เลือกอ่านหัวข้อในบทความ
ศัลยกรรมปลูกผม FUE ถาวร คืออะไร ? พร้อมสิ่งต้องรู้ก่อนปลูกผมเทคนิค FUE
ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงต่างก็ต้องพบเจอกับความกังวล ขาดความมั่นใจ เสียบุคลิกภาพ การปลูกผม จึงเป็นทางออกที่ดีและเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ที่จะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะเหล่านั้นได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะ ศัลยกรรมปลูกผม FUE ถาวร ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคการปลูกผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ที่จะช่วยคืนผมหนาและความมั่นใจให้กลับมา แต่การปลูกผมด้วยเทคนิคนี้คืออะไร เหมาะสมกับใคร และมีข้อควรรู้ในเรื่องใดบ้างก่อนที่จะตัดสินใจทำ บทความของเราได้รวบรวมมาให้ผู้ที่สนใจทุกท่านแล้ว ตามไปหาคำตอบกันได้เลยค่ะ
ศัลยกรรมปลูกผม FUE ถาวร คืออะไร ?
การศัลยกรรมปลูกผม FUE ถาวร หรือ Follicular Unit Extraction คือ การปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์รากผมโดยไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว และไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีทั่วไป (Strip FUT) โดยจะใช้เครื่องมือพิเศษเป็นหัวเจาะขนาดเล็กประมาณ 0.8-1.2 มม. เพื่อเจาะเอาเซลล์รากผมจากบริเวณหนังศีรษะด้านหลัง เนื่องจากบริเวณผมด้านหลังจะเป็นเส้นผมที่แข็งแรง แล้วจะนำเซลล์รากผมที่ได้มาปลูกตรงตำแหน่งใหม่บริเวณที่ผมบาง หรือไม่มีผม และตามทิศทางที่ต้องการ ทั้งนี้ด้วยเครื่องมือหัวเจาะที่มีขนาดเล็กมาก การปลูกผม FUE จึงทำให้รอยแผลที่บริเวณด้านหลังแทบมองไม่เห็น และจะทำให้เซลล์รากผมยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้ดี ผมที่ปลูกขึ้นใหม่ก็จะมีความแข็งแรงและอยู่ถาวรด้วย
ปลูกผมเทคนิค FUE เหมาะสมกับใครบ้าง ?
สำหรับเทคนิคปลูกผม FUE จะเหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาดังต่อไปนี้
– เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน และผมร่วงเยอะมาก
– เหมาะกับผู้ที่มีแนวไรผมถอยร่น หัวเถิก หรือหน้าผากกว้าง และผมบางกลางศีรษะ
– เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าใหม่ เพื่อเสริมความงานให้กับใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์และดูเรียวขึ้น
– เหมาะกับผู้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ
ขั้นตอนการปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) มีอะไรบ้าง
- แพทย์จะทำการออกแบบและวาดแนวผมที่ต้องการปลูกให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล หรือตามความต้องการของคนไข้เอง
- แพทย์จะคำนวณกราฟผมที่เหมาะสมในการปลูก
- โกนผมบริเวณท้ายทอย เพื่อให้สะดวกในการเจาะเซลล์รากผม
- หลังจากนั้นจะทำการฉีดยาชา ซึ่งคนไข้อาจจะรู้สึกเจ็บในขั้นตอนนี้ แต่หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้วเข้าสู่กระบวนการปลูกผม คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ
- ขั้นตอนการย้ายรากผม แพทย์จะทำการเจาะเอารากผมหรือกราฟต์ผมด้วยหัวเจาะที่มีหัวเจาะขนาดเล็ก เจาะผ่านผิวหนังศีรษะตามแนวขนานกับรากผม แล้วนำเซลล์รากผมที่ดึงออกมาไปแช่ไว้ในน้ำยาสำหรับรักษาคุณภาพของกราฟต์ผม
- ในส่วนของขั้นตอนการปลูกผม ถาวร แพทย์จะนำกราฟต์ผมที่คัดมาแล้วมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม โดยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Implanter Pen เจาะรูเพื่อนำกราฟต์ผมใส่เข้าไปในตำแหน่งใหม่จนครบตามบริเวณที่ต้องการ
ข้อดีและข้อเสีย ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE มีอะไรบ้าง ?
