บำรุงผม

แชร์! 8 เคล็ดลับวิธี บำรุงผม ด้วยตัวเองบอกลาผมเสียให้กลับมาผมสวย

          การใส่ใจดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ใจในขั้นตอนการแต่งหน้า แต่งตัว ดูแลผิวพรรณ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญอย่างเส้นผมก็ต้องดูแลเป็นพิเศษด้วย เพราะหากท่านมีปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ผมแตกปลาย ผมขาดหลุดร่วง ก็อาจจะส่งผลทำให้สูญเสียความมั่นใจ ยิ่งถ้าถึงขั้นร้ายแรงที่ผมหลุดร่วงออกมาเป็นกำ จนทำให้ศีรษะล้าน หลายท่านก็อาจจะแก้ปัญหาด้วยการ ปลูกผมถาวร ซึ่งก็อาจจะมีราคาค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธี บำรุงผม ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เปลี่ยนผมเสียให้กลับมาผมนุ่มสลวย เงางาม มีน้ำหนัก จัดทรงง่าย และที่สำคัญสามารถทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ใครก็สามารถทำตามได้ ส่วนจะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลยค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

พฤติกรรมที่ทำให้ผมแห้งเสีย

บำรุงผม ผู้หญิง หัวล้าน

          พฤติกรรมการดูแลเส้นผมแบบไม่ถูกวิธีที่ทำให้เกิดผมเสีย ผมแห้ง ผมชี้ฟู ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าพฤติกรรมที่เคยทำบ่อยๆ นั้น เป็นวิธีที่ผิด อย่างเช่น การสระผมบ่อยมากเกินไป การใช้แชมพูและครีมนวดที่ไม่เหมาะสมกับเส้นผมของตนเอง การใช้ความร้อนกับเส้นผม การใช้ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผมหรือเครื่องม้วนผม รวมทั้งการใช้สารเคมีรุนแรงกับเส้นผมบ่อยครั้ง เช่น การทำสี การยืด การดัดผมถาวร โดยสารเคมีเหล่านี้อาจจะทำลายเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสียและอ่อนแอได้ง่าย

          นอกจากนี้การมีพฤติกรรมที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอยู่บ่อยๆ ก็จะทำให้เส้นผมของเราได้สัมผัสกับแสงแดดจัดๆ และการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน (Chlorine) หรือว่ายในน้ำทะเลที่มีเกลือผสมอยู่มาก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดผมแห้งเสียได้เช่นกัน

8 เคล็ดลับ วิธีบำรุงผมด้วยตัวเอง ฟื้นฟูผมเสียให้กลับมานุ่มสลวย

บำรุงผม

          การอยากมีผมที่สุขภาพดี นุ่มสลวย เงางาม มีน้ำหนัก ไม่แห้งเสีย ก็ต้องเริ่มที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่กล่าวมาข้างต้น และต้องหมั่นดูแลบำรุงผมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเคล็ดลับการบำรุงผมด้วยตัวเอง เป็นวิธีง่ายๆ แต่มีประโยชน์อย่างมาก โดยมีเทคนิคดังนี้

1. สระผมด้วยวิธีที่ถูกต้อง

การสระผม ไม่ควรสระทุกวันหรือสระผมบ่อยจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้เส้นผมอ่อนแอและหนังศีรษะแห้งได้ ซึ่งควรสระผม 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ตกค้างอยู่บริเวณหนังศีรษะและเส้นผมออก และไม่ควรสระผมด้วยน้ำที่ร้อนจนเกินไป เพราะน้ำร้อนจะทำให้ผมแห้งมากกว่าเดิม ควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องปกติสระผมเพื่อป้องกันการสูญเสียไขมันตามธรรมชาติของเส้นผม โดยมีขั้นตอนการสระผมอย่างถูกต้อง คือ

  • ก่อนทำการสระผมควรหวีผมให้เรียบร้อยก่อน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผมพันกัน และไม่ขาดหลุดร่วงในระหว่างที่สระผม รวมถึงเป็นการช่วยขจัดสิ่งสกปรกก่อนสระผมด้วย
  • ให้ล้างเส้นผมด้วยน้ำเปล่าก่อนใช้แชมพูสระผม เพื่อเป็นการล้างสิ่งสกปรกออกในขั้นแรก
  • ควรเทแชมพูลงบนฝามือก่อนจะชโลมให้ทั่วศีรษะ ไม่ควรเทแชมพูใส่เส้นผมโดยตรง และขณะสระผมไม่ควรเกาศีรษะแรงๆ ให้ใช้เพียงปลายนิ้วมือนวดบริเวณศีรษะเบาๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดบนศีรษะด้วย
  • หลังจากที่สระผมด้วยแชมพูและล้างออกเรียบร้อยแล้ว ให้นวดผมด้วยครีมนวดทุกครั้ง โดยหมักทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วจึงล้างออก เพื่อช่วยให้ผมนุ่มสลวย มีน้ำหนัก
  • เมื่อสระผมและนวดผมเสร็จแล้ว ให้บีบน้ำออกเบาๆ แล้วใช้ผ้าเช็ดผมให้แห้งหมาด ๆ

