ยาแก้ผมร่วง
Home » ยาแก้ผมร่วง อันตรายหรือไม่ ใช้แล้วเห็นผลจริงไหม ?

ยาแก้ผมร่วง อันตรายหรือไม่ ใช้แล้วเห็นผลจริงไหม ?

การใช้ยาแก้ผมร่วงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาอาการผมบาง ศีรษะล้าน เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย และเป็นการรักษาที่ใช้งบไม่สูงมาก สามารถดูแลได้ด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้การใช้ยาในการรักษาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ หรือเภสัชกร เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง และให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลมากที่่สุด แต่หลาย ๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าถ้าจะใช้ยารักษาผมร่วงนั้นอันตรายหรือไม่ และได้ผลจริงไหม วันนี้เราจะพาท่านไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูกันเลย

เลือกอ่านหัวข้อในบทความ

ใช้ยารักษาผมร่วง ได้ผลจริงหรือไม่ ?

ผมล้าน ผมบาง มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังนั้นการใช้ยารักษาผมร่วง จึงต้องหาสาเหตุผมร่วงที่ตรงจุดก่อน เพราะการใช้ยาแต่ละชนิดจะช่วยรักษาให้ตรงจุดได้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะพบว่าสาเหตุของผมร่วงจะเกิดขึ้นจากพันธุกรรมที่บริเวณหนังศีรษะพบระดับเอนไซม์  5α-reductase (5-alpha reductase) เพิ่มขึ้น โดยเอนไซม์ชนิดนี้จะทำหน้าที่ในการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ไปเป็น ไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน (DHT) และฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะมีขนาดที่เล็กลง เส้นผมที่ขึ้นใหม่ก็จะมีลักษณะที่สั้นและบางขึ้น ทำให้เกิดภาวะผมบางหลุดร่วงในที่สุด

ซึ่งการทำงานของยาแก้ผมร่วงนั้น จะทำการรักษาภาวะผมร่วงในเบื้องต้นเท่านั้น โดยการทำงานของตัวยาจะช่วยส่งเสริมบำรุงเซลล์รากผมที่ยังทำงานได้ ยาบางชนิดจะออกฤทธิ์ที่ช่วยในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5α-reductase แต่ทั้งนี้ ตัวยาเองไม่สามารถที่จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่เสียหายไปแล้วสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นมาได้อีก ได้เพียงช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมเท่านั้น หากต้องการรักษาผมร่วงแบบถาวร การปลูกผม เป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรมากกว่าค่ะ

ยาแก้ผมร่วง ที่ปลอดภัยและนิยมใช้ในปัจจุบัน

ในปัจจุบันยารักษาผมร่วงที่นิยมใช้จะมีทั้งยาชนิดเม็ดและยาแบบทา แต่ตัวยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา จะมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือยาไฟแนสเตอรายด์ (Finasteride) และไมนอกซิดิวล์ (Minoxidil) โดยตัวยาแต่ละตัวจะช่วยลดผมร่วง ดังนี้

ยาไฟแนสเตอรายด์ (Finasteride)

เป็นยาแก้ผมร่วงชนิดกิน ตัวยาจะช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha reductase ทำให้ฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วงลดลง และยังช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมอีกด้วย แต่ผลข้างเคียงของตัวยาที่พบได้บ่อยจะทำให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และทำให้ความต้องการทางเพศลดลงได้ แต่หากหยุดใช้ยาร่างกายก็จะกลับไปเป็นปกติ หรือหากใช้ยาไปสักระยะจนร่างกายปรับตัวกับยาได้ผลข้างเคียงก็จะลดลง 

คำแนะนำการใช้ยา

สำหรับการรับประทานยาแนะนำให้ทานยาขนาด 1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง โดยทานติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือนจึงจะเห็นผล 

