได้ค่อย ๆ ดูดซึม ทำให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมไม่ให้เปราะหักง่าย พร้อมบำรุงเล็บและผิวพรรณให้ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น 

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

6. Nature's Bounty Biotin

วิตามินลดผมร่วง หรืออาหารเสริมไบโอตินยี่ห้อนี้จะเป็นแบรนด์เดียวกับกัมมี่เยลลี่ ที่ผลิตจากประเทศอเมริกา ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผม บำรุงเล็บ ช่วยฟื้นฟูรากผมให้แข็งแรง ลดปัญหาผมร่วงและผมบางให้กลับมาดูหนา และยังช่วยในเรื่องของการบำรุงดวงตาและปากให้ชุ่มชื้นอีกด้วย

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

7. 21st Century Biotin

แบรนด์วิตามินบำรุงผมจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวยาไบโอตินแบบเม็ดที่มีปริมาณไบโอตินเข้มข้นมาก ๆ ถึง 10,000 ไมโครกรัม โดยจะเน้นบำรุงเล็บและเส้นผมเป็นพิเศษ ช่วยลดปัญหาผมร่วง บำรุงเส้นผมให้สุขภาพดีไม่เปราะขาดง่าย รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดผมหงอกก่อนวัยได้เป็นอย่างดีด้วย

7_วิตามินบำรุงเส้นผม_ยี่ห้อไหนดี_2023_แก้ผมร่วง_บำรุงรากผมให้แข็งแรง

นอกจากนี้ หากใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน นอกจากจะเลือกทานวิตามินที่ช่วยรักษาอาการผมร่วงจากภายในแล้ว ยังสามารถรักษาด้วยยาปลูกผม หรือเซรั่มปลูกผม ที่จะช่วยรักษาจากภายนอกได้ด้วยเช่นกัน โดยสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวยาปลูกผมได้ที่ : 7 อันดับ ยาปลูกผมยี่ห้อไหนดี 2023 แก้ปัญหาผมบาง ใช้แล้วได้ผลจริง 

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)

          ทั้งหมดนี้เป็น 7 วิตามินบำรุงเส้นผม แห่งปี 2023 ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุก ๆ คน หากใครที่มีปัญหาสุขภาพเส้นผม ทั้งผมร่วง ผมเสีย ผมไม่แข็งแรง ไม่มีน้ำหนัก บางเบา สามารถลองหาซื้อวิตามินเหล่านี้มาทานกันได้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารได้อย่างครบถ้วน รวมถึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพดีและแข็งแรงตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกค่ะและหากท่านใดที่มีปัญหาผมร่วงมาก ๆ รักษาทั้งการทานวิตามินและใช้เซรั่มบำรุงผมแล้วยังไม่หาย สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกปลูกผมของเราได้ หรือหากผู้อ่านท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มสามารถทักเข้ามาสอบ/ปรึกษาที่ : Line @AACTHAILAND ได้ค่ะ

หัวข้อในบทความ

อ่านบทความล่าสุด

เลือก หมอปลูกผม ที่ไหนดี

เลือกหมอปลูกผมที่ไหนดี ให้ผลลัพธ์ออกมาสวย แนวผมดูธรรมชาติ

อัปเดตคำถาม ปลูกผม Pantip ตอบคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม

ปลูกผมผู้หญิง

แชร์ประสบการณ์ปลูกผมผู้หญิง ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึง 1 ปี

รับสิทธิ์ส่วนลด 60% ทุกบริการ