การเกิดผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะเส้นผมเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการช่วยเสริมใบหน้าให้ดูดี แต่บางคนก็อาจจะห้ามไม่ให้ผมร่วงไม่ได้ เนื่องจากเกิดจากภาวะผมบางจากพันธุกรรม โดยเฉพาะในเพศชายที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชาย DHT ที่มากกว่าปกติ จนมีผลต่อกระบวนการสร้างเส้นผม ทำให้ผมร่วงมากกว่าเพศหญิง จึงต้องคิดหาแนวทางการแก้ไขและรักษา บางรายอาจจะเลือกการ ปลูกผม เพื่อเป็นการแก้ปัญหา แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งบางคนอาจจะไม่อยากเสี่ยงผ่าตัดและไม่อยากเจ็บตัว ก็อาจจะหาวิธีรักษาด้วยการกินยา Finasteride แต่ยาตัวนี้คืออะไร จะมีผลข้างเคียงที่อันตรายหรือไม่ และมีข้อควรระวังในการใช้อย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ
มาเริ่มทำความเข้าใจกับยาฟีนาสเตอไรด์ กันก่อนเลย ซึ่งเป็นยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมีงานวิจัยมากมายรองรับว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องเส้นผมได้จริง โดยทำให้เส้นผมมีจำนวนความหนาแน่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการรักษาผมร่วง ผมบางได้อย่างถาวร แต่ก็สามารถช่วยชะลอให้ผมหลุดร่วงน้อยลงได้ โดยตัวยาฟีนาสเตอไรด์ เป็นยากลุ่ม 5-alpha reductase inhibitors ที่จะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศชาย DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะมีบทบาทที่ทำให้เกิดภาวะผมบาง ที่เป็น สาเหตุผมร่วง จนทำให้หัวล้านนั่นเอง นอกจากนี้ตัวยายังใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโต แต่การรักษาก็จะแตกต่างกันออกไปตามปริมาณของยาและระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ยาฟีนาสเตอไรด์ มีสรรพคุณในการใช้รักษาภาวะผมร่วงตามกรรมพันธุ์แล้ว ยังสามารถรักษาโรคต่อมลูกหมากโตในเพศชายได้ด้วย แต่จะมีการใช้ขนาดยาที่แตกต่างกัน ดังนี้
การใช้ยา finasteride ขนาด 1 มิลลิกรัม/วัน จะเป็นการใช้เพื่อรักษาผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน โดยการรักษาด้วยตัวยานี้จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของเส้นผม หลังจากที่ได้รับการรักษาระยะเวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งผมก็จะค่อยๆ หลุดร่วงน้อยลง และจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนมากที่สุดเมื่อใช้ยาฟีนาสเตอไรด์ไปแล้วประมาณ 1 ปี แต่หากมีการหยุดใช้ยาก็จะทำให้มีโอกาสกลับมาผมร่วงหรือหัวล้านได้อีกครั้ง
สำหรับการใช้ยาฟีนาสเตอไรด์ ขนาด 5 มิลลิกรัม/วัน จะเป็นการใช้เพื่อรักษา โรคต่อมลูกหมากโต ในเพศชาย และจะใช้ระยะเวลารักษาอย่างน้อยประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งก็สามารถใช้ในการรักษาวะผมร่วงได้ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวยาขนาด 1 mg ก็เพียงพอต่อการรักษาผมร่วงได้แล้ว เพราะหากใช้ขนาด 5 mg เพื่อรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ก็อาจจะเป็นอันตรายและมีผลข้างเคียงที่มากขึ้นอีกด้วย
การใช้ ยาแก้ผมร่วง อย่างยาฟีนาสเตอไรด์ ควรใช้อย่างระมัดระวัง และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ถึงขั้นรุนแรง ซึ่งอาการข้างเคียงที่มักเกิดขึ้นขณะทำการรักษา ได้แก่
สำหรับการรักษาโรคผมร่วง ผมบาง ด้วยการทานยาฟีนาสเตอไรด์ เพื่อต้องการปริมาณเส้นผมก็ควรใช้อย่างถูกวิธี พร้อมกับได้รับปริมาณยาและระยะเวลารักษาอย่างถูกต้อง และอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอย่างรุนแรง แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง นอกจากนี้การรักษาด้วยตัวยานี้ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาผมหลุดร่วงได้อย่างถาวร เมื่อหยุดยาก็จะยังมีโอกาสที่จะกลับมาเกิดภาวะผมร่วงได้อีกครั้ง ดังนั้นหากอยากรักษาอย่างถาวรก็อาจจะต้องปรึกษากับคุณหมอ เพื่อหาทางรักษาที่ตรงจุด และเหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วย โดยที่ All About Clinic มีบริการดูแลเส้นผมที่หลากหลาย ทั้งโปรแกรมบำรุงหนังศีรษะ Anti Hairloss Program , การทำ PRP และปลูกผมถาวร โดยสามารถปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Line @AACTHAILAND
อ่านบทความล่าสุด
รับสิทธิ์ส่วนลด 60% ทุกบริการ