ข้อดี
- ศัลยกรรมปลูกผม fue ถาวร จะไม่รู้สึกเจ็บมาก เนื่องจากไม่ได้ผ่าตัดหนังศีรษะออกมา และไม่ต้องกังวลเรื่องแผลบนศีรษะหลังการรักษา โดยแผลจะมีขนาดไม่ถึง 1 มิลลิเมตร ทำให้แผลแห้งเร็วและหายไว
- สามารถนำขนจากบริเวณอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่เป็นที่นิยมมากนัก
- ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE สามารถไว้ผมทรง Skin head ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นบนหนังศีรษะ
- ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก
- ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติมาก
- ผมที่ขึ้นใหม่จะเป็นเส้นผมที่แข็งแรงกว่าเดิม และไม่หลุดร่วงง่าย
- ระยะพักฟื้นไม่นาน
- ไม่มีอาการบวมนาน และไม่ต้องเย็บแผล
- ปลูกไรผม ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และเส้นผมดูหนาขึ้น
ข้อเสีย
- เซลล์รากผมที่ถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะ อาจจะขาดและไม่สมบูรณ์ได้ หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง
- บริเวณเซลล์รากผมที่ถูกเจาะออกมาและนำไปใช้แล้ว จะไม่มีผมขึ้นใหม่มาแทนที่
- ความหนาแน่นของผมบริเวณท้ายทอยอาจจะลดลงจากเดิม หากมีการนำเซลล์รากผมไปใช้จำนวนมาก จึงต้องมีการจำกัดจำนวนกอผมในการทำแต่ละครั้ง
วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกผม
ก่อนเข้ารับการปลูกผมควรมีการเตรียมตัวที่ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีวิธีการเตรียมตัวเบื้องต้นอย่างถูกต้อง ได้แก่
- แจ้งโรคประจำตัว หรือยาที่ทานเป็นประจำ ให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนทำ
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนปลูก 1 สัปดาห์
- งดทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม หรือสมุนไพรอื่น ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์
- สระผมให้สะอาดในวันที่เข้ารับการปลูกผม และงดใช้เจลหรือสเปรย์แต่งผม
- แนะนำให้สวมเสื้อที่มีกระดุมหน้า หรือเสื้อคอกว้าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สัมผัสแผลเวลาสวมใส่
วิธีการดูแลตัวเองหลังรับการปลูกผม
เมื่อได้รับการปลูกผมเรียบร้อยแล้ว การดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้กราฟต์ผมที่ปลูกไปติดแน่น และให้ผมที่เกิดขึ้นใหม่แข็งแรงมากที่สุด ซึ่งมีวิธีการดูแลตัวเองดังนี้
- 24 ชั่วโมงแรกหลังทำห้ามแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด โดยสะเก็ดแผลจะหลุดเองภายใน 2 สัปดาห์ และไม่ควรสัมผัส หรือซับเลือด บริเวณแผลบนศีรษะ เพราะอาจจะทำให้รากผมหลุดออกได้
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังปลูก เพื่อป้องกันเลือดออก และการบวมที่ศีรษะ
- หลังการปลูกผมไม่ควรตากแดดนาน ๆ และควรอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นประมาณ 1 สัปดาห์
- งดสระผมด้วยตนเองในช่วงวันแรกหลังการปลูกผม และในช่วงสัปดาห์แรกควรใช้เป็นแชมพูอ่อน ๆ รวมถึงให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้อง
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 3-4 วัน และงดกีฬาที่มีการกระทบกระแทก เช่น ฟุตบอล อย่างน้อย 1-2 เดือน และงดว่ายน้ำประมาณ 1 เดือน
- กลับมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามผลหลังปลูกจนเป็นที่พึงพอใจ
- หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ศัลยกรรมปลูกผม fue ถาวร จะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมหรือหนังศีรษะ โดยเฉพาะผู้ที่มีศีรษะล้าน ผมบาง จนหมดความมั่นใจ ซึ่งหากท่านเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาเหล่านี้สามารถปรึกษากับหมอพอล All About Clinic แพทย์ผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านเส้นผมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้วิธีปลูกผมแบบ fue ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านคิ้วบาง หนวดหรือเคราบาง ด้วยการ ปลูกคิ้ว ก็สามารถทำด้วยเทคนิคนี้ได้เช่นกันค่ะ
สำหรับท่านใดที่มีความสนใจอยากดูแลเส้นผม หรือปลูกผม สามารถปรึกษาคุณหมอผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Line @AACCENTER เพราะก่อนที่จะตัดสินใจทำหัตถการอะไรก็ตามต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเท่านั้นนะคะ