2. บำรุงความชุ่มชื้นให้เส้นผม

เมื่อสระผมอย่างถูกต้องแล้ว หลังจากนั้นต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมด้วย โดยการบำรุงผมด้วยครีมนวดและทรีเมนต์เป็นประจำ เพื่อช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสีย หรือผมขาดหลุดร่วง ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งให้เน้นทาครีมนวดบริเวณปลายผม เนื่องจากเป็นส่วนที่แห้งและชี้ฟูง่าย และขอแนะนำให้ใช้น้ำมันบำรุงผมหลังการสระผม เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก และน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) เป็นต้น

บำรุงผม

3. ไม่ควรนอนหลับไปทั้งที่ผมยังเปียกอยู่

การนอนหลับไปทั้งที่ผมยังเปียกอยู่เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรง และอาจทำให้มีปัญหาต่างๆ ตามมาได้ เนื่องจากเส้นผมที่ยังเปียกอยู่จะทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ความชื้นจะทำให้หนังศีรษะเกิดเชื้อรา มีการอักเสบ แสบ คัน และเกิดรังแคตามมาได้ ดังนั้น ควรสระผมก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง และเป่าผมให้แห้งสนิทค่ะ

4. หวีผมอย่างถูกวิธี

สำหรับการหวีผมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากหวีผมไม่ถูกวิธีก็อาจจะส่งผลทำให้ผมหลุดร่วง เปราะ และขาดได้ง่าย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผมหักงอ หรือ ผมร่วง สามารถทำตามเทคนิคเหล่านี้ได้

  • ไม่ควรหวีผมตอนที่ผมเปียก เพราะขณะผมเปียกเส้นผมจะอ่อนแอและขาดง่าย
  • ควรใช้แปรงหรือหวีที่ซี่ห่าง เพื่อสางผมที่พันกันให้คลายออกได้ง่าย
  • ไม่ควรหวีผมแรงหรือเร็วจนเกินไป และไม่ควรหวีกระชากผม เพราะจะทำให้ผมหลุดและขาดออกมาเป็นกำๆ ได้
  • ไม่ควรหวีผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้เส้นผมโดนทำร้ายจนผมแห้งเสียแทน แนะนำว่าแค่หวีผมให้ทั่วศีรษะก็พอแล้ว
  • ควรทำความสะอาดหวีเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก
บำรุงผม

5. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเอง

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพเส้นผม เลือกที่อ่อนโยนต่อเส้นผม ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมี เพื่อให้ผมมีสุขภาพดี เงางาม นุ่มสลวย จัดทรงง่าย ไม่เกิดปัญหาหนังศีรษะตามมาในภายหลัง

6. ลดการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม

การใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผมเป็นประจำ จะทำให้โครงสร้างเคราตินอ่อนแอ ซึ่งเคราตินนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม ที่จะช่วยให้ผมเรียงตัวสวย หากถูกทำลายจะทำให้ผมไม่แข็งแรง แห้งเสีย ขาดร่วงได้ง่าย และทำให้ผมแตกปลายและชี้ฟู ซึ่งควรใช้สเปรย์หรือเซรั่มที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนเสมอ

7. ลดการใช้สารเคมีกับเส้นผม

ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผม เพราะการใช้สารเคมีกับเส้นผมจะเป็นการทำลายโครงสร้างเคราตินของเส้นผมเช่นเดียวกันกับการใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการทำสี การยืดผม และการดัดผมถาวร เนื่องจากสารเคมีจะทำให้เกิดปัญหาผมเสียแตกปลายและชี้ฟูได้

8. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม

การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นการบำรุงเส้นผมจากภายในสู่ภายนอก และช่วยให้สุขภาพดีขึ้นด้วย ซึ่งสารอาหารที่ช่วยบำรุงผม ได้แก่ โปรตีน ไบโอติน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินซี และวิตามินดี โดยหาได้จากประเภทอาหารเหล่านี้ เช่น ไข่ไก่ ปลาที่มีไขมันสูง แซลมอน ทูน่า เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ผักใบเขียวต่างๆ มันหวาน ถั่ว นม โยเกิร์ต ชีส เป็นต้น

บำรุงผม

          ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการบำรุงผมด้วยตัวเองที่เราได้นำมาฝากทุกท่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ที่ช่วยลดปัญหาผมแห้งเสีย ผมขาดหลุดร่วง แต่หากท่านมีปัญหาด้านเส้นผมที่รุนแรง หรืออยากจะปรึกษาปัญหาเส้นผมต่างๆ สามารถปรึกษาคุณหมอพอล ที่ All About Clinic ได้ โดยเรามีบริการดูแลและบำรุงเส้นผม อย่าง Anti Hairloss Program และ PRP ที่จะช่วยฟื้นฟูเส้นผมของท่านให้กลับมาแข็งแรง ดกดำ เงางาม สวยเป็นธรรมชาติ ปรึกษาคุณหมอผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Line @AACCENTER 

เลเซอร์ขน หน้าใส ลดผมร่วง