จมูกทะลุ เป็นอาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ หลังเสริมจมูก ซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์ ที่มีความรุนแรง สามารถทำให้ใบหน้าเสียโฉมได้ และอาการจมูกทะลุ ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจมา แก้จมูก บางเคสอาจจะ สามารถแก้ไขได้เลยในทันที แต่บางเคสต้องมีการถอดซิลิโคน เพื่อพักจมูก ก่อนที่จะแก้จมูกไปอีกหลายเดือน ในครั้งนี้ทาง AAC จึงจะมาแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันการทะลุของ ซิลิโคนเสริมจมูก และวิธีการเช็คว่า อาการแบบไหน ? คืออาการ จมูกใกล้จะทะลุ ใครที่กำลังจะตัดสินใจ เสริมจมูก ต้องห้ามพลาดบทความนี้ !!
จมูกทะลุ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างอันตราย ต่อร่างกาย ถ้าหากปล่อยไว้ โดยไม่มีการรักษา ส่งผลทำให้ติดเชื้อ และยังทำให้เกิด อาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน และเพื่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที หากเกิดอาการ ซิลิโคนเสริมจมูกทะลุ เราจึงได้รวบรวมเอา สัญญาณเตือน ของอาการจมูกทะลุ ทั้ง 5 แบบ ไว้ให้คุณสามารถ เช็คจมูกได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
ผิวที่ปลายจมูกมีความผิดปกติ คือ ผิวปลายจมูกบาง ปลายจมูกจะมันวาว สะท้อนแสงได้ หรือผิวที่บริเวณปลายจมูกมีสีขาวใส บางเคสผิวบางจนสังเกตเห็น แท่งซิลิโคนได้ ผิวปลายจมูกมีสี่ที่เปลี่ยนไป อาจจะเป็นสีแดง หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น รวมไปถึงการมีสิวอักเสบเกิดขึ้น ที่บริเวณปลายจมูก
วัสดุเสริมจมูก ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน หรือกระดูกอ่อน โผล่ออกมาด้านนอก จนสามารถสังเกตเห็นได้ชัด เป็นเพราะผิวหนังบางมาก ซึ่งอาจจะโผล่ออกมาได้ทั้งบริเวณปลายจมูก และบริเวณสันจมูก
มีอาการระคายเคือง ที่บริเวณปลายจมูก หรือมีอาการเจ็บ แสบ รวมไปถึง อาการเจ็บจมูก อาการเจ็บตรงบริเวณที่เสริมจมูก
การที่มีแผลที่บริเวณปลายจมูกซ้ำ ๆ เป็นแผลแล้วหายช้า หรือหายอยาก อาจจะหมายถึงการติดเชื้อ ที่บริเวณปลายจมูก ซึ่งเกิดจากการทะลุของซิลิโคน ที่ผิวหนังบริเวณนั้น
จมูกผิดรูป สังเกตได้จากผิวหนังที่บริเวณปลายจมูกยุบตัว เป็นรอยบุ๋ม หรือที่บริเวณปลายจมูกงุ้มลงมาแบบผิดปกติ เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูก ไม่สามารถรองรับวัสดุเสริมจมูกได้
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า อาการจมูกทะลุ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดได้จาก การเลือกใช้ วัสดุเสริมจมูก ที่ไม่เหมาะสม การเลือกเสริมทรงจมูกที่ ฝืนเนื้อจมูกมากเกินไป การดูแลตัวเองที่ไม่เหมาะสม หลังจากที่เสริมจมูกไปแล้ว เป็นต้น
เลือกใช้ วัสดุเสริมจมูก ที่ไม่เหมาะสม เช่น การเลือกใช้ซิลิโคนเสริมจมูก ที่มีขนาดใหญ่เกินไป การเลือกเสริมจมูก ทรงที่ฝนเนื้อจมูกมากเกินไป ทำให้ผิวที่ปลายจมูกบาง เสี่ยงต่อการทะลุของซิลิโคนเสริมจมูก
เทคนิคการผ่าตัด ที่ไม่เหมาะสม เช่น การวางซิลิโคนผิดตำแหน่ง ไม่อยู่ที่ชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ก็จะทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวได้ หรือที่เรียกว่า ซิลิโคนไหล ลงมาที่ปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกงุ้ม ซิลิโคนเสียดสี กับผิวหนังที่ปลายจมูก จนบาง และอาจจะทำให้เกิดการทะลุได้
การอักเสบ ติดเชื้อ หลังจากการเสริมจมูก เป็นเพราะดูแลแผลหลังผ่าตัด ได้ไม่ดีเท่าที่ควร เช่น การล้างแผลที่ไม่ถูกวิธี หรือพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้แผลผ่าตัดหายช้า เมื่อมีการติดเชื้อ ที่บริเวณแผลผ่าตัด จะทำให้ผิวหนังบางลง และทำให้เกิดการทะลุของวัสดุเสริมจมูกได้
การได้รับแรงกระแทก หรือแรงกดที่จมูก ทำให้วัสดุเสริมจมูกเคลื่อนที่ จมูกผิดรูป และทำให้จมูกทะลุได้ หลังการเสริมจมูก จึงต้องมีวิธีการดูแลตัวเอง อย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการขยี้จมูกแรง ๆ หรือเลี่ยงกิจกรรม ที่อาจจะทำให้ เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูก
การไหลเวียนเลือดมีปัญหา ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี อาจจะเป็นเพราะ โรคประจำตัว หรือสุขภาพด้านอื่น ๆ ส่งผลทำให้การฟื้นตัว ของเนื้อเยื่อช้าลง เนื้อเยื่อผิวที่ปลายจมูกบางลง ทำให้เสี่ยงต่อการทะลุได้ และถ้าหากเป็นเคสที่มีผิว ปลายจมูกบาง ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จมุกทะลุมากขึ้น
แนวทางการรักษา อาการจมูกทะลุ จะแบ่งตามระดับความรุนแรง ของอาการที่พบ โดยจะมีตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ที่อาการยังไม่รุนแรง จนถึงอาการรุนแรง คือ ซิลิโคนทะลุออกมาด้านนอก ซึ่งจะมีการรักษา ดังนี้
การป้องกันจมูกทะลุ สามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนเริ่ม เสริมจมูก เพราะ คงไม่มีใครอยากพบกับ ปัญหาหลังเสริมจมูก อย่างอาการจมูกทะลุ เพราะนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายแล้ว ยังต้องเจ็บตัว ไม่ได้จมูกสวยตามที่ต้องการ เสียเวลาในการพักรักษาตัว และเสียใจ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเสริมจมูก ควรทำตามคำแนะนำ ดังนี้
สำหรับใครที่สนใจ อยากจะ เสริมจมูก หรือกำลังมีปัญหาหลังเสริมจมูก สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ All About Clinic เพราะ เราพร้อมให้บริการด้านเสริมจมูก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกแบบ Close หรือแบบ Open ทางเรายังมีบริการ แก้จมูก ในเคสที่มีปัญหา จมูกเบี้ยวเอียง จมูกทะลุ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง และวิสัญญีแพทย์ สำหรับเคสที่ต้องผ่าแบบใช้ยาสลบ