ข้อควรระวัง

เนื่องจากตัวยาจะส่งผลต่อฮอร์โมน DHT ที่พบได้ในผู้ชาย การใช้ยาในผู้หญิงจึงไม่ส่งผล อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงหากใช้ในหญิงมีครรภ์ ก็อาจจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้

ยาไมนอกซิดิวล์ (Minoxidil)

สำหรับยาตัวนี้มีทั้งชนิดที่เป็นยาทาภายนอก และยาแบบทาน นิยมใช้ในการรักษาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม โดยตัวยาจะทำงานโดยช่วยขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงรากผมทำให้กระตุ้นการงอก และชะลอการหลุดร่วง ยืดอายุขัยของเส้นผม โดยตัวยาไมนอกซิดิวล์เป็นยาแก้ผมร่วง สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย สามารถช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้ทุกเพศ

คำแนะนำการใช้ยา

ยาชนิดทานแนะนำให้ทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 5 มิลลิกรัม ส่วนยาโลชั่นแบบทา ให้ใช้ทาบริเวณที่มีผมร่วงบางวันละ 2 ครั้ง ส่วนความเข้มข้นของตัวยาแบบโลชั่นสำหรับผู้ชายสามารถใช้ได้ที่ 5% Minoxidil ครั้งละ 1 ซีซี แต่สำหรับผู้หญิงแนะนำให้ใช้ที่ความเข้มข้น 2% Minoxidil เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยาค่ะ

ข้อควรระวัง

ในผู้ที่ใช้ยาแก้ปัญหาผมร่วงแบบทา อาจจะพบอาการระคายเคืองจากแอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนผสมในตัวยา ส่วนยา Minoxidil แบบเม็ดจะมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด ตาพล่ามัว และถ้าทานยาจนเกินขนาดอาจจะถึงขั้นหมดสติได้เลย

ยาแก้ผมร่วงยี่ห้อไหนดี ?

ตัวยาไฟแนสเตอรายด์และยาไมนอกซิดิวล์ เป็นยารักษาผมร่วงที่แก้ปัญหาคนละส่วนกัน ดังนั้น ถ้าถามว่ายาตัวไหนดีกว่ากันนั้น ต้องดูว่าร่างกายและสภาพหนังศีรษะตอบสนองการรักษากับยาตัวไหนมากกว่ากัน แต่สำหรับผู้หญิงแนะนำเป็นยาไมนอกซิดิวล์มากกว่า เนื่องจากการทำงานของยาจะมีประสิทธิภาพมากกว่ายาไฟแนสเตอรายด์ ที่ตัวยาจะเน้นการรักษาที่ช่วยลดฮอร์โมนที่ทำให้ผมของผู้ชายร่วงมากกว่า ส่วนการเลือกยี่ห้อยาที่มีขายในท้องตลาด สามารถปรึกษาเภสัชกรเพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมจะดีที่สุด

การใช้ยารักษาผมร่วง จะเห็นผลเมื่อไหร่

สำหรับการรักษาอาการผมร่วงผมบางด้วยการใช้ยา จะเริ่มเห็นผลหลังจากใช้ยาติดต่อกันประมาณ 6 เดือน นอกจากการใช้ยาแล้วแนะนำให้ทำหัตถการบำรุงเส้นผมเพิ่มเติม เช่น การทำ Premium PRP คือ นวัตกรรมบำรุงเส้นผมด้วยเกล็ดเลือดที่นำไปปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร ช่วยกระตุ้นบำรุงเซลล์รากผม หรือการทำ Anti Hair Loss Program ที่เน้นการรักษาแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะเจาะจงแต่ละเคส

นอกจากการทำหัตถการต่าง ๆ แล้ว การดูแลตัวเองเพื่อลดการหลุดร่วงของเส้นผมก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมเพื่อลดผมขาดหลุดร่วง หรือการหาสาเหตุของผมร่วงและแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สแกน QR Code หรือแอดไลน์ Official @aacthailand (มีแอดด้านหน้า)
เลเซอร์ขน หน้าใส ลดผมร่วง